พ่อเด็กหญิง ป.3 ทำใจไม่ได้ ลูกสาวถูกเพื่อนรุมตี-แผลเต็มตัว ยันให้ย้ายโรงเรียนแน่ ไม่พร้อมเจรจาผปค.ผู้ก่อเหตุ เหตุสภาพจิตใจย่ำแย่
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกระแสข่าวสุดสะเทือนใจ นักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน จ.นครพนม ออกมาเผยว่า ถูกเพื่อนรุมทำร้ายหลายคนในโรงเรียน เนื่องจากไม่พอใจ ที่ไม่ไปเอาข้าวมาให้กิน จนเกิดการรุมทำร้าย เป็นแผลฟกช้ำทั่วแผ่นหลังนั้น
ล่าสุด ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้สั่งการให้ ดร.อมรรัตน์ เชิงหอม ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา นครพนม เขต 2 พร้อมด้วย นางสาวสุพรรณี ศรีสุพรรณ เจ้าพนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ยุติธรรมจังหวัดนครพนม นายวิชพงษ์ ถินจันทร์ ปลัดอำเภอ
รวมถึง เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีน้องส้ม (นามสมมติ) อายุ 8 ปี นักเรียนคนที่โดนรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ โดยก่อนนี้ ทางผู้ปกครอง ได้นำคลิปร้องผ่านสื่อโซเชียล เพื่อเรียกร้องหาคนรับผิดชอบ เนื่องจากกับพฤติกรรมเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่ก่อเหตุ
อ่านข่าว – ครอบครัวใจสลาย ป.3 มีแผลทั้งตัว ร่ำไห้ไม่อยากไปรร. เล่าเพื่อนรุมเอาไม้ตี-จับกดน้ำจนสลบ
ด้าน ดร.อมรรัตน์ ยืนยันว่า มีการก่อเหตุจริง เป็นความไม่พอใจระหว่างเด็กนักเรียน เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุ มีจำนวน 4 คน คือ น้องเอ (นามสมมติ) น้องบี (นามสมมติ) น้องซี (นามสมมติ) และน้องดี (นามสมมติ) สั่งให้ไปขอข้าวกับครูมากิน แต่น้องส้ม (ผู้เสียหาย) ไม่ไป เพราะเกรงใจครู ทำให้กลุ่มเพื่อนร่วมชั้นทั้ง 4 คน ไม่พอใจ
ดร.อมรรัตน์ กล่าวว่า เป็นการกลั่นแกล้งตามประสาเด็กที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ช่วงพักเที่ยงจึงลากตัวน้องส้มไปกดลงถังน้ำในห้องน้ำ จนสำลักหลาย ครั้ง เอาแปรงขัดห้องน้ำตีหลัง จนเป็นแผลฟกช้ำ จับหัวโขกพื้นและปล่อยตัวออกมา ข่มขู่ห้ามบอกใคร
ความกลัวตามประสาเด็ก น้องจึงไม่ยอมบอกครูจนกลับถึงบ้าน แม่เห็นบาดแผล จึงเค้นถาม แจ้งครูให้ตรวจสอบ เรียกกลุ่มเพื่อนที่ก่อเหตุมาชดเชยเยียวยา ขณะเดียวกันได้มีญาตินำคลิป น้องส้มในสภาพมีบาดแผลมาโพสต์เรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องมาช่วยเหลือด้วย
ส่วนแนวทางการช่วยเหลือ ด้าน ดร.อมรรัตน์ เปิดเผยว่า ต้องหารือสอบข้อเท็จจริง วางแนวทางช่วยเหลือกับหลายหน่วยงาน เพราะผู้เสียหาย และผู้ก่อเหตุ เป็นเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษา อาจจะต้องใช้ทีมนักจิตวิทยา เข้ามาช่วยดูแลเจรจา เบื้องต้น ทางผู้ปกครองฝ่ายก่อเหตุพร้อมรับผิดชอบ แต่ทางผู้เสียหายยังได้รับผลกระทบทางสภาพจิตใจ ต้องใช้เวลาสักพัก ยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย และต้องวางมาตรการดูแล ไม่ให้เกิดซ้ำอีก
ดร.อมรรัตน์ กล่าวว่า อาจต้องแก้ปัญหาให้ผู้เสียหายมีสภาพจิตใจดีขึ้น หรือย้ายโรงเรียนไปอยู่โรงเรียนใกล้เคียง ส่วนการดำเนินคดีขึ้นอยู่กับผู้ปกครองผู้เสียหายทาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา นครพนม เขต 2 พร้อมดูแลเต็มที่ ยืนยันไม่ปล่อยปะละเลย
ส่วน นายคมศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี พ่อน้องส้ม กล่าวว่า ยังทำใจไม่ได้ สงสารลูก โดนทำร้ายร่างกาย สภาพจิตใจก็ย่ำแย่ ขอทางโรงเรียนหาทางช่วยเหลือ เพราะจะปิดเทอมแล้ว อาจจะต้องให้ย้ายโรงเรียน ยืนยันไม่ให้เรียนที่เดิม แต่ให้อภัยได้ หากผู้ปกครองและโรงเรียนออกมาแสดงความรับผิดชอบ
เบื้องต้น เรียกร้องค่าชดเชยเยียวยา 3 แสนบาท ยืนยันไม่ต้องการเงิน แต่อยากให้เป็นบทเรียน ไม่ให้ก่อเหตุลักษณะนี้อีก ส่วนการเจรจาตอนนี้ ยังไม่ขอพูดคุยกับผุ้ปกครองผู้ก่อเหตุ เนื่องจากสภาพจิตใจ ทั้งนี้หากไม่สำนึก หรือไม่มีคนแสดงความรับผิดชอบ จะขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย