ดิว อริสรา เปิดใจครั้งแรก สะอื้นขอโทษเมย์ ยอมรับใช้เงินเกินตัว เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี

หลังจากที่ มาดามเมนี่ หรือ ดร.เมย์ วาสนา อินทะแสง นักธุรกิจสาวพันล้าน ได้มาออกรายการ โหนกระแส เปิดใจชี้ชัดเป็น นักแสดงสาวชื่อดัง ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์ ได้ขอยืมแบรนด์เนมหรู ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกา เครื่องประดับ กระเป๋า ตีเป็นมูลค่ารวม 62 ล้านบาท และไม่คืนตามที่กำหนดไว้ จนกลายเป็นประเด็นร้อน โดยล่าสุด หนุ่ม กรรชัย ได้มีการต่อสายหา ดิว อริสรา

“ดูอยู่ค่ะ ก่อนอื่นดิวต้องขอโทษพี่เมย์ที่ต้องมาออกรายการ จากที่เราคุยกันตลอด ขอบคุณพี่หนุ่มที่ให้โอกาสดิวมาชี้แจง ทั้งหมดที่พี่เมย์พูดดิวไม่ขอตอบโต้อะไร ขอยอมรับว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากดิวเองและดิวต้องขอโทษพี่เมย์และทุกคนที่ทำให้ต้องมาเดือดร้อนอะไรแบบนี้ ยอมรับผิดทุกอย่าง และไม่ได้มีเจตนาที่จะหลอกลวงอะไรเลยนะคะพี่เมย์ ดิวพูดกับพี่เมย์จริงๆ เพราะพี่เมย์เป็นคนเดียวที่ช่วยดิวในเวลานั้น แล้วรายละเอียดหลายๆ อย่างที่พี่เมย์เป็นคนพูดมันก็เป็นเรื่องจริงที่ตอนแรกดิวเป็นคนไปขอความช่วยเหลือ

แต่ดิวต้องขอชี้แจงก่อนว่า ตอนแรกที่ดิวขอไปทางหุ้นส่วนดิวเค้าเป็นคน (เสียงสั่น) เพราะเห็นพี่ร้องหนูก็จะร้องแล้วเนี่ยคือทางหุ้นส่วนเขาเป็นคนออกความคิดเห็นให้ดิวไปคุยในแบบนั้นในการที่จะขอตรงนั้น มันไม่ใช่หุ้นส่วนไม่รู้นะคะ และหนูก็รู้ว่าหลังจากที่หนูคุยแบบนั้นพี่เมย์ก็พยายามช่วยจริงๆ คือในทั้งหมดมันเป็นการที่พี่ช่วยน้องจริงๆ

สุดท้ายแล้วเขาช่วย มันก็จริงแหละค่ะที่อาจจะไม่ได้เป็นในตามนั้น ของมันมีการไปถูกวางไว้บางที่ก่อนตอนแรกแต่ท้ายที่สุด ตัวซุงเองเขาก็ต้องการเป็นเงินจริงๆ ดังนั้น ณ เวลานั้นที่ดิวไม่ได้บอกพี่เมย์แล้วดิวคิดว่ามันเป็นวัตถุประสงค์ที่คล้ายกัน เพราะตอนนั้นพี่เมย์บอกว่าพี่ให้น้องพี่ช่วยน้องเอาไปแก้ไขปัญหาตัวเองนะ หนูก็เลยทำแบบนั้น หนูไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรไปมากกว่าหนูขอโทษจริงๆ ที่หนูเอาไปทำแบบนั้น“

ทั้งนี้เมื่อ กรรชัย สอบถามว่าตอนนี้ของของเมย์อยู่ที่ไหน ดิวก็ได้เผยว่า ”ของยังอยู่ครบแล้วจริงๆ แล้วหนูว่าทางพี่ทนายเขาน่าจะเข้าใจความหมายของหนูผิดหนูไม่เคยมีเจตนาที่จะไม่บอกนะคะว่าของอยู่ที่ไหนเพราะมันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเป็นแบบนั้นหนูเข้าใจตลอดมาว่าหนูกับพี่เมย์เราพยายามช่วยหาทางออกกันว่าเราจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงดี พี่เมย์เขาก็คุยกับหนูตลอดว่าเรามาช่วยกัน แล้วที่ก่อนหน้านี้หนูไม่เคยออกมาพูดอะไรเลยเพราะหนูคุยกับพี่เมย์ตลอด และหนูก็ยังขอบคุณเขาในใจตลอดนะ ที่พี่ทนายบอกว่าหนูไม่ได้บอกหนูไม่มีความจำเป็นต้องปิด ข้อสองที่คุยและพยายามหาทางออกกันหนูพูดจากใจเลยว่าบางทีมองหนูว่ามันเลวร้ายหรืออะไรแต่สิ่งที่หนูพยายามจะทำดิวไม่ได้พยายามจะทำให้ตัวเองถูก ในมุมดิวดิวไม่ได้คิดแบบนั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะเอาไปผิดวัตถุประสงค์ เพราะยังไงมันก็ต้องแก้ไขปัญหานี้จริงๆ“

ทั้งนี้ เมย์ ได้พูดกับดิวว่า ” พี่มีคำถามในสมองแค่เรื่องสองเรื่องเลย พี่เคยคุยกับดิวว่าพี่มั่นใจว่าดิวจะเอาของมาคืนพี่แน่ๆ เพราะพี่มั่นใจว่าดิวจะไม่กล้าเสียพี่ไปเพราะพี่เชื่อว่าดิวไม่สามารถหาคนแบบพี่ได้บนโลกนี้แน่ๆ นี่คือข้อหนึ่ง“

ดิวก็ว่า ”ตอนนั้นพี่เมย์พูดแบบนั้นหนูก็จำได้แล้วหนูก็ยืนยันจริงๆว่า ว่าหนูรู้“

โดย เมย์ ได้พูดต่อว่า ”แต่สิ่งที่พี่พูดตรงๆ เลยนะดิว ที่พี่รู้สึกเสียใจมากและต้องจมอยู่กับมันแล้วมานั่งร้องไห้แกทำได้ยังไงวะตั้งแต่เอาของไปครั้งแรก แกแม่งไม่เห็นค่าหัวใจของพี่เลย แกดิสเครดิตพี่แล้วไปบอกคนอื่นว่าพี่ไม่มีตังค์ออกมาอยู่คนเดียวไม่มีเงินจ่ายซัพพลายเออร์ มันทำได้ยังไงพี่ไม่เข้าใจ อันนี้พี่พูดเลยนะว่ามันคือเส้นสุดท้ายที่พี่รู้สึกว่าทุกอย่างที่พี่ช่วยดิวมาตลอดฟังดิวมาตลอดนี่พี่โดนหลอกใช่ไหมนี่คือคำถามพี่ยังลบออกไปไม่ได้ เมล์วาสนาที่ทำธุรกิจมาขนาดนี้เธอโดนเค้าหลอกจริงๆ หรอ“

”ดิวพูดกับพี่เมย์จริงๆนะ คนเดียวที่ดิวพูดว่าเป็นของของพี่เมย์ คือร้านนาฬิกา (เมย์ : ดิวพี่เห็นแชต จริงๆ) ดิวยืนยันว่าไม่ใช่“

เมย์ : พี่เชื่อดิวตั้งแต่เดือนมกรา แล้วเลือกที่จะเชื่อดิวต่อว่าน้องไม่ได้หลอกพี่ น้องบอกว่าเขาพยายามปั่นให้เรามีปัญหากันนี่คือสิ่งที่พูดตรงๆ ว่าเงินของก็อยากได้ แต่สิ่งที่พี่อยากได้มากกว่าคือศักดิ์ศรีของพี่”

ซึ่งเดี๋ยวต้องบอกกับพี่เมย์ตรงตรงนะคะว่าเอาจริงๆดิวไม่รู้ว่าแชทนั้นเป็นแชทไหนดิวเคยขอพี่เมย์ดูด้วยซ้ำว่าเป็นแชทอะไรก็อยากเห็น กับใครดิวก็นึกไม่ออกเลยจริงๆ แล้วที่บอกว่าเอาสร้อยอันนั้นไปพูดจริงๆ ว่าดิวไม่เคยส่งอะไรไปให้ใครที่เป็นผู้หญิงเลยนะ นอกจากนั้นสร้อยนี้ไม่เคยหลุดไปที่ใครเลยนะ พี่ไม่ต้องเชื่อดิวก็ได้แต่ดิวก็งงไง ตัวดิวก็รู้ว่าดิวคุยกับใครบ้าง ดิวมั่นใจเลยนะว่ามันไม่ใช่“

ทั้งนี้ เมย์ ก็ร้องไห้ พร้อมบอกว่า ”พี่หนุ่มเข้าใจหรือยังว่าทำไมหนูถึงไม่อยากคุยกับน้องเพราะถ้าหนูพูดกับน้องแบบนี้สุดท้ายหนูก็รักเขาหนูก็เชื่อเขาอีกหนูก็เลยรู้สึกว่า (ร้องไห้) หนูว่าหาข้อสรุปเถอะไม่เป็นไร“

และเมื่อ หนุ่ม กรรชัย ถามว่าสรุปดิวจะยังไง ดาราสาวก็ว่า ”ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นยังไงดิวก็ต้องยอมรับกับมันอยู่แล้วในสิ่งเป็นแต่ดิวก็พยายามแก้ไขปัญหาและพยายามทำทุกอย่างอย่างดีที่สุด ตลอด ทุกครั้งที่บอกว่าซื้อเวลาไม่เคยซื้อเวลาเลยทุกครั้งที่พูด เดี๋ยวจะได้แล้วนะ มีคนจะมาช่วยแล้วนะจะเอาของกลับมาให้ หนูมีความหวังทุกครั้งที่มีคนที่พูดจะมาช่วยหนู สุดท้ายมันไม่ได้เป็นแบบนั้นอะ มันก็กลายเป็นว่าดิวแถไปวันๆ ซึ่งมันไม่ใช่แบบนั้นหนูพยายามทำให้ดีที่สุดพยายามแก้ไขปัญหา หนูไม่ได้มีเจตนาเลยที่จะทำแบบนั้น“

ส่วนกับซุงก็ได้เคลียร์ปัญหาจบไปเรียบร้อยแล้ว “ในส่วนที่เขาพูดว่าที่ยังค้างอยู่คือส่วนดอกเบี้ย ของน้องซุงมันเป็นเงิน 12.5 ล้าน ของรุ่นพี่ดิวคนนั้นเป็นเงินอีกประมาณ 7 ล้าน กว่าบาท โดยรวมประมาณ 20 ล้าน ที่เขามาตามคือส่วนของดอกเบี้ย คือตอนนั้นขอยืม 7 วันก่อนเพราะดิวรู้ว่าเงินดิวกำลังจะมา พอ 7 วันดิวทำไม่ได้เลยขอให้รุ่นพี่ไปช่วยคุยให้ แต่ดอกเบี้ยตอนนั้นที่คุยกันไว้คือ 10% จาก 12.5 ล้าน สุดท้ายแล้วหนูก็พูดกับรุ่นพี่หนูตรงๆ ว่าในตอนนี้ คือชีวิตคนเรามันก็ต้องมีครั้งหนึ่งที่เป็นแบบนี้มีปัญหาไม่มีทางออกในเรื่องของเงิน (ดิว เอาเงินไปทำอะไร?) เงินที่เห็นก็คือหนูลงทุนทำธุรกิจหลายอย่าง แต่ธุรกิจทั้งหมดที่ดิวทำไม่ได้มีอะไรที่ประสบความสำเร็จเลย ข้อสองยอมรับตรงๆ เลยว่าตัวหนูเองก็เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับสังคมค่ะ ที่ใช้เงินเกินตัวหรือเปล่าหรือประมาณตัวเองจนทำให้เกิดปัญหาแบบนี้ ก็ถึงจุดที่ต้องยอมรับแล้วว่ามันเป็นแบบนั้น“