จีนฉะมะกันแกล้งจำกัดวีซ่าจนท.ไทย กรณีส่งกลับอุยกูร์ ภูมิธรรมนำทีมสื่อถึงซินเจียงแล้ว
สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า เหมา หนิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนระบุว่า สหรัฐไม่มีสิทธิแทรกแซงความร่วมมือจีน-ไทยในการปราบปรามการลักลอบขนคนเข้าเมืองและอาชญากรรมข้ามพรมแดน หลังถูกถามถึงแถลงการณ์ของนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ที่ประกาศข้อจำกัดด้านวีซ่ากับ
เจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องความร่วมมือในการส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คน กลับไปยังซินเจียง
โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวว่า จีนและไทยทำงานร่วมกันในฐานะ 2 ประเทศที่มีอำนาจอธิปไตยในการปราบปรามการลักลอบขนคนเข้าเมืองและอาชญากรรมข้ามพรมแดนอื่นๆ ซึ่งสอดคล้องกฎหมายภายในประเทศของทั้ง 2 ประเทศ ตลอดจนกฎหมายระหว่างประเทศและแนวปฏิบัติทั่วไป และสหรัฐไม่มีสิทธิที่จะแทรกแซงความร่วมมือดังกล่าว
เหมากล่าวว่า ชาวจีน 40 คนเดินทางข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมายและติดค้างอยู่ในไทย ซึ่งพวกเขาถูกควบคุมตัวมานานกว่าทศวรรษ รัฐบาลจีนมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการปกป้องพลเมืองของตน ช่วยให้พวกเขาได้กลับมาอยู่ครอบครัว และดำเนินชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง
เหมากล่าวอีกว่า การนำประเด็นนี้มาเป็นเรื่องการเมืองแสดงให้เห็นว่าสหรัฐใช้สองมาตรฐานและพยายามกดขี่ผู้อื่น ขณะที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรของสหรัฐ (ICE) รายงานว่า สหรัฐขับไล่พลเมืองต่างชาติ มากกว่า 270,000 คน ไปยัง 192 ประเทศในช่วงปีงบประมาณ 2024 ซึ่งถือเป็นการเนรเทศที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2014
”สหรัฐดำเนินการเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายโดยไม่เลือกหน้า ในขณะเดียวกันสหรัฐกลับกล่าวหาและใส่ร้ายความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศอื่น ทั้งยังใช้มาตรการคว่ำบาตรและกดดันประเทศอื่นๆ ด้วย นี่คือการกลั่นแกล้งอย่างชัดเจน” เหมากล่าว
เหมายังบอกด้วยว่า จีนประณามอย่างรุนแรงต่อการทำลายชื่อเสียงและการประกาศข้อจำกัดที่ผิดกฎหมายและการคว่ำบาตรต่อจีนและไทย และคัดค้านอย่างหนักต่อการที่สหรัฐบิดเบือนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับซินเจียงด้วยข้ออ้างเรื่องสิทธิมนุษยชนเพื่อแทรกแซงกิจการภายในของจีน และขัดขวางความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายระหว่างจีนและประเทศที่เกี่ยวข้อง
เหมาย้ำว่า จีนจะยังคงเสริมสร้างการสื่อสารและการประสานงานกับประเทศที่เกี่ยวข้อง
ต่อไป บนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกันและการปรึกษาหารืออย่างเท่าเทียมกัน เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ตามกฎหมายของพลเมืองจีน และทำงานเพื่อให้ความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศ ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กรณีนี้เมื่อจีนมีหนังสือรับรองสวัสดิภาพและความปลอดภัยอย่างเป็นทางการจากประเทศต้นทางแล้ว ดังนั้นข้อกล่าวหาที่ว่าไทยละเมิดหลักการด้านสิทธิมนุษยชนด้าน Non-Refoulement หรือการไม่ส่งคนกลับสู่ภยันตราย จึงจะนำมากล่าวหากับไทยไม่ได้ เพราะมีการค้ำประกันเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจนโดยประเทศอธิปไตย ย่อมทำให้ข้อกล่าวหาในประเด็นนี้หมดไปโดยปริยาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างวันที่ 18-20 มีนาคม นายภูมิธรรม เวชยชัยพร้อม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผบ.ตร. พร้อมคณะสื่อมวลชน เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเยี่ยมชาวจีน อุยกูร์ ที่เมืองคาซือ มณฑลซินเจียง