กรณีหนุ่มออแกไนซ์จัดงานแต่งงาน เกิดเหตุปะทะกับเสี่ยขับรถกระบะ แต่มีลูกขับรถบรรทุก ปมหนุ่มออแกไนซ์ขับรถคร่อมเลนเลี่ยงหลุมบนถนน เสี่ยขับรถตามมาหลายกิโล บีบแตรก็แล้ว แต่หนุ่มออแกไนซ์ไม่เปิดทางให้ ต่อมาเสี่ยได้ขับรถแซงขวาแล้วปาดหน้า ทำให้หนุ่มออแกไนซ์ตกใจ บีบแตรใส่ เป็นเหตุให้เสี่ยไม่พอใจ เกิดเหตุทะเลาะวิวาท ต่อยหน้าหนุ่มออแกไนซ์ ก่อนเรื่องลุกลามทำร้ายแม่ของคู่กรณี
รายการ โหนกระแส วันที่18 มี.ค.68 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 เสี่ยแดง เสี่ยรถบรรทุก มาพร้อม อรพิน ภรรยา, พรพิมล ลูกสาว, พงษ์ ลูกเขยที่เข้าไปช่วยพ่อตา อีกมุมผู้เสียหาย เบนซ์ ถูกต่อยหน้า, น้ำมนต์ ภรรยาเบนซ์ , แม่เด๋ แม่ของเบนซ์ , ปอ อยู่ในเหตุการณ์ รวมทั้ง ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกลรัตนกุล เป็นทนายคนกลาง
ยังโกรธอะไรอยู่มั้ย?
พงษ์ : ไม่ครับ
หน้าเป็นรอย?
พงษ์ : โดนเขาข่วนตอนมีเรื่องครับ
ใครข่วน?
พงษ์ : จำไม่ได้ครับ
คุยกับฝั่งคุณเบนซ์ก่อน คุณทำอาชีพอะไร?
เบนซ์ : ออแกไนซ์งานแต่งที่จันทบุรีครับ
วันนั้นเกิดอะไรขึ้น?
เบนซ์ : ผมได้ขับรถไปกับทีมงานไปสองคัน เป็นรถกระบะ ไปตามจีพีเอสที่ลูกค้าส่งให้ แก่งหางแมว ขับไปเรื่อยๆ เกือบถึงที่หมาย ก็โทรถามลูกค้าว่าใช่มั้ย ลูกค้าบอกว่าไม่ใช่ ก็เลยย้อนรถกลับมา ตรงนั้นเป็นทางลูกรัง มีหลุมเยอะ ขับช้า ไม่เกิน 30 ครับ ซอยนั้นผมไม่เคยไปครับ
สองคันมีใครบ้าง?
เบนซ์ : ในรถผมมีแฟน ปอ มีแม่ไปครับ คันหลังมีน้องสองคน เป็นผู้ชาย ขับตามกันไป เส้นแก่งหางแมว มุ่งหน้าหนองเจ๊กสร้อย ลักษณะทางเป็นทางลูกรัง เหมือนเขาทำทาง แล้วหลุมมันเยอะครับ เป็นทางสวนกันได้
จากนั้นยังไงต่อ?
เบนซ์ : จากนั้นมีรถกระบะยกสูง ขับแซงด้านขวาแล้วปาดหน้าผม ผมก็บีบแตรใส่เพราะตกใจ ผมมองกระจกหลังแล้วไม่เห็นรถ เห็นแต่รถอีกคันของผม เขาแซงขึ้นมาแล้วปาดหน้าเลย ผมตกใจก็บีบแตรไปสองสามครั้งครับ ไม่ได้แช่ยาวขนาดนั้นครับ
ปาดเลย?
เบนซ์ : เกือบชนครับ จากนั้นเขาทำท่าเหมือนจะเบรก แต่ไม่ได้เบรก ก็ขับไปเลย ผมกับทีมงานก็ขับไปเรื่อยๆ จนมาถึงที่เกิดเหตุ มีสิบล้อจอดขวางถนนอยู่ ผมไปไม่รอด เลยต้องเบรก ตอนแรกในใจคิดว่าเขาจะกลับรถออกหรือเข้า ผมก็เลยเบรก มีทางคุณลุงเดินมาหาผม ผมเลยกดกระจกแล้วทักทายว่าครับผม เพราะเราไม่รู้ว่าเขาจะบอกให้เราจอด รถเขาจะออกหรือเปล่า ตอนนั้นไม่เห็นรถคู่กรณีที่ขับมาปาดหน้าผม
พอเห็นลุงเดินมา ก็คิดว่าไม่มีอะไร อาจมาบอกว่ารถเสียหรือเปล่า?
เบนซ์ : ใช่ครับ หรือจะเอารถสิบล้อออกประมาณนี้
เปิดกระจกแล้วเขาทำไง?
เบนซ์ : เขาง้างมือมาต่อยที่หน้าในรถผมเลย ผมก็งง ยังไม่ได้พูดอะไร แล้วคุณลุงก็บอกว่าขับรถอะไร ขับรถกวนเหรอ
มึงขับรถกวนตีx เหรอ?
เบนซ์ : ใช่ครับ ผมขับรถปกติ ไม่ได้ขับเร็ว ขับแค่ 20 30 เอง ก็งงอยู่ว่าโดนได้ยังไง
ถามทางเสี่ยแดง พนมศักดิ์ อายุเท่าไหร่?
เสี่ยแดง : 57 ครับ
เสี่ยเป็นคนพื้นเพตรงนั้น?
เสี่ยแดง : ไม่ ผมทำกินที่นั่นได้ 10 กว่าปี ทีแรกมาก็เช่าเขาอยู่ ทำมาค้าขายในครอบครัว ได้มีเงินซื้อที่ ก็มาตั้งอยู่ตรงนั้นเลย
ตรงนั้นเรียกว่าอะไร?
เสี่ยแดง : เนินจำปาครับ เราใช้เส้นนี้บ่อย มีรถสิบล้อพ่วงอยู่คันเดียวครับ
วันนั้นเกิดเหตุอะไรขึ้น?
เสี่ยแดง : ผมไปสวนยางมา แล้วจะเข้าไปดูอีกสวน วิ่งมาถึงซอยวังปา ก็จะมีสะพาน พอหลุดจากสะพานเป็นโค้ง หลุดจากโค้งก็เห็นรถสองคันนี้อยู่กลางเลนเส้นเหลืองตรงกลาง ถนนมีรอยปะแต่ไม่ได้ก่อสร้างครับ แล้วเป็นทางลาดยางนะครับ ไม่ใช่ทางลูกรัง วิ่งเส้นกลางเลยครับ
เสี่ยจะแซงก็แซงไม่ได้ เขาขับช้ามั้ย?
เสี่ยแดง : ขับช้าครับ
ทางมีหลุมมีบ่อนะ เขาก็หลบหลุมมาอยู่ตรงกลางหรือเปล่า?
อรพิน : ใช่จ๊ะ ตรงกลางเป็นทางดี
เสี่ยบีบแตรมั้ย?
เสี่ยแดง : บีบสองรอบครับ แล้วระยะทางไกลมาก ผมไม่ได้แซงเลย มาแซงตรงเนิน แทรกขึ้นไปปุ๊บเขาก็บีบแตรไล่
เขาบีบสองทีเหรอ?
เสี่ยแดง : ใช่ครับ
ตอนที่เสี่ยจะแซง ได้บีบแตรมั้ย?
เสี่ยแดง : ผมบีบแตรตั้งแต่จี้ตูดเขาอยู่ เราขอทางไปดูสวนยางอีกแปลงนึงครับ
อรพิน : เราบีบตั้งแต่คันแรก คันแรกหลบให้ แต่อีกคันเขาไม่ขับ เขาขี่กลางเลย
ลักษณะกวนๆ?
อรพิน : ไม่รู้กวนหรือเปล่า แต่เขาไม่หลบให้
กวนมั้ย?
เบนซ์ : ผมไม่ได้ยินเสียงแตรเลยจริงๆ ครับ คนในรถ 6 คน ไม่มีใครได้ยินเลย
อรพิน : แล้วบอกว่าไม่เห็นรถด้วย เป็นไปได้ไง เขาขับอย่างเดียว ไม่มองซ้ายมองขวาเลยเหรอ
เสี่ยแดง : รถผมคันใหญ่ครับ
พอเสี่ยแซงไปได้ ให้รถสิบล้อมาขวาง?
เสี่ยแดง : ไม่จริงครับ เขาเอาหินมาลงไม่เกี่ยวกับผม
ขับรถไปอีกนานมั้ย?
เบนซ์ : เกือบครึ่งชม.ครับ
อารมณ์ยังคุกรุ่นอยู่เหรอ?
เสี่ยแดง : ใช่ครับ โมโหมาก เราแซงมาได้ ยังบีบแตรไล่หลัง เราต้องแทรกมานะครับม
ทำไมไม่จอดรถกลางทางแล้วไปสอยเขาเลย?
เสี่ยแดง : ไม่มีพวกครับ เขามาสองคันรถ ผมจะลงไปด่าเขาอยู่เหมือนกันว่าทำไมขับรถแบบนี้
กลับไปถึงบ้าน แล้วเสี่ยให้ลูกชายเอารถสิบล้อออกมากลางถนนดักเลยมั้ย?
เสี่ยแดง : เขากลับลำของเขา เขาไปลงหินครับ
มันบังเอิญขนาดนั้นเลยเหรอ?
เสี่ยแดง : หน้าบ้านมันแคบ สมมติกองทรายกองหิน เวลาไปดัมพ์ทรายดัมพ์หิน ต้องถอยหลังเข้าไปครับ
เสี่ยจะบอกว่ามันเป็นเหตุบังเอิญ อยู่ดีๆ ลูกชายถอยรถเอาไปลงพอดี กำลังจะถอยกลับ?
เสี่ยแดง : เดินหน้ามาเพื่อจะเอารถกลับไปเก็บครับ
บังเอิญรถคู่กรณีขับผ่านมาพอดี?
เสี่ยแดง : ผมก็โมโห
อรพิน : มันประจวบเหมาะมากกว่า
เสี่ยแดง : เขาก็ยังไม่รู้ตัวเลยว่ามีเรื่อง
พ่อสั่งให้เอารถไปจอดหรือเปล่า?
พงษ์ : เปล่าครับ ผมขับรถเดินหน้าขึ้นมา เห็นพ่อเขาเดินไปโต้เถียงกับรถฝ่ายที่เป็นหน่วยกู้ภัย
เป็นกู้ภัยด้วยเหรอ?
เบนซ์ : ผมเป็นอาสาสมัครสว่างกตัญญูจันทบุรีครับ อันนี้เป็นรถส่วนตัวของผมเอง เขาจอดขวางถนน ผมก็จอด ไม่รู้เขาจอดทำไม
เสี่ยบอกว่าเป็นเหตุบังเอิญ รถคันนั้นลูกชายเพิ่งเอาหินมาลง คุณขับไปจอดตรงนั้นพอดี เขาไปสะกิดเรียกแล้วต่อย คุณเชื่อมั้ย?
เบนซ์ : มันเชื่อได้ยากครับ ผมเข้าโค้งไปแล้วเจอรถสิบล้อจอดคาอยู่เลย วันนั้นผมไปไม่เร็ว ถ้าผมไปเร็วยังไงก็ชน
พงษ์ : ในคลิปเขาจอดตั้งไกลนะครับ รถพ่วงไกลมาก
เบนซ์ : ต้องไกลอยู่แล้วครับ เพราะผมขับมาช้าๆ
เสี่ยแดง : ไหนเมื่อกี้บอกว่าถ้ามาเร็วจะชนรถสิบล้อ
เบนซ์ : กรณีผมไม่ได้บรรทุกของไงครับ
คุณจอดรถไม่ได้อยู่ระยะประชิด ก็ห่างๆ จากนั้นเขาเดินมาแต่ไกลเลยเหรอ?
เบนซ์ : ใช่ครับ ผมเปิดกระจกก่อน เขาสอยเบ้าหน้าเลย
เสี่ยแดง : ไม่ใช่ครับ คนเราไม่คุยกันบ้างเลยเหรอ ผมบอกว่าจอดๆ เปิดกระจกมาคุยกันซิ ทำไมขับรถแบบนี้ ถือว่าเป็นหน่วยกู้ภัยใช่มั้ย ถึงได้ขับรถกร่างขนาดนี้ ผมพูดงี้เลย
น้ำมนต์ : หมัดเขาเข้ามาก่อนค่ะ
เสี่ยแดง : เขาบอกไม่รู้ เขาไม่ได้ยิน ผมหมั่นไส้เลยแป๊ะไปทีนึง ตบครับ ไม่ได้ต่อย
ไปตบเขาทำไม?
เสี่ยแดง : หมั่นไส้ไม่ยอมรับความจริง คนเราลงมาขอโทษก็จบแล้ว จริงมั้ย
แม่เด๋ : หึ!
เสี่ยแดง : ตัวแม่นี่ประเด็นเลย เขาไม่ได้ขับรถ คนขับรถแค่ไหนต้องรู้ สัญชาตญาณคนขับรถ แต่แม่เขาบอกว่าไม่รู้เรื่องเลย ไม่ได้ยิน ผมบีบแตรตั้งสองรอบ ขอทาง ทำไมไม่เปิด เขาไม่ยอมรับความจริง ผมเลยตบไปทีนึง แม่เขาออกมาเถียงว่าไม่ได้ยิน ไม่ได้อะไรเลย แล้วเขาก็ถีบผม เขาเปิดประตูลงมา แล้วเอาตีนถีบผม พอดีลูกเขยที่ไปด้วยกัน เขาคอยห้ามอยู่ข้างประตู เห็นพ่อตาโดนถีบเขาเลยมะรุมมะตุ้มเลย จากลูกเขยไปห้าม จากคนห้ามก็เอาด้วย
เสี่ยตบแม่เขาด้วย?
เสี่ยแดง : เปิดคลิปเต็มสิครับ ตอนแม่เขาด่าผม ผมบอกให้หยุด คุณไม่ได้ขับรถ
พรพิมล : แล้วตอนถีบพ่อไปไหนคะ
เบนซ์ : ใครถีบครับ
พรพิมล : พี่ค่ะ
เบนซ์ : ใครเป็นคนเปิดประตูรถผมครับ ใครกระชากผมออกมา
เสี่ยแดง : ผมเปิดประตู
เบนซ์ : แล้วใครมารุมผมตอนอยู่บนรถ
เสี่ยแดง : ผมตบเขาก่อน เขาเลยถีบ
เสี่ยยืนด่า ตบหน้าเขาทีนึง เสี่ยเปิดประตูเขา เขาหันกลับมาเอาเท้าถีบเสี่ย แม่เด๋มาแล้วยังไง?
เสี่ยแดง : ด่าโวยวายสารพัด
พงษ์ : เขาถือไม้มาด้วยครับ แม่เขานี่แหละครับ
แม่เด๋ : ถือไม้ตอนเขาตบแล้ว
อรพิน : ไม่ใช่ ไม้แรกหักไปแล้ว ตอนหลังมีไม้มาอีก
เสี่ยตบแม่เขาทำไม?
เสี่ยแดง : ผมบอกให้พอเถอะ เขายั่วผม ตั้งกล้องยั่วให้ผมโมโห ผมบอกให้หยุดเถอะ แม่ไม่ได้ขับรถ
เขาด่าเสี่ยเหรอ?
เสี่ยแดง : เขาไม่ได้ด่า เขาเถียงถอดๆ ผมก็บอกให้หยุดเถอะ เขาก็ไม่หยุด ผมบอกให้ออกไป หยุดเถอะ ถ้าไม่หยุดผมตบนะ เขาก็ไม่หยุด
คำพูดที่ยั่วให้ตบ พูดยังไง?
เสี่ยแดง : พูดทำนองว่าเขาไม่ผิด เขาพูดมาก แต่เราจำเหตุการณ์ไม่ได้แล้ว พูดไม่หยุด เสียงลั่นไปหมด
เขาห้ามได้มั้ย?
เสี่ยแดง : เขาไม่ได้บอกให้หยุดนี่ ผมบอกให้เขาหยุด
แม่พูดว่าอะไร?
แม่เด๋ : แม่บอกว่าหลงทางมา ทำไมทำแบบนี้ เราคนต่างถิ่น ทำทำไม
เสี่ยแดง : ก็บอกว่าเราไม่ใช่คนขับ อย่ามายุ่ง
แม่เด๋ : เขาบอกแม่ไม่ใช่คนขับจะพูดมากทำไม ไม่ได้รู้เรื่องอะไร
แม่ไปด่าเขาว่าอะไร?
แม่เด๋ : ไม่ได้ด่า บอกว่าเราหลงทางมา ทำไมไม่เห็นใจเราบ้าง เราเสียงดัง ตะโกนเลย เราหลงทางมา ต่างถิ่นมา
เสี่ยแดง : เขาไม่ได้พูดเรื่องหลงทาง เขาพูดเรื่องขับรถ ทำนองว่าไม่ได้ยินเสียง ไม่ได้รู้เรื่องอะไร มาตีกันได้ยังไง
ทนายแก้ว : เสี่ยเลยของขึ้น
เสี่ยแดง : ผมก็ยัวะใหญ่เลย แล้วมีคนตั้งกล้อง
พรพิมล : เหตุการณ์ก่อนหน้าโดนตบล่ะ คลิปตอนแม่คุณโวยวาย
เบนซ์ : ยังไม่ได้ถ่าย เพราะถ่ายไม่ทัน
น้ำมนต์ : ไม่ได้คิดว่าเขาจะเข้ามาตบ เลยถ่ายไม่ทัน
คุณเห็นเหตุการณ์มั้ย?
พงษ์ : เห็นครับ เขาทะเลาะกันอยู่ในรถ ผมกระโดดลงจากรถสิบล้อไปห้าม ดึงพ่อออกมา พ่อยืนแถวๆ ข้างถนน มีป้าคนนี้ถือไม้มาเดินไปหาพ่อผม โวยวายด่ากัน พ่อก็บอกว่าพอได้แล้ว พ่อบอกให้แยกกันไป ป้าไม่ยอม พ่อเลยบอกว่างั้นตบนะ ป้าก็บอกว่าตบเลย
เสี่ยขออนุญาตตบก่อน บอกว่าถ้าไม่หยุดขอตบนะ ทางแม่บอกไง ตบเลย เขาก็จัดให้สิ?
เสี่ยแดง : ใช่ ทางนี้เขาก็กรูกันเข้ามา 5-6 คน
เสี่ยบาดเจ็บตรงไหน?
เสี่ยแดง : แม่เขาตีด้วยไม้ที่แขน
แม่เด๋ : ไม่ใช่เลย ล้วงมือเข้ากระจกหรือเปล่า
เสี่ยแดง : สภาพนี้โดนกระจกเหรอครับ นี่รอยไม้นะครับ ไม่ใช่รอยกระจกนะครับ ผมก็ไม่ได้โดนมาก ลูกเขยคอยช่วยกัน ลูกเขยโดนเยอะ ป่วยเลย โดนตี แล้วก็โดนที่แขน
น้ำมนต์ : มีคลิปเสี่ยถือเหล็กแป๊บค่ะ
เสี่ยแดง : ถือจริงเพราะโมโห สติแตก ก็ขอโทษสังคม มันโมโหช่วงนั้น
เสี่ยก็เดือด ถือเหล็กมา จากนั้นยังไง?
เสี่ยแดง : เขาบอกในรถมีของ ผมก็เลยโทรเรียกตร.
เบนซ์ : ที่ลงจากรถกันทั้งหมด เพราะรถคันหลังผมมันล็อก เพราะเด็กสองคนที่ขับรถคันหลังเข้ามาช่วยผม ตอนผมโดนรุมในรถ ไม่ใช่รุมแค่คนเดียว สามคนครับ มีลุง ลูกเขย มีลูก
พงษ์ : ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะ
เบนซ์ : ผมเห็นแค่ไม่มีหลักฐาน
พงษ์ : ตรงไหน ผมแค่ไปดึงพ่อผมออกมา
เสี่ยแดง : แต่คุณกรูลงมาจากรถทั้ง 6 คน ที่รถล็อกเพราะคุณกรูลงมาใช่มั้ย
น้ำมนต์ : เขามาช่วยห้าม
คลิปตอนยั่วยุหายไปไหน?
เบนซ์ : กดถ่ายไม่ทันครับ
เสี่ยแดง : ไม่ใช่ คุณตัดออก
เบนซ์ : คุณเป็นคนถ่ายคลิปเหรอครับ
พงษ์ยอมรับว่าต่อยจริง?
พงษ์ : ตอนนั้นเขาทำท่าเดินมารุมพ่อผมคนเดียว เลยวิ่งไปช่วย ตะลุมบอนเลยครับ ผมก็โดนตีมายับเหมือนกัน ก็เจ็บทั้งสองฝ่าย
คุณโทรตามพรรคพวกมาจริงมั้ย?
อรพิน : พอไปโรงพักแล้ว มีกู้ภัยมาสองสามคัน
เบนซ์ : เขาไปส่งศพมาแล้วแวะมา เพราะเขาทราบว่าผมโดนทำร้าย
อรพิน : ถ้าไม่ได้โทรเขาจะแวะมามั้ย
เบนซ์ : ผมไม่ได้โทร เขารู้เพราะวิทยุกันครับ ผมไม่ได้ตามใครเลย มีแต่ทางนี้ตามตร.มา
เสี่ยแดง : คนนี้เขาเป็นคนโทรตอนอยู่หน้าบ้านว่าให้รีบมาเลย
ปอ : บ้านลุงอยู่กันกี่คน สิบกวาคน แล้วพวกหนูอยู่กัน 6 คน
เสี่ยแดง : ถ้าลูกค้าผมยอมรับ เขามาซื้อของ ในนี้มีกี่คน คุณถ่ายคลิปมาก็ต้องรู้ว่ามีกันกี่คน ตร.เรียกไปที่โรงพักก็ไปกันแค่ 3 คน คุณชี้เลยมีกี่คน
ปอ : แล้วกู้ภัยที่มาเขาทำอะไรลุงเปล่า
อรพิน : ไม่ได้ทำ แต่คุณบอกเราเป็นมาเฟีย ในคลิปคุณพูดเองว่าเรามีอิทธิพลเยอะ เรามีกันแค่ครอบครัวเรา แต่คุณพาคนอื่นมาที่โรงพัก
ทนายแก้ว : พี่เบนซ์ขับคร่อมเลนมั้ย
เบนซ์ : มีบ้าง เพราะผมต้องหลบหลุม
ทนายแก้ว : ตอนเขาบีบแตรไม่ได้ยินเหรอครับ
เบนซ์ : ไม่ได้ยินจริงๆ ครับ
เสี่ยแดง : อีกคันทำไมหลบให้ล่ะครับ
ทนายแก้ว : พี่อ้างว่าพี่ไม่ได้ยิน
น้องได้ยินเสียงแตรมั้ย?
ลูกน้อง : ไม่ได้ยินเสียงแตร แต่เห็นกระจกหลังครับ พอเขาจะแซงผมเลยเห็น ผมดูของข้างหลังรถด้วยว่าตกหรือเปล่า เพราะของมันเยอะ
ทนายแก้ว : พอเขาแซง พี่ได้หลบเข้าซ้ายมั้ย
เบนซ์ : ผมหลบหน่อยนึง เขาแซงขึ้นมาแล้ว แล้วก็ปาดหน้าเลย ถ้าเขาแซงไปเฉยๆ ผมจะบีบแตรทำไมล่ะครับ
ทนายแก้ว : ระหว่างเสี่ยคู่ขนานกัน เสี่ยบีบแตรมั้ยครับ
เสี่ยแดง : ไม่ได้บีบครับ เขาวิ่งตรงกลาง
ทนายแก้ว : เขาบีบแตรแบบไหน เสี่ยถึงบอกว่าไม่พอใจ
เสี่ยแดง : เขาบีบปิ๊นๆ ครับ
ทนายแก้ว : บีบปกติ เหมือนเสี่ยบีบหรือเปล่า
เสี่ยแดง : ของผมเป็นแตรลมครับ ก็เกือบสองสามโลที่ไล่เขามาทำไมไม่หลบให้ผม คนเราสัญชาตญาณแป๊บเดียวต้องรุ้แล้ว กระจกมีรอบคัน คำว่าไม่รู้ใครๆ ก็พูดได้ แต่เรื่องจริงล่ะครับ สัญชาตญาณคนขับรถล่ะครับ
เสี่ยไปตบเขาทำไม?
เสี่ยแดง : เขาไม่ยอมรับความจริง ก็เลยตบทีนึงครับ
เราเปิดฉากทำร้ายเขาก่อน?
เสี่ยแดง : ใช่ครับ
เสี่ยจะบอกว่าเขากวนตีx?
เสี่ยแดง : นั่นเลย หน่วยกู้ภัย มีพวกเยอะครับ
ทนายแก้ว : ช่วงเสี่ยเดินไปตบเขา เสี่ยผิดฐานทำร้ายร่างกายเขา เสี่ยอาจอ้างเหตุจูงใจว่าเขายั่วยุอะไรก็แล้วแต่ เสี่ยผิดตรงนั้น แต่มีลูกติดพันกันตรงนี้ถือว่าเป็นสมัครใจทะเลาะวิวาท ถ้าเกิดพี่ถูกตบ แน่นอนพี่ป้องกันได้ตามเหมาะสม แต่พอพี่ลงไป แล้วมีการปะทะกัน สมัครใจทะเลาะกัน ฝั่งโน้นเข้าใจว่าพร้อมปะฉะดะกัน ตรงนี้เรียกว่าสมัครใจทะเลาะวิวาท ต่างฝ่ายต่างไปรักษาพยาบาลกันเอง นอกจากอีกฝ่ายนึงบาดเจ็บมาก แต่ถ้าฟกช้ำธรรมดาต้องแยกย้าย แต่ส่วนแรกที่เสี่ยไปตบเขาก่อน ผมไม่รู้ว่าเขาตอบโต้ลุงด้วยการถีบกลับไป
เสี่ยแดง : ถีบครับ ลูกเขยจากคนที่กัน ก็เลยกลายเป็นช่วยพ่อตา
ทนายแก้ว : ตรงนั้นเป็นการสมัครใจทะเลาะวิวาท พอคุณแม่บอกว่าตบเลยๆ เสี่ยก็จัดไป ฝั่งนี้เข้าไปตี ก็ถือว่าต่างฝ่ายต่างสมัครใจกัน
เสี่ยแดง : ผมก็ผิดครับ ก็ขอโทษสังคมที่มองว่าผมไม่ดีอยู่ ก็ขอโทษครับผม (ยกมือไหว้) อารมณ์ตอนนั้นมันพาไปครับ ถ้าไม่ใช่ผม เจอสภาพนี้ ก็ไม่เอาไว้ครับ
ทนายแก้ว : วิธีคิดแต่ละคนมันแตกต่างกันนะครับ พี่เบนซ์ก็มีความผิดเพราะขับรถคร่อมเลน แต่เสี่ยก็ไม่มีสิทธิ์ไปทำร้ายเขา แม้เขาจะทำผิดกฎหมายก็ตาม แต่การที่เขาลงไปตอบโต้ก็ถือว่าเป็นการป้องกันในฐานะที่เหมาะสม แต่กรณีชุลมุนวุ่นวาย ต่างฝ่ายต่างสมัครใจกันแล้ว แยกเป็นส่วนๆ จะได้เห็นภาพ
จะเอายังไง?
เสี่ยแดง : ตร.เชิญไปที่ป้อม ผมก็บอกว่าเอางี้มั้ย เราต่างคนต่างยกกันไป เจ็บกันทั้งสองฝ่าย ทางเบนซ์เขายอม แต่เมียเขาไม่ยอม ทางตร.บอกให้ไปที่โรงพัก ผมก็บอกเอางี้กันมั้ย เรายอมความกันมั้ย ตร.หาว่าผมพูดเสียงดัง ไล่ผมไปอยู่ข้างนอก ผมบอกว่าต่างคนต่างเจ็บ ก็แล้วกันไป ร้อยเวรบอกว่าเมื่อต่างคนต่างแจ้ง ก็เป็นคดีอาญายอมความไม่ได้
น้ำมนต์ : เขาถามว่าจะจบมั้ย ตร.มองว่าเป็นการท้าทาย เลยให้เสี่ยออกมา
มุมคดีจะเป็นยังไง?
ทนายแก้ว : ต่างฝ่ายต่างจบก็คุยกันได้ ขอโทษขอโพย เยียวยากัน แล้วแต่ว่าใครจะสำนึกยังไง แล้วแต่ความเป็นมาไม่มีใครรู้มาก แต่ตอนนี้มีทางออก ถ้าเสี่ยหมอบ พี่หมอบก็มีทางออก ตร.น่าจะตั้งข้อหาสมัครใจทะเลาะวิวาท ก็อาจเสียค่าปรับกันทั้งคู่ แต่ถ้าพี่ติดใจค่าเสียหายส่วนแพ่ง พี่จะไปเรียกร้องเงินจากเสี่ย ค่ารักษาพยาบาลก็ได้ หรือจะตกลงกันตามที่ตัวเองเห็นควรก็แล้วแต่ ทำได้หมด ไปลงบันทึกประจำวัน ไม่ดำเนินคดีกัน ก็ทำได้
เบนซ์ : ผมไม่ต้องการค่าชดเชย ค่าเสียหาย ค่าเสียเวลา แต่ที่ผมต้องการ ผมต้องออกทำงานทุกอำเภอ จังหวัด ผมไม่อยากให้ผมและครอบครัวต้องมาเจอเรื่องแบบนี้อีก
ธงพี่ต้องการอะไร?
เบนซ์ : ต้องการบอกกับคนทั่วประเทศว่ากรณีนี้อย่าไปทำร้ายใครเลย มันไม่มีอะไรดีอยู่แล้ว
คุณจะเอายังไงกับทางนี้?
เบนซ์ : ก็อยู่ที่ตร.หรือเปล่า
น้ำมนต์ : ตอนตั้งแต่ป้อมต้องการให้เขาขอโทษบ้าง แต่เขาบอกว่าไม่ ยังไงก็ต้องไปโรงพัก
เสี่ยแดง : ผมไม่ได้พูดแบบนั้น ตร.กลัวไม่เป็นกลาง เลยให้ไปที่โรงพัก
เรื่องนี้ไปได้ไม่ไกลหรอก เรื่องไม่มีอะไร เข้าใจเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดบนท้องถนน สังคมไม่ควรทำตามอยู่แล้ว ดีที่เขาไม่มีปืน คุณไปตบเขา ถ้าเขายิงสวนมา คุณตายอยู่ตรงนั้นเลย ผมพูดในมุมให้ได้คิด อย่าคิดว่าบ้านอยู่ตรงนั้น ปืนเดี๋ยวนี้มันหาง่าย เกิดอะไรขึ้นมามันไม่คุ้ม คุณมีเมีย มีลูกมีเต้า ไม่คุ้มกับเสี่ย เรื่องบนท้องถนนไปว่ากัน แต่เรื่องไปทำร้ายเขาก่อนจนเป็นเรื่องเป็นราว เสี่ยก็เหมือนไปเริ่มก่อนเหมือนกัน?
เสี่ยแดง : เขามายั่วผมก่อน
ทนายแก้ว : การยั่วของเขาเป็นนามธรรม แต่เสี่ยทำเป็นรูปธรรม ถ้าถามมุมคดี เสี่ยเป็นรองหน่อยนึง กรณีไปตบเขา แต่กรณีที่เขาขับคร่อมเลน เสี่ยจะเอามาเป็นเหตูจูงใจไปทำร้ายเขาก็ไม่ได้ เพราะไม่รู้จริงหรือไม่จริง เพราะคลิปก็ไม่มี นอกจากเขารับว่าเขาได้ขับคร่อมเลนบ้าง แต่ช่วงเวลาเกิดเหตุ ไม่รู้จริงอย่างที่เสี่ยพูดหรือจริงตามที่เขาพูด
เสี่ยพูดแบบนี้ออกรายการ มันทำให้คนได้เห็นมุมมองบางมุมของเสี่ย ซึ่งอาจเป็นมุมมองที่ไม่เหมาะสม การที่เสี่ยบอกว่าผมตบสั่งสอนเขาเพราะเขาขับรถไม่ดี การที่เขาขับรถไม่ดี ไม่จำเป็นต้องไปตบสั่งสอนเขา ไม่งั้นสิ่งที่เสี่ยกำลังพูด คนดูจะกลายเป็นว่า อ๋อ ถ้าเจอแบบนี้กูตบได้หมด สองกรณีเดียวกัน ถ้ามีคนยั่วยุ เสี่ยยิงเขาตาย เสี่ยบอกมันยั่วผมก่อน ผมเลยยิงมัน?
เสี่ยแดง : เขาไม่ยอมรับความจริงไง ไม่ได้ยิน ไม่รู้
เขายอมรับหรือไม่ยอมรับเป็นอีกเรื่อง แต่เราไม่มีสิทธิ์ทำร้ายร่างกายใครเขา ท้ายที่สุด เสี่ยเปิดกระจก ว่าพ่อหนุ่มบีบแตรจขอทางไม่ได้ยินเหรอ ทีหลังดูดีๆ นะ เดี๋ยวจะเกิดอันตรายขึ้น จบแยกย้าย นี่คือคุยกันมุมดีๆ ทางนี้บอกว่าเสี่ยขอโทษนะ ไม่ใช่คนแถวนี้ จบ แยกย้าย อยู่ร่วมกันได้ สิ่งที่เสี่ยกำลังพูดจะกลายเป็นบรรทัดฐาน ถ้าวันนี้ลูกหรือเมียเสี่ยขับรถไป แล้วมีคนมาพูดยั่วยุ เขาตบได้เลยเหรอ?
เสี่ยแดง : ผมก็ผิดตรงนี้แหละ ตรงที่โมโห
จริงๆ คุยกัน ทางนี้ไม่ได้จะเอาอะไรเลย แค่ให้เสี่ยรับรู้ในมุมข้อเท็จจริงว่าเสี่ยอย่าไปทำแบบนี้กับคนอื่นอีกนะ เสี่ยอยากคุยอะไรกับเขา เขาก็เปิดใจ?
เสี่ยแดง : ผมก็คนทำจริง
นี่ยังไม่ได้ถามเรื่องแตรลม มันผิดกฎหมายนะ?
อรพิน : เรามีสองแตร
แต่เสี่ยกดแตรลม เสี่ยก็ผิดกฎหมาย ไม่เกี่ยวว่าคุณมีแตรสองระบบ?
ทนายแก้ว : แตรลมโดยสภาพมันผิดอยู่แล้ว คุยกันดีๆ ดีกว่า
เสี่ยลองคุยกับเขาดู อะไรลงได้ก็ลง?
เสี่ยแดง : แล้วแต่เขาจะเอายังไง
คุณเปิดเลย คุณต้องการอะไร?
เบนซ์ : สิ่งที่พี่หนุ่มพูด ตามนั้นเลย
คุณอยากได้คำขอโทษ?
เบนซ์ : ก็ดีครับ
เสี่ยแดง : ผมก็ขอโทษแหละ ผมโมโหแรงไปหน่อย
เบนซ์ : ผมไม่ได้อะไรอยู่แล้ว มีแต่ลูกเขาที่ต่อยหน้าผม
พงษ์ : เห็นกรูเข้ามาทำร้ายพ่อผม ผมก็โดดไปช่วย
ถ้าจะมีทิฐิอยู่ในใจ เรื่องจะไม่จบ ที่คุยกันอยู่ อยากให้รู้สึกว่าอันไหนลงได้ก็ลง การขอโทษถ้าเราผิดจริงเราไปทำเขา เป็นการเริ่มก่อน เราก็ขอโทษเขาก็จบ ทางนี้เขาไม่ได้ต้องการไปเรียกเงินเรียกทองเลย ถ้าน้องดึงเรื่องเก่ากลับมาพูดอีก จะไม่จบนะ เสี่ยอยากจบมั้ย?
เสี่ยแดง : อยากจบครับ ผมชวนเขาจบสองรอบแล้ว ผมก็โมโหร้ายไปหน่อย ผมก็ขอโทษแล้วกัน
พงษ์ : ผมก็ขอโทษ ผมอารมณ์แรงไปหน่อย (ยกมือไหว้) ผมกะไปช่วยพ่อผม ไม่รู้จะให้ทำยังไง
เบนซ์ : ผมก็เข้าใจว่าต้องการช่วยพ่อ ผมก็ต้องการช่วยแม่
ทนายแก้ว : ขอโทษบางอย่าง ก็ต้องเข้าใจว่าเราก็มีส่วน อย่าคิดมาก คำว่าขอโทษบางครั้งคนเราเดินเจอกัน บางคำมันแสดงถึงมิตรภาพ เราคนไทยด้วยกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัย เป็นคำที่ฟังแล้วชื่นหูกว่า เราก็มีส่วนในการกระทำเขาเหมือนกัน ทางนี้ก็มีส่วนเหมือนกัน ต่างฝ่ายต่างมีส่วน ฟังภาพรวมแล้ว เริ่มต้นจากใคร ก็จากเสี่ย คดีบางอย่างมันพูดคุยกันได้
เบนซ์ : ก็ขอโทษเหมือนกัน ผมไม่ได้ยินจริงๆ ต่อจากนี้ไปจะขับรถระมัดระวัง
ต่างคนต่างระแวง ต่างคนต่างกลัว ก็คุยกัน เรื่องจะได้ไม่โกรธ ลดราวาศอกกัน?
เสี่ยแดง : ครับ แต่ในโซเชียลว่าผมเป็นอันธพาล
มันเลี่ยงไม่ได้ โซเชียลมีมุมมองของเขา อย่างผมทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วนะ แต่มีกลุ่มนึงบอกว่าไม่ใช่ บางทีผมก็โดนด่า แต่ก็เข้าใจเขา บางครั้งเขาคาดหวังกับเรา เขาก็ด่าผม มันอยู่ที่วิธีคิดว่าจะคิดบวกหรือคิดลบ ถ้าคิดลบเสี่ยก็จมปลักอยู่กับการโดนด่าอยู่เรื่อยๆ แต่ถ้าเสี่ยคิดบวก มันก็จบตั้งแต่วันนี้เลย อย่างน้อยผมเป็นเสี่ย ผมจะคิดว่าคนด่าทั้งประเทศเลย ต่อไปจะไม่ทำแล้ว?
เสี่ยแดง : เมื่อคืนก็นอนไม่หลับ ตีหนึ่งยังลุกไปถ่ายคลิปมาให้ดูว่าเป็นอย่างนี้
พงษ์ : ร้านนี้เป็นร้านสุดท้ายที่พวกผมทำกันขึ้นมา เขาเอาไปโพสต์ว่าร้านนี้เป็นนักเลง
อรพิน : แต่รถยืนยันว่าไม่ได้เอามาขวาง
ทนายแก้ว : คิดว่าเราไปอธิบายทุกคนทางโซเชียลให้เข้าใจน่าจะยาก อยู่ที่เราทำต่อไปมากกว่า ในคลิปเสี่ยตบผู้หญิง สังคมอาจมองว่าเขาท้าก็จริง แต่ดูไม่ค่อยเหมาะสม จะอ้างบันดาลโทสะ หยิบกฎหมายมาอ้างไม่ได้ กระแสบางอย่างอาจเทไปว่าเสี่ย ก็ต้องอยู่ที่เราจะแก้ไขและดำเนินการทำยังไงต่อไปให้ดีขึ้นกว่าเดิม ทางออกต่อไป ไปลงบันทึกประจำวันที่สภ.จันทบุรี ต่างฝ่ายต่างไม่ติดใจเรียกร้องก็ลงบันทึกไว้
ไม่สนุกหรอกการขึ้นโรงขึ้นศาล เสียเวลาทำมาหากิน อย่าไปฟังใครที่บอกว่าขอโทษทำไม ไม่ได้ผิด คนพูดไม่ได้ไปขึ้นศาลไปโรงพักด้วย?
ทนายแก้ว : ไม่สนุกครับ
คุยกันดีๆ อันไหนยกมือไหว้ขอโทษได้ ก็ไหว้ไปเลย ทางเสี่ยก็ลดความใจร้อนลงนิดนึง ถามหน่อย เสี่ยตบหน้าเขา เขาชักปืนมายิงตู้ม เมียวิ่งมาช่วยแล้วยิงเมียอีก แล้วเขาอ้างว่าเสี่ยตบเขาก่อน เสียชีวิตไม่คุ้มเลย ตอนนี้ไม่ต้องมองหรอกว่าใครผิดใครถูก หาทางลงให้ได้ จะลงยังไง แต่ถ้าบอกว่าไม่ได้ กูต้องเป็นคนถูก กูโดนยั่วยุก่อนเลยต้องตบ เพื่อให้สังคมเข้าใจ ผมบอกเลยว่าสังคมไม่เข้าใจ ทางคุณเบนซ์ถ้าคิดว่าผิดเหมือนกันก็ขอโทษเขาไป แยกย้าย ไม่ได้บอกว่าใครผิดนะ ปัญหาคุณรู้กันแค่สองฝ่าย สมัครใจวิวาทเลยนะ แต่ถ้าถูกกระทำฝั่งเดียวอีกเรื่องนึง?
ทนายแก้ว : ถูกครับ นี่ก็ไปคว้าไม้ข้างทางตีเขาเหมือนกัน มันสมัครใจทะเลาะวิวาท ก็มีสิทธิ์เรียกค่าเสียหาย แต่ดูว่าเยอะแค่ไหน
เสี่ยแดง : ไม่เยอะครับ จริงๆ ไม่ควรมาถึงโหนกระแสด้วย ไม่แรงถึงขั้นต้องขึ้นโหนกระแสครับ เพราะเขาเป็นหน่วยกู้ภัยไง
อยากพูดอะไรมั้ย?
เบนซ์ : ไม่มี ต่างคนต่างยอมกันก็จบ
เสี่ยแดง : เดี๋ยวนัดไปเจอกันที่โรงพัก (จับมือเคลียร์กัน)
เสี่ยจะขอโทษแม่เขามั้ย?
เสี่ยแดง : (ยกมือไหว้)
แม่เด๋ : ให้อภัย