ซัดกันนัว ก่อนมี มติ 304 เสียง ส่งศาลตีความแก้รธน. สุทิน แซะ ต้องฉลาด-มีกลยุทธ์
GH News March 17, 2025 08:20 PM

มติ 304 เสียง ส่งศาล ตีความแก้รธน. สุทิน แซะ ต้องฉลาด-มีกลยุทธ์ เตือนเป็นไก่หลง ตีตัวเองแพ้หมด วิโรจน์ ซัดไร้ปัญญา

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ในการประชุมร่วมรัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมพิจารณาญัตติด่วน เรื่องขอให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) ของ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ส.ว.เป็นผู้เสนอ และญัตติของ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอ ซึ่งค้างมาจากการประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 14 ก.พ.68 โดยที่ประชุมมีมติให้พิจารณาทั้ง 2 ญัตติไปพร้อมกัน

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวสรุปว่า มีข้อกล่าวหาจากสมาชิกว่ามีเจตนาเตะถ่วง ยื้อเวลา การแก้รัฐธรรมนูญ ทำให้เกิดความเสียหาย เสียเวลา ฝ่ายที่เสนอญัตติวันนี้มีความกลัว ไม่กล้าเดินหน้า กล้วต่อศาล กล่าวต่อคำวินิจฉัย ความกลัวนั้นทำให้สภาและประชาชนเสียหาย ที่สำคัญที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวหาว่าฝ่ายที่เสนอไม่มีความกล้าหาญ ขลาดเขลา หงอ ก็ต้องชี้แจงว่าการแก้ไขรัฐธรมนูญครั้งนี้ เดินมาถึงจุดทางเลือก 2 ทางเท่านั้น คือจะเดินหน้าต่อให้จบวาระ 3 หรือจะไม่เดินหน้าต่อเปลี่ยนมายื่นตีความ ซึ่งตนอยู่ในฝ่ายที่ขอยื่นตีความจนถูกกล่าหาว่าทำไมไม่เดินหน้าต่อ จึงอยากถามว่าถ้าเดินหน้าต่อท่านวิเคราะห์อย่างไร พวกตนวิเคราะห์บนโลกความเป็นจริงแล้วว่าเดินหน้าต่อคะแนนไม่ถึงตกแน่นอน ถ้าตกได้ประโยชน์อะไร แล้วถอนยื่นตีความได้ประโยชน์อะไร

นายสุทินกล่าวต่อว่า ในทางการเมืองแม้จะไม่เห็นด้วยกันทุกพรรค แต่จากการสำรวจเสียง ส.ส.เราผ่าน ที่ไม่ผ่านคือ 67 เสียงของ ส.ว. เราจึงหันมาใช้วิธีการไปยื่นตีความให้ชัดถ้าชัดแล้วว่าทำประชามติกี่ครั้งกี่รอบคนที่อ้างก็จะอ้างไม่ได้คนที่เอามาเป็นเหตุอ้างว่าเพราะกลัวนั่นกลัวนี่ ก็อ้างไม่ได้ที่สำคัญที่สุดที่บอกว่าพวกตนกลัวศาลรัฐธรรมนูญท่านทำไมไม่คิดว่า ถ้าถามไปคราวนี้จากที่ท่านตอบไว้กำกวมก็บังคับให้ท่านพูดให้ชัดคราวหน้าจะได้มาเล่นงานภายหลัง ภาษาชาวบ้านบอกว่าทำไมไม่ใช้วิธีตัดหางยัดปากไว้เลย เพราะฉะนั้นขอปฏิเสธเรื่องกลัว และคาดว่าจะใช้เวลา 1 เดือนเพื่อรอความชัดเจน ซึ่งไม่ถึงขั้นเตะถ่วง แต่สะดุดเพื่อให้ได้สิ่งที่ดี ส่วนที่กล่าวหาว่ากลัวศาล ไม่กล้าหาญ สยบยอมกับอำนาจที่ไม่ใช่อำนาจของประชาชน ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่มีมานานใช้ความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยว มาทีหลังก็โดนเหมือนกัน คำพระบอกว่า ความกล้าหาญควรเสมอด้วยปัญญา ปัญญาควรเสมอด้วยสติ

“หากไม่มีปัญญาและสติรบร้อยครั้งก็แพ้ ผมเคยทำงานกับทหาร เขาคัดคนไปรบ ไม่เอากล้าหาญแต่โง่เพราะรบแพ้หมด เขาต้องเอาคนที่ฉลาดๆ นอกจากนั้นต้องมีสติ ต้องเย็นพอ ต้องรู้ว่าเวลาที่ควรใช้ประมาณไหน และอดทนให้ได้ แยกแยะมิตร ศัตรูให้ออก คำว่าสติขอฝาก การแก้รัฐธรรมนูญสู้กับใคร คิดให้ดี ว่าควรตำหนิพวกเรา ศาล หรือฝ่ายไหนลองคิดให้ดี หากเลือกมิตร เลือกศัตรู คนร่วมทางถูก ติพองามไม่ทำร้ายกัน ท่านจะมีมิตรร่วมเดินทาง ไม่เช่นนั้นเป็นมวยหลงมุม ไก่หลงตีตัวเองแพ้หมด” นายสุทินกล่าว

นายสุทินกล่าวต่อว่า ปัญหาของการแก้รัฐธรรมนูญ คือ คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ หากเดินหน้าแก้ไขมาตรา 256 ใช้สติปัญญาคิดว่าจะมีคนยื่นตีความหรือไม่ หากมีคนยื่นตีความจะมีปัญหา หากมีปัญญาพอ แก้ปัญหาให้จบ เดินวันนี้ไม่สะดุดอีก ดังนั้นเพื่อป้องกันคนจะเล่นงานหลายๆ ด่าน คือการใช้สติ และปัญญา ส่วนความกล้าหาญต้องต่อสู้ ทั้งนี้ ประชาธิปไตยไม่ใช่รถด่วน การต่อสู้ให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยที่ต่อสู้และแพ้ บอกให้รู้ว่ากล้าหาญอย่างเดียวไม่ได้ต้องมีกลยุทธ์ ลมเปลี่ยนทิศต้องเปลี่ยนหัวเรือ เพื่อหลบลม ไม่ให้เรืออับปาง และไปสู่เป้าหมาย ไม่ใช่สู้ลม แบบนี้ไม่ใช้สู้เพื่อประชาธิปไตย

ด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน อภิปรายตอบโต้ว่า หากศาลรัฐธรรมนูญตีความออกมาจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลจะเห็นด้วย ตนขอให้คำมั่นที่สะท้อนปัญญาให้สมาชิกรัฐสภา ทั้งนี้ ตนดีใจที่นายสุทินระบุว่าจะตัดหางสุนัขไม่ยัดปากใครบางคน แต่หากเขาเอาหางสุนัขมารัดคอ ซึ่งตนช่วยเอาออก แล้วเดินหน้าไปด้วยกันได้ ตนยืนยันในความกล้าหาญมีสติปัญญา แต่ท่านจะไม่มีปัญญาแก้รัฐธรรมนูญ

จากนั้นเวลา 17.30 น.ที่ประชุมลงมติเห็นชอบให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย 304 เสียง ไม่เห็นด้วย 150 เสียง งดออกเสียง 124 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง โดย นายมงคล สุระสัจจะ รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม จึงแจ้งว่า เป็นอันว่าที่ประชุมให้ส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย ปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) และสั่งปิดประชุมในเวลา 17.38 น.

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.