เฟรเซอร์ส หนีรีเจกต์เรต ลุยบ้านแพง คอนโดหรู ทุ่มหมื่นล้านผุดเมืองที่อยู่อาศัยในนิคมฯอารยะ

วันที่ 18 มีนาคม นายสมบูรณ์ วศินชัชวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน)หรือ FPT เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 ยังไม่ฟื้นตัว ติดปัญหาหนี้ครัวเรือน การถูกปฏิเสธสินเชื่อหรือรีเจ็กต์เรตสูงร่วม 40% รวมถึงภาวะเศรษฐกิจค่อนข้างตึงตัว ดอกเบี้ยยังแพง ทำให้ในปีนี้บริษัทลงทุนอย่างระมัดระวัง ไม่ผลีผลาม เปิด 6 โครงการ ในกรุงเทพฯ นครราชสีมา และขอนแก่น มูลค่า 9,803 ล้านบาท เป็นแนวราบ 5 โครงการ มูลค่า 9,353 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ คือ โครงการโคลส รามอินทรา-แฟชั่น มูลค่า 450 ล้านบาท ตั้งเป้ามีรายได้ 11,200 ล้านบาท เติบโต 23% จากปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ 9,174 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้หลักยังคงเป็นแนวราบ ส่วนคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 2% ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีงบการเงิน 2568 (ต.ค.-ธ.ค.67) มีรายได้อยู่ที่ 2,003 ล้านบาท เติบโต 15.7%

นายสมบูรณ์กล่าวว่า ปีนี้ได้ปรับลดการเปิดตัวโครงการทาวน์เฮาส์ลง หลังรีเจ็กต์เรตสูงประมาณ 37-38% อีกทั้งยังมียูนิตสะสมอยู่ค่อนข้างมากกว่า 26 โครงการ และเพิ่มโครงการบ้านระดับพรีเมียมและอัลตร้าลักชัวรี่ในทำเลใกล้เมือง จับกลุ่มลูกค้าที่ยังต้องการที่อยู่อาศัยในเขตเมือง อย่างแบรนด์รอยัล เรสซิเดนซ์ เกษตร-นวมินทร์ บ้านเดี่ยวราคา 100 ล้านบาทขึ้นไป ,เดอะแกรนด์ ริเวอร์ฟรอนซ์ ราชพฤกษ์-พระราม 5 ราคา25-50 ล้านบาท และแกรนด์ดิโอเปิดที่ขอนแก่นและนครราชสีมา ราคา 10-25 ล้านบาท จะเปิดตัวโครงการแรกที่ขอนแก่นในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งกำลังซื้อต่างจังหวัดค่อนข้างดี และต้องการบ้านหลังใหญ่จึงทำให้เปิดถึง 2 โครงการใหม่

นอกจากนี้ในปีนี้จะเปิดตัวแบรนด์ใหม่ได้แก่ แกรมเมอร์ บ้านแฝด 3 ชั้น ราคา 10-25 ล้านบาท เปิดตัวโครงการแล้วที่สาทร, GRAVITE บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ราคา 8-10 ล้านบาท และGoldina ทาวน์โฮมพรีเมียม ราคา 5-8 ล้านบาท อยู่ทำเลไกลจากในเมืองเล็กน้อย แต่เดินทางสะดวก เน้นราคาเข้าถึงง่าย

”ส่วนคอนโดต่อไปเราจะขยายการลงทุนและเพิ่มสัดส่วนรายได้ให้เป็น 10% ภายในปี 2570 ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดินอยู่แนวรถไฟฟ้า คาดว่าในปีหน้าจะเปิด 2-3 โครงการ รวมถึงกำลังยื่นขออนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอ พัฒนาโครงการคอนโดระดับไฮเอนด์ บนที่ดินเมย์แฟร์หลังสวนเดิม มูลค่าโครงการ 8,000-10,000 ล้านบาท มีเนื้อที่กว่า 1 ไร่ สูง 30 ชั้น ราคาขายตารางเมตรละ 4-5 แสนบาท หรือเริ่มต้นยูนิตละ 30 ล้านบาท เปิดตัวในปี 2569 ซึ่งราคาที่ดินแปลงนี้ปัจจุบันอยู่ที่เกือบ 2 ล้านบาทต่อตารางวาและเป็นที่ดินฟรีโฮลด์ผืนสุดท้ายของย่านนี้“นายสมบูรณ์กล่าว

นายสมบูรณ์กล่าวว่า นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนจะลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในอารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์ ย่านบางนา-ตราด กม.32 เมืองอุตสาหกรรมและนวัตกรรมครบวงจรรูปแบบใหม่บนพื้นที่กว่า 4,600 ไร่
ของบริษัท อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด ซึ่งกลุ่มเฟรเซอร์สเป็นผู้ร่วมลงทุนโครงการด้วย ทั้งนี้เพื่อรองรับบุคลากร ผู้เชี่ยวชาญ และผู้บริหาร ที่ทำงานในโครงการ โดยได้กันพื้นที่ไว้แล้ว 250 ไร่ คาดใช้เงินลงทุนมากกว่า 10,000 ล้านบาท พัฒนาเป็นโครงการแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม จะเริ่มดำเนินการได้หลังเปิดดำเนินการโรงงานแล้วหรืออีก 4-5 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ในช่วงเริ่มต้นบริษัทอาจจะนำที่ดิน 10 ไร่ ลงทุน 200 ล้านบาท พัฒนาเป็นอพาร์ตเมนต์ให้เช่าเริ่มต้น 5,000 บาทต่อเดือน เพื่อรองรับคนทำงานที่จะเข้ามาใน 1-2 ปีนี้