หาดทิพย์ เปิดผลงานปี 2567 รายได้ 8,129 ล้านบาท วางแผนปี’68 ลุยตลาดขวดแก้ว จับกลุ่ม HoReCa ยอดขายโต 5-7% รายได้รวม 8,700 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าหมายใหญ่ ภายในปี 2575 ทำรายได้แตะ 15,000 ล้านบาท ครองมาร์เก็ตแชร์แตะ 35%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มในเครือโคคา-โคล่าในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยผลประกอบการประจำปี 2567 ระบุว่า บริษัทฯ รายงานรายได้จากการขาย เท่ากับ 8,129.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
จากปริมาณการขายที่เติบโตร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และได้รับประโยชน์จากการบริหารการเติบโตของรายได้ (Revenue Growth Management) ผ่านกลยุทธ์ Pack/Price Mix และมีการปรับราคาสินค้าในบางผลิตภัณฑ์ในครึ่งปีหลังของปี 2567 ส่งผลให้มีอัตรากำไรขั้นต้น เท่ากับร้อยละ 42.7 เพิ่มขึ้น 0.5 จุดเปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ขณะที่กำไรสุทธิประจำปี 2567 เท่ากับ 601.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมามีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 7.4
พลตรี พัชร รัตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนธุรกิจในปี 2568 ว่าจะเป็นอีกหนึ่งปีที่บริษัทฯ เติบโตอย่างมีศักยภาพ โดยตั้งเป้าอัตราการเติบโตของยอดขายที่ 5-7% และมีรายได้รวมที่ 8,700 ล้านบาท สำหรับปี 2567 บริษัทฯ สามารถรักษาการเติบโตไว้ได้ในอัตรา 4 % ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 602 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4 ล้านบาท หรือประมาณ 0.6 % เมื่อเทียบกับปี 2566
โดยคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 ให้จ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายของปี 2567 ในอัตรา 0.57 บาทต่อหุ้น ซึ่งเมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่ได้จ่ายไปแล้วตั้งแต่เมื่อเดือนกันยายน 2567 ที่อัตรา 0.48 บาทต่อหุ้น เท่ากับบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลรวมสำหรับปี 2567 ในอัตรา 1.05 บาทต่อหุ้น และมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลอยู่ในระดับ 6%
พลตรี พัชร เชื่อมั่นว่าปี 2568 จะเป็นปีที่ดีอีกปีหนึ่งของหาดทิพย์ โดยจากการศึกษาของธนาคารแห่งประเทศไทยคาดว่าเศรษฐกิจภาคใต้จะขยายตัวมากขึ้นในช่วง 3.1-4.1 % จากผลผลิตเกษตรที่กลับมาขยายตัว ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงการผลิตเพื่อส่งออกจะขยายตัวตาม อุปสงค์ต่างประเทศที่ปรับดีขึ้น ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย
หาดทิพย์ ในฐานะผู้นำตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในภาคใต้ จะเดินหน้าพัฒนาการปฏิบัติการในตลาดให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่องทางที่กำลังเติบโตรวดเร็วอย่างกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร และคาเฟ่ (HoReCa) ซึ่งมีความเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ขวดแก้วคืนขวดรุ่นใหม่ของเรา และยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากจากกระแสการลดใช้พลาสติกของลูกค้าและลุคที่ดูพรีเมียมของขวดแก้วซึ่งเป็นบรรจุภัณฑ์ที่คู่แข่งหลักของเราไม่มี
นอกจากนี้ หาดทิพย์ จะจับมือกับโคคา-โคล่าสร้างความเติบโตจากผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ไม่มีน้ำตาลซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วต่อเนื่องมาหลายปี และยังคิดเป็นเพียง 5% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งหมายถึงยังมีโอกาสในการเติบโตได้อีกมาก
ทั้งนี้ ข้อมูลปริมาณการขายเครื่องดื่มประจำปี 2567 เท่ากับ 72.4 ล้านยูนิตเคส เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากข้อมูลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2567 เท่ากับ 35.5 ล้านคน เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 เท่ากับ 28.0 ล้านคน
โดยในภาคใต้มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวที่เป็นชาวต่างประเทศที่เข้าพักในสถานพักแรม เท่ากับร้อยละ 47.1 เทียบกับตัวเลของทั้งประเทศ ที่เท่ากับร้อยละ 23.3
ขณะที่ช่องทางการขายที่มีปริมาณการขายเติบโตเป็นอย่างดีตามการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยว ได้แก่
บริษัทฯ ใช้กลยุทธ์บริหารการเติบโตของรายได้ผ่านราคา (Price mix) ขนาดและรูปแบบผลิตภัณฑ์ (Pack
mix) ช่องทางการจำหน่าย (Channel mix) และความสามารถในการปฏิบัติการในตลาด (Market
Execution)
ส่วนผลิตภัณฑ์กลุ่มไม่มีน้ำตาล (Zero Sugar) เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเติบโตร้อยละ 22.9 เมื่อเทียบกับ
ช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีสัดส่วนยอดขายผลิตภัณฑ์ไม่มีน้ำตาล Zero Sugar ร้อยละ 5.1 เทียบกับ
ยอดขายเครื่องดื่มทั้งหมด
ในส่วนของแผนงานระยะกลางและระยะยาว บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะขยายการเติบโตและรักษาความเป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (Non-alcoholic Ready-to-Drink: NARTD) ในพื้นที่ภาคใต้ให้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน บริษัทฯ สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ในพื้นที่ภาคใต้ได้ที่ 25 % และมีเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนนี้ให้ได้ถึง 30% ภายในปี 2570 และ 35 % ภายในปี 2575 พร้อมตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 15,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ มีข้อมูลจาก นีลเส็น ประเทศไทย แสดงภาพรวมตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ในพื้นที่ภาคใต้ประจำปี 2567 พบว่ามีการเติบโตร้อยละ 10.1 แบ่งเป็นกลุ่มเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมเติบโตร้อยละ 9.5 กลุ่มน้ำดื่มเติบโตร้อยละ 10.9 และ กลุ่มน้ำผลไม้พร้อมดื่มเติบโตร้อยละ 15.2 ซึ่งหาดทิพย์ เป็นผู้นำในกลุ่มเครื่องดื่มพร้อมดื่มดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ มีมูลค่าส่วนแบ่งทางการตลาดที่ร้อยละ 24.7 โดยส่วนแบ่งทางการตลาดน้ำดื่มเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 8.0 ขณะที่กลุ่มเครื่องดื่มน้ำอัดลมมีสัดส่วนทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่งในพื้นที่ภาคใต้ที่ร้อยละ 78.3
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับนโยบายด้านความยั่งยืนเพื่อมุ่งสร้างธุรกิจที่เติบโตควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยในปีนี้ตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานทดแทนให้ได้ถึง 25% ของการใช้พลังงานทั้งหมดในกระบวนการผลิต เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2593
ส่วนเป้าหมายความยั่งยืนด้านบรรจุภัณฑ์นั้น นอกจากการมุ่งสร้างธุรกิจขวดแก้วให้เติบโตเพื่อลดการพึ่งพาบรรจุภัณฑ์พลาสติกแล้ว บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับโคคา-โคล่าและองค์กรพันธมิตรเพื่อจัดเก็บบรรจุภัณฑ์ในพื้นที่ภาคใต้และนำกลับมารีไซเคิลใช้ใหม่ (Collection for Recycling) โดยในขณะนี้ บริษัทฯ กำลังอยู่ในระหว่างการหารือกับโคคา-โคล่าและองค์กรพันธมิตรเพื่อกำหนดเป้าหมายและกรอบระยะเวลาที่เหมาะสม โดยคาดว่าจะเปิดตัวโครงการได้ภายในปีนี้
ข่าวสด รายงานว่า พล.ต.พัชร เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีแผนปรับราคาเครื่องดื่มน้ำอัดลม แม้ว่าราคาวัตถุดิบจะปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสถานการณ์โลกที่ผันผวน โดยเฉพาะการจัดเก็บภาษีน้ำตาลที่กำลังเข้าสู่เฟส 4 ในวันที่ 1 เม.ย.นี้ จะส่งผลกระทบต่อการเงินทั้งปี 150 ล้านบาท ซึ่งส่งผลต่อต้นทุนสินค้าให้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก
“บริษัทไม่อยากขึ้นราคา ไม่ต้องการผลักภาระให้ผู้บริโภค ตอนนี้จึงจะยังไม่ปรับราคาขึ้น แต่ตั้งรับด้วยการบริหารจัดการให้ดีที่สุด เพื่อรักษาผลกำไร และสร้างการเติบโตจากผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่าง น้ำอัดลมไม่มีน้ำตาล และในกลุ่มเครื่องดื่มไม่อัดลม แต่หากในอนาคตถ้าเราจะจมก็คงต้องตัดสินใจปรับราคาขึ้น”