โวย ‘ทุนจีน’ ฝืนคำสั่งสร้างโรงงานชลบุรี ต่างด้าวทะลัก ข้องใจอำเภอไม่รับเรื่องตรวจสอบ
GH News March 17, 2025 06:41 PM

นายทุนจีนยังฝ่าฝืนคำสั่ง เร่งปรับพื้นที่หมู่ 4 ต.บ่อกวางทองสร้างโรงงาน ไม่สนคำสั่ง ทต.บ่อกวางทอง แกนนำเผยชาวบ้านผวา แรงงานต่างด้าวถือมีดไม้บุกเข้าป่าล่าสัตว์ป่า หาผัก ผลไม้ เจอต้องหลบหวั่นถูกทำร้ายร่างกาย ชาวบ้านหมู่ 5 เดินหน้าเรียกร้องให้ตรวจสอบกากขยะเคมีฝังกลบ

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ว่าการอำเภอบ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี นายดำรงค์เดช พรงาม แกนนำชาวบ้านหมู่ 4 ต.บ่อกวางทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 4 ต.บ่อกวางทอง ได้นำหนังสือไปยื่นให้กับเจ้าหน้าที่อำเภอบ่อทอง เกี่ยวกับกรณีที่นายทุนจีนได้กว้านซื้อที่ดินประมาณ 100 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 4 ต.บ่อกวางทอง และได้มีการปรับหน้าดิน เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคาร และล้อมรั้วเพื่อกั้นอาณาเขตของโรงงาน ซึ่งทางเทศบาลตำบลบ่อกวางทองได้มีคำสั่งห้ามดำเนินการก่อสร้าง เนื่องจากพื้นที่บริเวณดังกล่าวยังไม่ได้ผ่านประชาพิจารณ์ในการสร้างโรงงาน จึงควรจะยุติการก่อสร้าง หลังจากนั้นมาทำประชาพิจารณ์ให้ชาวบ้านรอบๆ บริเวณโรงงานได้รับรู้ข้อเท็จจริงว่า พื้นที่บริเวณดังกล่าวจะประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอะไร ปรากฏว่าทางเจ้าหน้าที่อำเภอบ่อทองปฏิเสธจะรับเรื่องร้องเรียนในครั้งนี้

หลังจากนั้น นายดำรงค์เดช กล่าวว่า ในการยื่นหนังสือร้องในครั้งนี้ เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 4 ต.บ่อกวางทอง เกรงว่าหากมีการสร้างโรงงานสำเร็จ โดยไม่มีการผ่านประชาพิจารณ์ ชาวบ้านกลัวว่าจะเกิดผลกระทบจากการสร้างโรงงาน เพราะไม่รู้ว่าเป็นโรงงานเกี่ยวกับอะไร ซึ่งอาจจะสร้างผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งในเรื่องนี้ตนและชาวบ้านได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียนที่เทศบาลตำบลบ่อกวางทองเรียบร้อยแล้ว และได้ลงรับหนังสือไว้แล้ว จึงได้มาเยื่อนที่อำเภอบ่อทอง เพื่อให้การดำเนินการถูกต้องตามระเบียบของราชการ แต่เมื่อตนเองไปยื่น ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่เปิดดูนิดหน่อย พร้อมทั้งบอกว่ารู้เรื่องแล้ว แต่ไม่รับหนังสือร้องเรียน ทำให้งงมาก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งในเรื่องนี้เมื่อเจ้าหน้าที่อำเภอบ่อทอง ไม่รับหนังสือร้องเรียน คงต้องไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรีต่อไป

นายดำรงค์เดช กล่าวว่า ขณะนี้สงสัยมาก เมื่อทางเทศบาลตำบลบ่อกวางทองได้มีคำสั่งระงับการก่อสร้างไปแล้ว แต่ทุกวันนี้ยังได้มีการก่อสร้างอยู่ทุกวัน เหมือนกับไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ขณะนี้มีการก่อสร้างแทงค์แชมเปญไว้สำหรับเก็บน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังนำเครื่องมือหนัก รถแม็คโครขุดดินมาปรับพื้นที่อีกด้วย ทำงานกันทุกวัน หยุดวันอาทิตย์ หากกล่าวไปแล้วเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของเทศบาล และยังเป็นการกระทำความผิดซึ่งหน้าอีกด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรที่เข้ามาจับกุม และดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่นี่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องไม่สนใจ ทั้งที่ชาวบ้านร้องเรียนไปแล้วหลายครั้ง

“จากการที่มีการก่อสร้างโรงงานมากมายในอำเภอบ่อทอง ทำให้มีแรงงานต่างด้าวทะลักเข้ามากมาย โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ 4 ต.บ่อกวางทอง แรงงานเหล่านี้ไม่อยู่แค่ในอาณาเขตโรงงานเท่านั้น ยังพาพรรคพวกนำมีด นำไม้บุกเข้าไปในป่าล่าสัตว์ เก็บผลไม้ของป่า อาจกล่าวได้ว่าราบเป็นหน้ากลอง อาทิ ต้นผักหวานอายุ 40 กว่าปี ชาวบ้านเก็บด้วยการสอย แต่คนต่างด้าวบุกเข้าโค่นต้นผักหวานทิ้งเลย กบ เขียด ปลาในหนองน้ำจับเอาไปกินหมด” นายดำรงค์เดชกล่าวและว่า

ชาวบ้านที่พบเห็นคนต่างด้าวเหล่านี้เข้าป่าก็ต้องหลบ เพราะเกรงว่าจะถูกทำร้าย เนื่องจากเข้าไปในป่าจำนวนมากและนำมีดไปด้วย ทำให้ชาวบ้านผวาไปหมด แล้วบ้านเมืองนี้จะอยู่กันอย่างไร หากเจ้าหน้าที่ยังละเว้นไม่ตรวจสอบพฤติกรรมของคนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย

ทางด้าน นายรัฐรุจน์ ปิยะพงศ์ภัทร ที่ปรึกษาเครือข่ายป้องกันการทุจริตภาคประชาสังคม จังหวัดชลบุรี ได้เดินทางเข้าร้องเรียนกับ น.ส.ศิริลักษณ์ วิศวรุ่งโรจน์ อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี นายดวงจันทร์ อุ่นชาติ วิศวกรชำนาญการ อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี กรณีที่ผู้ประกอบการโรงงานชาวจีนในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร นำกากสารเคมีมาฝังกลบในพื้นที่ของบริษัทหนึ่ง ในต.บ่อกวางทอง ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นและน้ำเสีย สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 5 ต.บ่อกวางทอง หลังจากนั้นนายรัฐรุจน์กล่าวว่า ในเรื่องนี้ตนได้นำหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 5 ต.บ่อกวางทองเข้าพบอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา เนื่องจากโรงงานดังกล่าวอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรีได้มีคำสั่งให้หยุดดำเนินกิจการไปแล้ว ตั้งแต่ปี 2561

แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา ได้มีรถบรรทุกได้นำถุงบิ๊กแบ็คบรรจุสารเคมีจำนวนมากเข้ามาที่บริษัท วี เทคนิค รีไซเคิ่ล คาดว่านำสารเคมีดังกล่าวมาฝังกลบ ทั้งที่ยังไม่ได้รับอนุญาตจากอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 5 ต.บ่อกวางทอง และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบ่อกวางทอง ได้ร่วมกันควบคุมผู้นำสารเคมีมาทิ้งไว้ได้ นอกจากนี้จะเรียกร้องให้อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และนำตัวผู้กระทำความผิดนำสารเคมีมาฝังกลบ โดยไม่ได้รับอนุญาตมาลงโทษอีกด้วย

ทางด้าน น.ส.ศิริลักษณ์กล่าวว่า ตนได้รับหนังสือร้องเรียนแล้ว จะเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากเพิ่งเดินทางมารับตำแหน่งใหม่

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.