ภูมิธรรม เผยจีนให้เยี่ยมอุยกูร์ 5 คนจาก 40 อ้างเรื่องระยะทาง ขอเจอที่ส่งไปยุคบิ๊กตู่ได้ 1 คน
GH News March 17, 2025 08:20 PM

‘ภูมิธรรม’ เปิดกำหนดการยกคณะเยี่ยมอุยกูร์ 18-20 มี.ค. เผย ขอพบคนที่ถูกส่งไปปี’57 ยุค “บิ๊กตู่” หวังชาติตะวันตกได้ประจักษ์ ไม่กังวลถูกงดวีซ่าเข้าสหรัฐ ยันทำหน้าที่ดีสุดแล้ว ปัดท้าทาย ยอมรับผลที่ตามมา

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมซักฟอกนายกรัฐมนตรีประเด็น ประเทศไทยถูกประณามจากนานาชาติว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกระทรวงการต่างประเทศชี้แจง ส่วนกำหนดการที่ตนและคณะประกอบด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม นายฉัตรชัย บางชวด เลขาฯ สมช. พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมสื่อมวลชน เดินทางไปประเทศจีนวันที่ 18-20 มี.ค.นี้ เพื่อติดตามความเป็นอยู่ของ 40 ชาวอุยกูร์จากประเทศไทย

นายภูมิธรรมกล่าวว่า คณะเดินทางไปถึงประเทศจีนประมาณเจ็ดโมงเช้า วันที่ 19 มี.ค. จะเข้าไปดูสถานพยาบาลและฟังข้อสรุปว่าเราส่งตัว 40 ชาวอุยกูร์ให้กับทางการจีนแล้ว ทางจีนได้ดำเนินการอย่างไรบ้าง และเดินทางลงพื้นที่ไปเยี่ยมบ้านพัก และหากเป็นไปได้เราได้แจ้งทางการจีนว่าอยากไปเยี่ยมชาวอุยกูร์ที่ประเทศไทยส่งไปเมื่อปี 2557 (สมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ) ซึ่งทางการจีนได้รับปากว่าจะหาให้ 1 คน จากที่ขอไป 2 คน แต่ตนก็บอกว่า “ไม่ได้ซีเรียสอะไร ขอโฟกัส 40 คนล่าสุดที่ส่งไป”

ในจำนวน 40 คนนี้ทางการจีนบอกว่ามีปัญหาเรื่องระยะทาง เพราะซินเจียงมีพื้นที่ใหญ่กว่าประเทศไทยถึง 3 เท่า แต่ละคนอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งตนก็ระบุว่าเนื่องจากเรามีเวลาจำกัด หากเป็นไปได้ก็อยากใช้เป็นระบบซูม และขอให้สื่อได้เข้าไปถ่ายบรรยากาศเพื่อให้เห็นข้อเท็จจริง

นอกจากนี้ ตนมีโอกาสได้เจอกับผู้นำชุมชนเพื่อสอบถามความเป็นอยู่ ซึ่งโดยรวมแล้วตนจะเก็บรายละเอียดมาให้ได้มากที่สุด ซึ่งคาดว่าจะได้ประมาณ 5 คนจาก 40 คนที่ส่งไปล่าสุด และของปี 2557 ได้ 1 คน ซึ่งขึ้นอยู่กับเวลา อาจจะได้มากกว่านี้

นายภูมิธรรมยังเชื่อมั่นว่าจะทำให้เต็มที่ที่สุด และหากมีอะไรตกหล่น อีกประมาณ 1 เดือนข้างหน้าถัดจากนี้ รมว.ต่างประเทศจะไปติดตามอีกรอบ ยืนยันว่าเราจะดำเนินการทุกอย่างเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ส่วนจะทำให้ชาติตะวันตกเข้าใจประเทศไทยมากยิ่งขึ้นหรือไม่นั้น มองว่าจะเข้าใจหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่ก็คาดหวังและก็จะพยายามทำให้ชาติตะวันตกเข้าใจมากที่สุด

การตัดสินใจของไทยไม่ใช่ว่าจะไปอยู่ข้างจีน หรือสหรัฐ ซึ่งเรายืนยันมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าไทยเป็นประเทศเล็ก เราไม่เลือกข้าง แต่เราสามารถทำงานร่วมกับทุกประเทศได้ โดยสหรัฐถือเป็นมหามิตรของไทยมายาวนาน ส่วนจีนก็เป็นประเทศที่อยู่ใกล้เคียงและมีความสัมพันธ์ยาวนานเช่นกัน ประเทศไทยไม่ได้คิดเป็นศัตรูกับใคร เรารักษาสายสัมพันธ์ให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม

“ผมเคยพูดกับทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เราเก็บเอาไว้ก็ผิด ส่งต่อประเทศที่ 3 หากมีใครรับก็ดี แต่ก็ไม่เคยมี เพียงแต่พูดว่าสนใจ ไม่เคยขอมาเป็นทางการ ส่วน UNHCR ไม่เคยประกาศเป็นผู้ลี้ภัย ก็ยังเป็นผู้เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งผมบอกว่าหากมีประเทศที่ 3 รับ ผมก็พร้อมส่งไป แต่ผมคงไม่รอ เพราะผมก็โดนบีบ เพราะจีนอ้างว่าชาวอุยกูร์ 40 คน เป็นพลเมืองของเขา และจีนก็ขอมาตามระบบ ไทยก็ดำเนินการตามนั้น พร้อมคำนึงถึงกฎหมายระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เราก็ติดตามความเป็นอยู่เขาเป็นระยะ และผมกำลังจะไปพิสูจน์ว่าเขายังอยู่ดี และเขาก็เป็นคนเลือกที่จะไป” นายภูมิธรรมกล่าว

นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า ซินเจียงในยุคนี้กับเมื่อ 10 ปีก่อนต่างกันมาก ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยว อีกทั้งได้มีการตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดแล้วยืนยันว่าที่จะเดินทางไปดูเป็นตัวจริงทั้งหมด

ส่วนประเทศมหามิตรกำลังงดวีซ่ากับผู้เกี่ยวข้องส่งตัวชาวอุยกูร์นั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า ถือเป็นกระบวนการ เราไม่สามารถห้ามได้ แต่ตนก็วางว่า เมื่อเขาได้ประจักษ์จะเข้าใจมากขึ้น

เมื่อถามว่า ได้เตรียมแผนรองรับอย่างไรบ้างหากโดนงดเรื่องวีซ่า นายภูมิธรรมกล่าวว่า ย้ำว่าเป็นสิทธิของสหรัฐ และเราก็ถือว่าทำทุกอย่างเต็มที่แล้ว ผลออกมาเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ไม่มีกังวลอะไร และไม่ได้ท้าทาย ต่างฝ่ายต่างทำตามหน้าที่

เมื่อถามว่า หากสหรัฐยังไม่เข้าใจก็ถือเป็นเรื่องของเขาใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมย้ำว่า “เราทำดีที่สุดแล้ว”

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.