ททท.เชิญนายกฯ “แพทองธาร ชินวัตร” เปิดยิ่งใหญ่ “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย” 26-30 มี.ค.68 ปังสุด ๆ ยก77 จังหวัด 5 ภูมิภาค มาไว้ที่ศูนย์สิริกิติ์ 5 วัน คาดรายได้ทางตรง 200 ล้าน เงินสะพัดทางอ้อมเที่ยวต่อเนื่องตลอดปีอีก 500 ล้านบาท จัดเต็ม 9 โซน กระหน่ำขาย 5 Must Do in Thailand ปลุกกำลังซื้อตลาด 3 กลุ่ม คนในกรุง รอบปริมณฑล ต่างชาติพำนักในไทย เร่งโปรโมท “มหาสงกรานต์” 11-20 เม.ย.นี้ ผลิตลายแทงเที่ยวสงกรานต์ทั่วไทย
นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เตรียมแผนสื่อสารตลาดการท่องเที่ยวปี 2568 จัดกิจกรรมใหญ่ “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย” ระหว่างวันที่ 26-30 มีนาคม 2568 โดยจะยกเมืองไทยทั้ง 77 จังหวัด 5 ภูมิภาค มาไว้ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในกรุงเทพฯ พร้อมทั้งได้เรียนเชิญ “นางสาวแพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานวันที่ 26 มีนาคม 2568 เพื่อกระตุ้นการออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศต่อเนื่องถึงธันวาคม 2568
ททท.วางกลยุทธ์ใช้งาน “งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2568” ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากรอคอย ตั้งเป้าจะดึงดูดผู้เข้างานให้ได้ไม่ต่ำกว่า 200,000 คน กระตุ้นการใช้จ่ายเงินเฉลี่ย 1,000-2,000 บาท/คน คาดจะสามารถสร้างเงินสะพัดได้ราว 100-200 ล้านบาท แล้วยังมีโอกาสขยายผลเศรษฐกิจทางอ้อมอันเกิดขึ้นจากขายต่อเนื่องให้คนไปเที่ยวตลอดทั้งปีไปจนถึงธันวาคมนี้อีกกว่า 500 ล้านบาท
การจัดงานตลอด 5 วัน ททท.ประเมินแล้วจะได้แรงสนับสนุนสำคัญจาก 2 ปัจจัย ได้แก่ ปัจจัยที่ 1 ระบบการเดินทางสะดวกมีรถไฟฟ้าเข้าถึงสถานที่จัดงาน ปัจจัยที่ 2 งานมหกรรมสัปดาห์หนังสือที่คนนิยมมาเดินแล้วก็สามารถแวะมาชมงานท่องเที่ยว ซึ่งจะสร้างแรงบันดาลใจให้ออกเดินทางเที่ยวเมืองไทยตลอดปี เน้นเจาะ 3 ตลาด ได้แก่ กลุ่มที่ 1 คนในกรุงเทพฯ กลุ่มที่ 2 คนรอบปริมณฑลใกล้กรุง กลุ่มที่ 3 ต่างชาติที่พำนักอยู่ในไทย (expat)
งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2568 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 26-30 มีนาคม 2568นักท่องเที่ยวจะได้พบกับจุดขายเด่น ๆ ของแต่ละภาค 5 ไฮไลต์ นำมาไว้ใน 9 โซน ประกอบด้วย
โซนที่ 1-5 เสน่ห์ท้องถิ่น 5 ภูมิภาค ขณะนี้แต่ละภาคคัดสรรงานประเพณีและสถานที่จำลองเป็น “แลนด์มาร์ค” ประจำหมู่บ้านแต่ละภาค พร้อมกับสินค้าครบวงจรกมาเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กับนักท่องเที่ยว แบ่งเป็น 5 โซน ได้แก่
“โซนที่ 6” สุขทันที 65 ปี ททท.ภายใต้คอนเซ็ปต์ “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์” ในฐานะองค์กรชั้นนำด้านการท่องเที่ยว พร้อมจัดนิทรรศการ TeamLab สุดล้ำ ร้านกาแฟ อะเมซิ่ง คอฟฟี่กับเมล็ดพันธุ์ไทยแท้ ลุ้นรับอาร์ตทอยคอลเลคชั่นพิเศษ และอื่น ๆ
“โซนที่ 7” รวบรวมหน่วยงานพันธมิตรท่องเที่ยวมานำเสนอสินค้าดี ๆ จากทั่วประเทศ
“โซนที่ 8” เวทีกลาง พบความสนุกสนานบันเทิง เสน่ห์ไทย ซอฟท์ พาวเวอร์ ชมการเดินแฟชั่นโชว์ผ้าไทย 5 ภูมิภาค โชว์ศิลปวัฒนธรรม การแสดงร่วมสมัย จับรางวัล
“โซนที่ 9” การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน Sustainable Tourism Goals :STGs ส่งเสริมการเดินทางเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวทั่วไทย
ททท.จะใช้“กลยุทธ์การสื่อสารตลาด” เผยแพร่ประชาสัมพันธ์โดยใช้สื่อเข้าถึงเป้าหมายทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ โทรทัศน์ วิทยุ เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย อินฟลูเอนเซอร์ มียอดผู้ติดตามตั้งแต่ 1-3 แสนคน เพิ่มความน่าสนใจในบางเวลาจะจัดไลฟ์สดด้วย เพื่อแนะนำให้คนมาเลือกช้อป ชิม แชะ แชร์ ในแลนด์มาร์คแต่ละหมู่บ้าน 6 ภูมิภาค
นายนิธี กล่าวว่า จากนั้นเตรียมปูพรมสื่อสารตลาดเที่ยวเทศกาล “สงกรานต์” 11-15 เมษายน 2568 แนวโน้มการท่องเที่ยวเทศกาลประเพณีที่อยู่ในใจของนักท่องเที่ยวสงกรานต์ปี 2568 ททท.และทุกภาคส่วนจะร่วมมือกับกันสร้างการเติบโตระหว่างวันที่ 11-20 เมษายน 2568 จะกระตุ้นนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากกว่ากปี 2567 ให้เกินกว่า 10 %
ททท.พร้อมเดินหน้าโปรโมทพื้นที่จัดยิ่งใหญ่ “มหาสงกรานต์ท้องสนามหลวง” นำศิลปิน ดารา นักร้อง จัดเทศกาลงานแสดงดนตรีเปิดแผ่นและ EDM โชว์โดรนสวยงาม และการแสดง แสง สี เสียง ควบคู่กันไป
ปีนี้จะพลิกโฉม “ขบวนแห่มหาสงกรานต์” ท้องสนามหลวง ประจำปีปี 2568 ยิ่งใหญ่แตกต่างจากทุกปีที่บริเวณถนนราชดำเนินกลางถึงท้องสนามหลวง โดยได้คัดสรร “ซอฟท์ พาวเวอร์” นางสงกรานต์ แฟชั่น ภาพยนตร์
ส่วนการส่งเสริมสนับสนุนจัดงานประเพณีในภาคอื่น ๆ ททท.ได้จัดทำ “ลายแทงท่องเที่ยวสงกรานต์” ซึ่งแต่ละภูมิภาคมีพื้นที่อัตลักษณ์นำโดย “ภาคเหนือ” จัดสงกรานต์ สลุงหลวง จ.ลำปาง “ภาคอีสาน” แห่ต้นกระธูปยักษ์งานบุญออกพรรษา จ.ชัยภูมิ และเล่นสาดน้ำคลื่นมนุษย์ จ.ขอนแก่น “ภาคกลาง” เล่นสงกรานต์กับช้าง จ.พระนครศรีอยุธยา ตามด้วยสงกรานต์มอญปากลัด ทอยสะบ้า จ.สมุทรปราการ “ภาคใต้” ประเพณีแห่นางดาน จ.นครศรีธรรมราช กับ มิดไนท์ สงกรานต์ หาดใหญ่ จ.สงขลา และสงกรานต์ตามพื้นที่เสริมอื่น ๆ เดินหน้าเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านทุกช่องทาง
ททท.ภายใต้การนำของนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ และการกำกับดูแลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ขานรับนโยบายรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อทำให้อุตสาหกรรมการ่องเที่ยวเป็นพลังหลักสร้างรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจประเทศ โดยใช้กิจกรรม งานประเพณี เทศกาล ที่มีคุณค่าต่อส่วนรวมทุกรูปแบบกระจายเม็ดเงินตลอดปี 2568 ให้ได้ตามเป้าหมาย 3.5 ล้านล้านบาท
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen