จุลพันธ์ ยันรัฐบาลพร้อมเดินหน้าเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เครื่องยนต์ขับเคลื่อนศก.ใหม่ผลักดันท่องเที่ยว ย้ำมีการกำกับดูแลรอบด้าน

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่ากากระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากที่รัฐสภามติให้มีการตั้งกรรมาธิการเพื่อศึกษาในเรื่องสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์มานานเกือบ 2 ปี ซึ่งในครั้งนี้ ทางรัฐบาลที่นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา อย่างชัดเจนว่า รัฐบาลต้องการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวแบบแมนเมดเดสติเนชั่น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์

สำหรับขั้นตอนการร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ขณะนี้คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ส่งร่างกฎหมาย ที่มีการปรับแก้รายละเอียดกลับมาให้กระทรวงการคลังแล้ว โดยคลังจะส่งร่างกฎหมายที่มีการปรับปรุงเข้าสู่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อที่เข้าสู่วาระการพิจารณาในสภาฯ ต่อไป

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ยืนยันการเดินหน้าเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ จะเป็นเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจตัวใหม่ ซึ่งเป็นธุรกิจการให้บริการเพื่อการท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจ รองรับได้ทั้งครอบครัว โดยมีสวนน้ำ สวนสนุก ร้านอาหาร โรงแรมเป็นต้น ไม่ได้จัดตั้งเฉพาะกาสิโนเท่านั้น กฎหมายกำหนดต้องมีองค์ประกอบ 4 อย่าง ต่อ 1 กาสิโน เช่น มีโรงแรม สวนสนุก สวนน้ำ ห้างสรรพสินค้า และกาสิโนต่อหนึ่งพื้นที่ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามา

ทั้งนี้ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์นั้นหลายประเทศ อาทิ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ดูไบ และสหรัฐอเมริกา ซึ่งตัวอย่างประเทศที่ประสบความสำเร็จ เช่น สิงคโปร์ โดยพบว่า เมื่อมีการจัดตั้งมารีน่า เบย์ แซนด์ส ซึ่งเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ทำให้ภาคท่องเที่ยวของสิงคโปร์ก้าวกระโดด อัตราการเติบโตนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากขึ้น25% ขณะที่ไทยไม่ได้คาดหวังขนาดนั้น เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวไทยมีความแข็งแกร่ง แต่เชื่อว่าอัตราการเติบโตท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นมาอีก 5-10% การใช้จ่ายต่อรายคาดเพิ่มเป็น 6.5 หมื่นบาท จาก 4.5 หมื่นบาทต่อราย ฉะนั้น ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ เชื่อว่าเป็นเชิงบวก

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ส่วนสิ่งที่มีข้อกังวลด้านการกำกับดูแล ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนอยู่ระหว่างเดินหน้าสู่สภาฯ เบื้องต้น ได้ร่างกฎหมายสำหรับคนที่จะเข้าไปใช้บริการ อย่างน้อยต้องมีเงิน 5,000 บาท ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาได้เข้าไปกำหนดเรื่องเงินฝากโดยลึก ๆ ส่วนตัว เรามีความเห็นแย้ง แต่ก็พร้อมรับฟังและนำไปสู่การพิจารณาในสภาต่อไป นอกจากนี้ มองว่าปัจจุบันเทคโนโลยีพัฒนาแล้ว เชื่อมั่นว่าจะสามารถป้องปรามปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ระดับหนึ่ง

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ร่างกฎหมายยังได้กำหนดให้มี 2 คณะกรรมการ ได้แก่ คณะกรรมการบริหารและคณะกรรมการนโยบาย โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งเป็นหัวหน้าที่จะรับผิดชอบขั้นสูงสุดทางสังคมได้ และสิ่งที่เกิดขึ้นจะต้องโปร่งใส รอบคอบ และพิสูจน์ได้

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ส่วนข้อกังวลเรื่องทุนสีเทา สามารถตัดออกไปได้เลย เพราะบริษัทขนาดใหญ่สนใจทั้งหมด และส่วนใหญ่ลงทุนหลายที่ และเม็ดเงินขนาดใหญ่ที่เข้ามาลงทุน ไม่คุ้มความเสี่ยงที่จะถูกถอนใบอนุญาต และนักลงทุนต้องป้องกันการเกิดฟอกเงิน ค้ามนุษย์ ค้าประเวณี ซึ่งไม่ได้เสี่ยงเฉพาะการถูกถอนใบอนุญาตในประเทศไทย แต่ประเทศอื่นๆ ก็เสี่ยงถูกถอนใบอนุญาตด้วย

“รัฐบาลพร้อมรับฟังเสียงของทุกฝ่าย เราเชื่อเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ คือ เกมเชนเจอร์จริงที่ประเทศไทยกำลังขาด อย่างไรก็ดี การมีส่วนร่วมของทุกคนจึงมีความสำคัญและวาระสุดท้ายสภาฯ จะเห็นชอบหรือไม่ หากเห็นชอบจะเดินหน้าต่อไป แต่หากศึกษาไม่มีที่ใดในประเทศไทยไม่มีพื้นที่เหมาะสม ก็จะไม่เกิด แต่เราเชื่อว่าประเทศไทยเป็นพื้นที่มีศักยภาพ” นายจุลพันธ์ กล่าว