ส.ว.นันทนา ยกวลีอมตะ ‘ไอน์สไตน์’ เย้ยแรง ส่งศาลยื้อเวลาซ้ำซาก แนะเลิกเอารธน.เป็นตัวประกัน
GH News March 17, 2025 05:05 PM

ส.ว.นันทนา ซัด ดับเบิ้ลญัตติส่งศาลรธน. เป็นการกลับหลังหันย้อนเวลาหาอดีต เหตุศาลฯเคยตีความแล้ว ยก ‘ไอน์สไตน์’ เคยกล่าวไว้ว่า มีแต่คนวิกลจริตเท่านั้นที่ทำแต่สิ่งเดิมซ้ำๆ

จากการประชุมร่วมกันของรัฐสภาซึ่งพิจารณาญัตติด่วน เรื่องขอให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง(2) ของนพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ส.ว.เป็นผู้เสนอ และญัตติของนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอ ซึ่งค้างมาจากการประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 68 โดยที่ประชุมมีมติให้พิจารณาทั้ง 2 ญัตติไปพร้อมกัน เนื่องจากมีเนื้อหาในทำนองเดียวกันเกี่ยวกับการเพิ่มหมวด 15/1 กรณีการจัดตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) มายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยที่ยังไม่ได้ทำประชามติสอบถามความเห็นประชาชนว่า ต้องการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่นั้นจะกระทำได้หรือไม่

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม น.ส.นันทนา นันทวโรภาส ส.ว. อภิปรายว่า อาการของท่านมันออกมานานแล้วที่ไม่อยากจะแก้รัฐธรรมนูญ ถ้าจำเป็นจะต้องแก้ก็พยายามยื้อให้นานที่สุด ทั้งที่ตอนหาเสียงก็บอกจะแก้รัฐธรรมนูญกันทุกพรรค ไม่เชื่อไปเอาคลิปเสียงมาดูได้ แต่พอถึงเวลาที่ควรจะแก้ ก็ตีกรรเชียงจนกลายเป็นดับเบิ้ลญัตติในวันนี้ ทำไมเราจึงต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความเรื่องนี้กันอีก

น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)

ตนมองว่าเป็นการกลับหลังหันย้อนเวลาหาอดีตกลับไปเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญเคยตีความไว้ตั้งแต่ปี 64 มีความชัดเจนในตัวแล้ว การส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความในครั้งนั้น นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ บางทีผู้ที่เสนอญัตติใหม่ในวันนี้ อาจจะลืมไปว่านายชูศักดิ์อยู่พรรคเดียวกับท่าน แล้วท่านไม่เคยคุยกันในพรรคเลยหรือ ถึงต้องมาเสนอญัตติใหม่ และการที่ศาลฯไม่ได้วินิจฉัยในครั้งนั้น แสดงว่ามอบอำนาจให้แก่รัฐสภา และพูดชัดว่าให้ทำประชามติ 2 ครั้ง ไม่มีการพูดถึงครั้งที่ 3 แล้วเราจะส่งไปถามอีกทำไม หรืออยากจะให้ศาลเปลี่ยนแปลงคำวินิจฉัย

“ไอน์สไตน์ เคยกล่าวไว้ว่ามีแต่คนวิกลจริตเท่านั้นแหละ ที่ทำแต่สิ่งเดิมซ้ำๆ แต่กลับหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง เราใช้เวลาอีกเป็นเดือนหรือหลายเดือน เพื่อจะรับคำตอบเดียวกับปีที่แล้วหรือ ที่สำคัญเราอยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ได้อยู่ระบอบประชาธิปไตยภายใต้ศาลรัฐธรรมนูญ ทุกย่างก้าวต้องถามศาลรัฐธรรมนูญ ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ ก็ยังต้องเสนอให้ศาลวินิจฉัยอีกนี่มันเกินขอบเขตอำนาจไปหรือไม่ ทำกันแบบนี้จะเหลือความเป็นประชาธิปไตยที่ไหนอีก” น.ส.นันทนา กล่าว

น.ส.นันทนา กล่าวต่อว่า ถ้าฝ่ายนิติบัญญัติที่มาจากประชาชนโดยตรงต้องไปถามศาลรัฐธรรมนูญทุกเรื่อง น้ำหก กระจกแตก ก็ต้องไปถามหมด จนเหมือนครูใหญ่ดูแลเด็กอนุบาล ท่านอยากให้เป็นอย่างนั้นหรือ หลักการคานอำนาจ 3 เสา บริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ยังใช้ในประเทศไทยของเราได้หรือไม่ ถ้าใช่เราก็ต้องยืนยันอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติที่หนักแน่นและชัดเจน ตนหวังว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เอารัฐธรรมนูญมาเป็นตัวประกัน เล่นเกมแพ้ชนะในการเมืองของพวกท่าน ประชาชนต้องการรัฐธรรมนูญที่ดี เพื่อจะได้มีผู้ปกครองที่ดี และเมื่อเขามีผู้ปกครองที่ดี ปากท้องเขาก็จะดีตามมา จึงเป็นเหตุผลที่เราต้องเร่งแก้รัฐธรรมนูญให้ประชาชนปากท้องที่ดีกว่าทุกกว่านี้

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.