วุฒิสภาไม่รับญัตติ ‘นันทนา’ ชงชะลอเลือก ‘ตุลาการศาลรธน.’ เดินหน้าโหวต สิริพรรณ-ชาตรี
GH News March 18, 2025 12:00 PM

‘วุฒิสภา’ ไม่รับญัตติ ‘นันทนา’ ชงชะลอเลือก ‘ตุลาการศาล รธน.’ ก่อนเดินหน้าโหวต ‘สิริพรรณ-ชาตรี’

เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 18 มีนาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มี พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม เข้าสู่วาระการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับเลือกเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

น.ส.นันทนา นันทวโรภาส ส.ว. ได้เสนอญัตติด่วนให้ชะลอการลงมติดังกล่าวออกไปก่อน ซึ่งมีเพียงผู้รับรองเพียงแค่ 3 คน พล.อ.เกรียงไกรจึงให้ น.ส.นันทนาอภิปรายหลักการ

น.ส.นันทนาอภิปรายว่า อยากถามว่าท่านกังวลต่อสถานภาพของท่านหรือไม่ เพื่อนสมาชิกทั้งหลายได้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากโซเชียล หรือสังคมต่อการได้มาซึ่งที่มาของพวกท่านหรือไม่ว่าพวกเขาชื่นชมศรัทธาต่อการได้มาของพวกท่านหรือไม่ ซึ่งหากท่านเปิดรับความจริงจะพบว่าสังคมกำลังตั้งคำถามกับกระบวนการได้มาซึ่ง ส.ว.คณะนี้อยู่ว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เมื่อ ส.ว.ถูกมองด้วยความคลาแคลงใจ ทำไมเราจึงไม่พิสูจน์ตัวเอง โดยให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบที่มาของ ส.ว.ชุดนี้จนสิ้นสงสัย เมื่อได้ตรวจสอบว่าการได้มาของ ส.ว.ชุดนี้สุจริต โปร่งใส การทำหน้าที่ใดๆ ก็จะสง่างาม

น.ส.นันทนาอภิปรายต่อว่า มีการไปร้องให้ ส.ว.ชุดนี้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งข้อกล่าวหานี้อาจจะลุกลามไปที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 113 เรื่องการแทรกแซงครอบงำจากพรรคการเมือง ฉะนั้น มองว่าจึงควรชะลอการลงมติดังกล่าวออกไปก่อน จนกว่าการตรวจสอบจะสิ้นสงสัย แล้วจึงกลับมาลงมติกันใหม่ เพื่อเป็นการทำหน้าที่อย่างสง่างามและไม่ส่งผลกระทบต่อองค์กรอิสระใดๆ

ทำให้ พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา ส.ว. ประท้วงว่า วุฒิสภามีหน้าที่และอำนาจคือการให้คำแนะนำ หรือให้ความเห็นชอบให้บุคคลดำรงตำแหน่งตามกฎหมาย แต่ที่มีผู้เสนอญัตติให้ชะลอการพิจารณาออกไป เห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ที่วุฒิสภาจะปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ฉะนั้น ขอให้มีการปฏิบัติตามระเบียบวาระการประชุมต่อไป

จากนั้น พล.อ.เกรียงไกรวินิจฉัยว่า สำหรับญัตติด่วนด้วยวาจาที่ น.ส.นันทนาได้เสนอนั้น วินิจฉัยแล้วว่าเป็นญัตติที่ไม่สามารถปฏิบัติได้ จึงไม่รับเป็นญัตติ เพราะถือว่าวุฒิสภามีอำนาจเต็มตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ

ด้าน น.ส.นันทนากล่าวว่า ยืนยันว่าญัตติถูกต้อง ขอให้ที่ประชุมลงมติ

นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ ส.ว. กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการลงมติ สิ่งที่ประธานวินิจฉัยเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ฉะนั้น ทุกคนมีสิทธิและอำนาจหน้าที่ที่ต้องทำ อย่าใช้ข้อคิดเห็นมาเป็นบทบัญญัติของท่าน

พล.อ.เกรียงไกรยืนยันว่า ไม่ให้รับเป็นญัตติ ฉะนั้น จะไม่มีการลงมติ

ทำให้ น.ส.นันทนาประท้วงว่า หากมองว่าการเสนอญัตติของตนไม่เหมาะสมก็ควรให้สมาชิกลงมติว่าไม่เห็นชอบ หรือเห็นชอบ จะกลัวอะไร ประชาชนที่ดูอยู่จะได้บอกว่าท่านยินดีที่จะปัดตกเรื่องการชะลอการลงญัตติไป ถ้าประธานวินิจฉัยแบบนี้ ท่านต้องรับผิดชอบคนเดียว ซึ่งจะเป็นปัญหาต่อไปว่าเมื่อสภารับญัตตินี้แล้ว ไม่มีโอกาสที่จะพิจารณาว่าจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ เพราะประธานปัดตกไปเลย

ขณะที่ นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ส.ว.ฐานะเลขานุการ วิปวุฒิสภา โต้แย้งด้วยว่า สิ่งที่ประธานวินิจฉัยถือว่าถูกต้อง เชื่อว่าพวกเราพร้อมที่จะรับการตรวจสอบ

“วันนี้มีหน่วยงานไหนที่มีอำนาจเหนือ ส.ว. มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือการกระทำมีสิ่งไหนที่ผิดระเบียบหรือรัฐธรรมนูญหรือไม่” นายวุฒิชาติโต้แย้ง

ทำให้ น.ส.นันทนากล่าวย้ำว่า ขณะนี้สังคมได้มองการทำหน้าที่ของ ส.ว. และหากการลงมติดังกล่าวต่อไปอาจจะมีปัญหาได้ ซึ่งนายวุฒิชาติโต้แย้งกลับว่า ญัตติที่เสนออยู่ภายใต้อำนาจหน้าที่ของรัฐธรรมนูญ ไม่กลัวการลงมติ เพราะประชาชนแยกแยะออกในสิ่งที่ ส.ว.ดำเนินการซึ่งไม่ได้อยู่นอกรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ขอให้ดำเนินการตามระเบียบวาระประชุมต่อไป

อย่างไรก็ตาม พล.อ.เกรียงไกรยืนยันว่าไม่รับเป็นญัตติ และให้ดำเนินการตามวาระต่อไป ทำให้ น.ส.นันทนา ร้องขอให้การเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาดังกล่าวบันทึกการประชุมแทน ซึ่ง พล.อ.เกรียงไกรย้ำว่า การประชุมวุฒิสภาทุกครั้งจะมีการบันทึกการประชุมและทุกคนทราบดี

จากนั้นจึงเข้าสู่การระเบียบวาระพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล ซึ่งสมควรได้รับเลือกเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดย พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ ส.ว. ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แถลงรายงานว่า ก่อนจะแถลงรายงาน ขอชี้แจงเรื่องที่มาของ กมธ.สามัญ ชุดนี้ เพื่อไม่ให้มีสมาชิกเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะการที่สภาแห่งนี้จะพิจารณาอะไรต้องทำภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายให้อำนาจหน้าที่ไว้ ไม่ได้ถูกตั้งขึ้นมาโดยอำเภอใจของผู้ใดแต่อย่างใด และคณะกรรมการสรรหาชุดนี้ ประกอบด้วย ประธานศาลฎีกาเป็นประธาน ประธานสภาผู้แทนราษฎรและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรเป็นกรรมการ ประธานศาลปกครองสูงสุดเป็นกรรมการ บุคคลที่องค์กรอิสระแต่งตั้งเป็นกรรมการ และเลขาธิการวุฒิสภาเป็นเลขาธิการของคณะกรรมการสรรหาชุดนี้

“รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด คนที่กล่าวอ้างนอกเหนือรัฐธรรมนูญ ถือว่าเป็นเรื่องนอกจากรัฐธรรมนูญ​ นอกจากต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และ ส.ว.ที่เข้ามาตามระบบ ต้องทำงานตามประมวลจริยธรรมด้วย ขอความกรุณาให้ความเคารพสภาแห่งที่ ซึ่งเป็นที่ทำงานที่ได้อยู่มีหน้ามีตาในสังคมเพราะสภาแห่งนี้ อย่าด้อยค่าตัวเอง หรือ ส.ว.ไม่มีประโยชน์ อย่ากระเหี้ยนกระหือรือทำในสิ่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” พ.ต.อ.กอบกล่าว

สำหรับบุคคลที่เสนอชื่อให้วุฒิสภาลงมติเห็นชอบ มีจำนวน 2 คน คือ น.ส.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี นักวิชาการรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ นายชาตรี อรรจนานันท์ อดีตอธิบดีกรมการกงศุล และอดีตเอกอัครราชทูต ประจำกรุงเฮก

สำหรับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ทำงานครบวาระและต้องสรรหาแทนคือ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรมนูญ และ นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งครบวาระดำรงตำแหน่งเมื่อพฤศจิกายน 2567

ก่อนจะเปิดสมาชิกอภิปรายอย่างกว้างขวาง

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.