TCEBดันไมซ์ไทยทำรายได้ 2 แสนล้าน ผนึก 4 พันธมิตรโลกลุยขยายตลาดปี’68
GH News March 17, 2025 07:21 PM

TCEB ลุยขยายตลาดไมซ์ปี’68 ผนึกทั่วโลก 4 พันธมิตร “UFI-ซาอุดิอาระเบีย-จีน/ฮ่องกง-อินเดีย” ดึงงานเมกะอีเวนต์มาจัดในไทยปั๊มรายได้ 2 แสนล้านบาท ดึงนักเดินทาง 34 ล้านคน ข่าวดี !เม.ย.นี้ ทีมจัด Health Show จากยุโรปบินมาสำรวจพื้นที่ ลุ้นดึงงานเกมส์ย้ายมาไทย ในประเทศร่วมกับอิมแพ็คเมืองทองธานี 3 เรื่อง บูม สมาร์ท ซิตี้ สกาย-เอ็นทรานซ์ และเพิ่มห้องพักใหม่รวมกว่าพันห้อง

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2568 เป็นต้นไป ทีเส็บจะเดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์นำรายได้ทางตรงเข้าประเทศตามเป้าหมาย 200,000 ล้านบาท จะใช้กลยุทธ์ผนึกความร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรนานาชาติดึงงานระดับโลกเลือกมาจัดไทย

พันธมิตรกลุ่มแรก สมาคมการแสดงสินค้าโลก (UFI) จับมือกับทีเส็บนำร่องก่อน 2 งาน คือ

งานแรก Health Show เดือนเมษายนนี้จะมีผู้จัดงานจากยุโรปเดินทางมาไทย พร้อมทั้งมีผู้เกี่ยวข้องจากกระทรวงสาธารณสุขของไทยเข้าร่วมด้วย เนื่องจากไทยเคยมีประสบการณ์จัดงาน Health Expo 2022 จึงสามารถต่อยอดให้กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจเมดิคัล และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ด้วยโครงสร้างพื้นฐานไทยมีทั้ง โรงพยาบาล สถานบริการสุขภาพที่ได้มาตรฐานสากล พร้อมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ตอบโจทย์ผู้จัดงาน รวมทั้งผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าเฮลท์และเวลเนสในไทย

งานที่ 2 การแสดงสินค้านานาชาติงาน Gamescom Asia ทีเส็บกำลังเจรจาย้ายจากสิงคโปร์มาไทยสถาน สถิติเมื่อปี 2567 เป็นงานสำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้านธุรกิจและเปิดตัวผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีเกมใหม่ ๆ สร้างความตื่นเต้นทำรายได้ดีในตลาดไทยและนานาชาติ โดยมีกลุ่มผู้ประกอบการจาก 78 ประเทศ เข้าร่วมกว่า 40,000 ราย ในวงการจึงประเมินสถานการณ์หากเลือกมาจัดในไทยก็จะสามารถผนึกรวมไว้ในงาน Thailand Game Show ได้ด้วยเช่นกัน

พันมิตรกลุ่มที่ 2 “ซาอุดิอาระเบีย” เป็นประเทศดาวรุ่งมาแรงกำลังขยายฐานการลงทุนไมซ์นานาชาติ จึงเป็นโอกาสให้ทีเส็บนำจุดแข็งเข้าไปเปิดตลาดเรื่อง “การฝึกอบรมบุคลากรไมซ์” ในฐานะองค์กรที่ได้สั่งสมประสบการณ์มากว่า 15 ปี ด้วยการบุกเบิกและเป็นผู้นำจัดทำมาตรฐานสถานที่จัดประชุมทั้ง TMVS :Thailand MICE Venue Standards และ AMVS :ASEAN MICE Venue Standards โดยมีสถาบันการศึกษาไทยเข้าร่วมอยู่ในโครงการนี้จำนวนมาก พร้อมจะจับมือกันพัฒนานักศึกษาสร้างความพร้อมเสริมศักยภาพผลิตบุคลากรป้อนให้ซาอุดิอาระเบียได้ในอนาคต

รวมทั้งสามารถรองรับตลาดไมซ์ปี 2568-2570 ซึ่งจะมีงานแสดงสินค้านานาชาติจำนวนงานมากมาย เลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางเพิ่มขึ้น ตามผลวิเคราะห์ขณะนี้อุตสาหกรรมไมซ์ทั่วโลกนิยมเลือกมาจัดในภูมิภาคเอเชียมาแรง 4 ประเทศ ได้แก่  อินเดีย สาธารณรัฐประชาชนจีน ไทย โดยเฉพาะ “ซาอุดิอาระเบีย” ประกาศแผนลงทุนสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติ เพิ่มพื้นที่ขนาดใหญ่มากเพื่อเตรียมเป็นเจ้าภาพจัด World Expo 2030

พันธมิตรกลุ่มที่ 3 สาธารณรัฐประชาชนจีนและฮ่องกง ทีเส็บได้รับโอกาสจากจีนให้เข้าไปร่วมงานด้วยแล้วก็จะริเริ่มจัด MICE SHOW ASIA ขึ้น โดยการใช้รูปแบบเดียวกับทางยุโรป อเมริกา

กลยุทธ์ดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลจาก UFI 2025 ได้นำเสนอผลวิจัยถึงทิศทางตลาดไมซ์ในอนาคตมุ่งสู่ “เอเชีย” แล้วจีนเองในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็สามารถทำให้จีดีพีตลาดไมซ์เติบโตเฉลี่ยปีละ 7 % เป็นศูนย์กลางขยายตลาดจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ (Exhibtion) เพิ่มมากขึ้น ไทยโดยทีเส็บจะได้ร่วมขบวนไมซ์เอเชียสร้างพลังทางเศรษฐกิจใช้ศักยภาพด้านบุคลากรที่ผ่านการอบรมขั้นสูงเป็นจำนวนมากเข้าไปสร้างอาชีพ สร้างรายได้ อย่างยั่งยืน

นายจิรุตถ์ย้ำว่า ปี 2568 ทีเส็บเร่งเดินหน้าส่งเสริมการตลาดขานรับไมซ์ 2 ประเทศ มีแนวโน้มเติบโตเกิน 5 % ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน และอินเดีย ส่งสัญญาณขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2567 มีนักเดินทางกลุ่มไมซ์มาไทย 2.4 แสนคน คิดเป็น 10% ของทั้งหมด ปีนี้จะใช้กลยุทธ์สร้างไมซ์ให้เติบโตด้วย 3 S ได้แก่ 1.Spend More : ใช้จ่ายเงินเพิ่ม 2.Stay Longer : พำนักอยู่ในไทยนานวันขึ้น และ3.See You Again กลับมาจัดงานไมซ์ในไทยด้วยความถี่และจำนวนซ้ำปีละหลายครั้ง กระจายจากกรุงเทพฯ ไปยังภาคอื่นทั้ง ภาคเหนือ เชียงใหม่ ภาคใต้ ภาคอื่น ๆ

ปูพรมต่อยอดปี 2569 ไทยจะมีงานไมซ์นานาชาติขนาดใหญ่เด่นเข้ามาจัด ซึ่งจะทำให้มีโอกาสต้อนรับบุคคลสำคัญในวงการธุรกิจโลกจำนวนมาก เบื้องต้น 3 งานหลัก ได้แก่ 1.งานประชุม World Bank 2026 มีผู้เกี่ยวข้องทางการเงินทั่วโลกมารวมตัวกันในไทย  2.งานพืชสวนโลกอุดรธานี 2569 และ 3.งานประชุมสมาคมการแสดงสินค้าโลก ประจำภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิกปี 2569 หรือ UFI Asia-Pacific Conference 2026

พันธมิตรกลุ่มที่ 4 เจ้าของศูนย์ประชุมนานาชาติ ขณะนี้ทีเส็บกับอิมแพ็คเมืองทองธานี ร่วมมือกันขานรับตลาดไมซ์เชิญชวนนักเดินทางและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมไมซ์หลั่งไหลเข้าสู่เมืองไทยต่ำกว่า 34 ล้านคน โดยประกาศข่าวดีกับนานาชาติถึงความคืบหน้าของอิมแพ็คเมืองทองธานี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำบริการสถานที่งานไมซ์ระดับนานาชาติเคียงข้างอุตสาหกรรมไมซ์ของไทยมาตลอด ในปี 2568 จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น เป็นองค์ประกอบหลักรองรับตลาดไมซ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น 3 ส่วน คือ

ส่วนที่ 1 ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานแผนพัฒนาการลงทุน “สมาร์ท ซิตี้” เพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ผู้ใช้บริการทั้งตลาดคนไทยและต่างชาติ

ส่วนที่ 2 เดินหน้าโครงการ Sky Entrance หรือสะพานเชื่อมต่อระหว่างระบบรางรถไฟฟ้าสีชมพูเข้าสู่เมืองทองธานี เริ่มเปิดใช้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป แล้วทีเส็บก็ได้นำโครงการดังกล่าวไปอัพเดทในงาน UFI CEO Forum 2025 เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานใหม่พร้อมอำนวยความสะดวกให้นักเดินทางตอบโจทย์การจัดงานไมซ์อย่างยั่งยืน

ส่วนที่ 3 สร้างโรงแรมที่พักระดับ 4-5 ดาว ทำให้มีจำนวนห้องพักรวมกันกว่า 1,000 ห้อง กำหนดจะแล้วเสร็จเปิดได้ตั้งแต่ปี 2571 ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนยกระดับอิมแพ็คเมืองทองธานีเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของโลก (Worldclass Tourism Destination)  ที่มีบริการครบวงจร โดยพร้อมจะร่วมกับทีเส็บขยายตลาดไมซ์ทั้งในและต่างประเทศทั่วโลกอย่างเต็มที่

ทีเส็บพร้อมนำศักยภาพขององค์กรผนวกความร่วมมือเข้ากับทั้ง 4 พันธมิตร ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทยก้าวสู่เป้าหมายการทำรายได้ปีละ 200,000 ล้านบาท จากจำนวนนักเดินทาง 34 ล้านคน และการยกระดับไทยเป็น World festival เมืองศูนย์กลางจัดงานเทศกาลนานาชาติที่เข้มแข็งและยั่งยืนแห่งภูมิภาคเอเชีย

เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.