“ศุภมาส” เผยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล สร้างประวัติศาสตร์ใหม่! ก้าวสู่มหาวิทยาลัยด้านดนตรีที่ดีที่สุดของโลก อันดับที่ 28 จาก QS World University Rankings by Subject 2025 ตอกย้ำศักยภาพด้านดนตรี-ศิลปะการแสดงของไทยในระดับสากล พร้อมเดินหน้าสู่การเป็นผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมดนตรีโลก
19 มี.ค.2568 -น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยด้านดนตรี (Music) ที่ดีที่สุดของโลกในอันดับที่ 28 และด้านศิลปะการแสดง (Performing Arts) ที่ดีที่สุดของโลกในอันดับที่ 47 จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกโดย QS World University Rankings by Subject 2025 ความสำเร็จนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงศักยภาพของประเทศไทยในด้านดนตรีและศิลปะการแสดงในระดับสากล ซึ่งวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติว่ามีความเป็นเลิศในสาขาดนตรีและศิลปะการแสดง สอดรับกับนโยบายกระทรวง อว. ที่มุ่งพัฒนาความเป็นเลิศของสถาบันอุดมศึกษาที่มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป และพร้อมที่จะสนับสนุนต่อยอดอย่างเต็มที่เพื่อให้เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านศิลปะและดนตรี ที่จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจผ่านอุตสาหกรรมบันเทิง และสามารถแข่งขันในตลาดดนตรีระดับโลกได้
“ความสำเร็จครั้งนี้ไม่ใช่เพียงของสถาบันการศึกษา หรือของกระทรวง อว. แต่เป็นของประเทศไทยที่กำลังก้าวขึ้นสู่เวทีโลกด้านดนตรีและศิลปะการแสดง กระทรวง อว.และรัฐบาลจะเดินหน้าสนับสนุนมหาวิทยาลัยและสถาบันศิลปะต่างๆ ให้ได้รับการพัฒนาในระดับสากล เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านศิลปวัฒนธรรม และสามารถสร้างรายได้จากเศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้อย่างยั่งยืน” น.ส.ศุภมาส กล่าว
ด้าน ศ.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า มหาวิทยาลัยมหิดลมุ่งมั่นเป็นผู้นำด้านการศึกษาระดับนานาชาติ ความสำเร็จของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ครั้งนี้เป็นอีกบทพิสูจน์หนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพและศักยภาพของสถาบันไทยในเวทีโลก เราจะเดินหน้าพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการศึกษาต่อไป เพื่อสร้างโอกาสและความเป็นเลิศให้กับนักศึกษาไทย
ขณะที่ ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ความสำเร็จในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้วิทยาลัยฯ ก้าวขึ้นเป็นสถาบันดนตรีชั้นนำของเอเชีย แต่ยังช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางด้านดนตรีและศิลปะการแสดงระดับนานาชาติ วันนี้เรามาถึงจุดที่ดนตรีไทยได้รับการยอมรับในระดับสากล และพรุ่งนี้เราจะเดินหน้าสู่การเป็นผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมดนตรีโลก