กลุ่มธรรมาภิบาล ยื่น ‘วันนอร์’ สอบจริยธรรม ฉลาด-กมธ.ป.ป.ช. ฐานสร้างความเสียหายทำประชาชนเข้าใจผิดเอกชนละทิ้งงานก่อสร้างโครงการที่กาฬสินธุ์ ทั้งที่ไม่มีการเรียกชี้แจง พร้อมแจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 มี.ค.2568 ที่รัฐสภา นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมาภิบาล ยื่นหนังสือต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายอรรถพร จันทร์สุวรรณ ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานกิจการคณะกรรมาการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรและศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผู้รับเรื่องแทน
เพื่อขอให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของ นายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยกมธ.และที่ปรึกษา อาจผิดต่อประมวลจริยธรรมของสส.และกมธ.หรือไม่
นายวิวัฒน์ กล่าวว่า ทางกลุ่มฯ ได้รับเรื่องร้องขอความเป็นธรรมจากผู้ประกอบการจ.กาฬสินธุ์ว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม จากกรณี กมธ.ลงไปตรวจสอบว่า มีการทิ้งงานและทุจริตจนทำให้ประชาชนเข้าใจว่า ผู้ประกอบการเป็นผู้กระทำการทุจริต
กรณีดังกล่าว กลุ่มธรรมาภิบาล ได้ไปตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ในการทำหน้าที่ของนายฉลาดและกมธ.และที่ปรึกษาบางคน พยายามนำเรื่องร้องเรียนดังกล่าวเข้าสู่วาระการประชุมเป็นประจำ ในทำนองจะให้เป็นผลงานของกมธ.
แต่ปรากฎมีการสรุปเบื้องต้นว่ามีการกระทำทุจริตโดยอ้างว่าได้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)
“ตรงนี้กลุ่มผู้ร้องเรียนคิดว่าทำให้เขาได้รับความเสียหายและทำให้ประชาชนเข้าใจว่าเป็นผู้กระทำผิดเสียเอง เพราะกมธ.ที่สอบเรื่องนี้ ตลอดระยะเวลาทั้งปีจนถึงปัจจุบันไม่เคยเรียกหรือเชิญเอกชนที่เป็นผู้รับเหมาในโครงการที่จ.กาฬสินธุ์ ที่เรียกว่าโครงการ 7 ชั่วโครตมาชี้แจงเลย แต่กลับสรุปว่าเขาเป็นผู้กระทำผิด ถือว่าไม่เป็นธรรม จึงเห็นว่าการกระทำของนายฉลาดและกมธ. ขัดต่อจริยธรรมหรือไม่” นายวิวัฒน์ กล่าว
นายวิวัฒน์ กล่าวต่อว่า การทำหน้าที่ของกมธ. เกี่ยวกับโครงการ 7 ชั่วโครตดังกล่าว มีงบประมาณ 545 ล้านบาท 8 โครงการ แต่ปรากฏว่าสำนักข่าวหนึ่ง ได้รายงานข่าวตลอด แม้กระทั่งในการประชุม กมธ.ก็มีการรายงาน ซึ่งทางเอกชนมองว่าเป็นกรณีนำเสนอข่าวที่ไม่ใช่มติที่ประชุม อาจเข้าข่ายจริยธรรมด้วยเช่นกัน
ทางเอกชนที่เสียหายได้ไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับนายฉลาดและพวกแล้ว เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา ฐานความผิดหมิ่นประมาท เนื่องจากนายฉลาด ให้สัมภาษณ์ขณะลงพื้นที่ในทำนองว่าผู้รับเหมาละทิ้งงานแล้วเบิกเงิน 15% ไปแล้ว หากพวกตนไม่มาเฝ้าดูก็คงเบิกเงินไปหมดแล้ว ซึ่งตรงนี้ทางเอกชนมองว่า เป็นการใส่ความทำให้ต้องไปแจ้งความดำเนินคดี และมาร้องเรียนดังกล่าวต่อประธานสภาฯ