หนุ่มใหญ่เมา เข้าลวนลามแม่ค้าเฉาก๊วย 2 โจ๋ เข้าช่วย ตีหัวเลือดอาบ โวยวายอ้างโดนต่างด้าวทำร้าย
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 19 มีนาคม ด.ต.บรรจง รวดเร็ว ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าเขตงานนาคา ต.บ้านเลื่อม ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกาย มีผู้บาดเจ็บหัวแตกเลือดอาบ นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม หน้าโรงแรมนภาลัย ถนนประชารักษา เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงพร้อมด้วยอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม รุดไปตรวจสอบ
พบผู้ชายที่หน้าผากมีบาดแผล 2 แห่ง เลือดไหลอาบหน้าและเสื้อผ้า มีอาการมึนเมาสุรา ทราบชื่อภายหลังว่านายวิจิตรา อายุ 47 ปี ให้การว่า ตนขับสามล้อเครื่อง และเก็บของเก่าในเขตเทศ อ.เมือง จ.อุดรธานี ก่อนเกิดเหตุ ตนขับสามล้อเครื่องไปเก็บของเก่าในซอยคลองเจริญ ได้มีชาวพม่าจำนวนมากรุมทำร้าย โดยไม่รู้ว่าโดนอาวุธชนิดใดตีที่หน้าผากจนแตกเลือดไหลอาบ ตนจึงเดินมาขอความช่วยเหลือ มาถึงบริเวณ หน้าโรงแรมนภาลัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำตัวส่งโรงพยาบาล
ต่อมามีนายฑีฆายุ หรือเป้ อายุ 17 ปี และนายภาวิตหรือภพ อายุ 17 ปี ชาวอำเภอเมือง จ.อุดรธานี ซึ่งได้แสดงตัวว่าเป็นผู้ทำร้ายนายวิจิตร เล่าว่า พวกตนขายน้ำส้ม นม และขนม อยู่ที่สี่แยกวิทยาลัยพละ ถนนเลี่ยงเมืองอุดรธานี แล้วก็เข้ามานั่งพักภายในซอยคลองเจริญ ใกล้กับสี่แยกวิทยาลัยพละ
ต่อมามีผู้หญิงอายุประมาณ 45 ปี เดินมาขอความช่วยเหลือ ว่าขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 125 สีน้ำเงิน พ่วงข้าง หรือรถซาเล้งขายเฉาก๊วย แต่โซ่รถหลุดลูกปืนล้อหลังแตก แต่มีผู้ชายขับรถสามล้อเครื่องมาพบ เข้ามาอาสาซ่อมรถให้ แต่ผู้ชายมีอาการมึนเมา และพยายามลวนลามผู้หญิง เกรงจะถูกข่มขืน จึงเดินมาขอความช่วยเหลือจากพวกตน
จากนั้นตนทั้ง 2 คน จึงไปซ่อมรถจักรยานยนต์ให้ป้าผู้หญิง ทำให้ผู้บาดเจ็บไม่พอใจ ขณะที่ตนกำลังนั่งซ่อมรถ ผู้บาดเจ็บเข้ามาดึงซาเล้ง ตนก็เลยบอกว่าถ้าไม่ช่วยก็ให้อยู่เฉยๆ แต่ผู้บาดเจ็บได้ใช้มาฟาด นายภพ ซึ่งนายภพ ถอยหนีจนเข้าไปในป่าจนจะจนมุม แล้วนายเป้ เรียกผู้บาดเจ็บ หลอกล่อออกมา
จากนั้นนายภพ เอาแผ่นกระจกบานเกล็ดฟาดที่หน้าผากจนแตกเลือดไหลอาบ เพื่อให้เหตุการณ์สงบ ผู้บาดเจ็บก็เดินไปบ่นไปว่าโดนพวกพม่าทำร้าย ซึ่งพวกตนก็ได้เดินตามผู้บาดเจ็บไปเรื่อยๆ จนถึงหน้าโรงแรม กระทั่งมีเจ้าหน้าที่มาช่วย พวกตนจึงออกมาแสดงตัวว่าเป็นคนตีหัวผู้บาดเจ็บ เพราะว่าผู้บาดเจ็บมีอาการมึนเมา ลวนลามผู้หญิง และจะทำร้ายพวกตนก่อน และยังตะโกนว่าพวกตนเป็นพม่า หาว่าพม่าฆ่าคนไทยแล้ว และหาว่าพวกตนเป็นลูกน้องทักษิณ
ส่วน น.ส.ลำแพน อายุ 40 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ขณะขับรถจะไปทำงาน ก็พบผู้บาดเจ็บเดินเซไปเซมาอยู่ริมถนน มองดูเหมือนสีอาบหน้า และบอกว่าไม่มีใครช่วยเลย พอมาดูใกล้ๆ จึงรู้ว่าโดนทำร้ายและมีบาดแผลที่หน้าผากไม่ใช่สีแต่เป็นเลือดไหลอาบหน้าและตัว ตนจึงโทรแจ้งอาสากู้ภัยมูลนิธิสว่างเมธาธรรมมาช่วยเหลือ
นายฑีฆายุ หรือเป้ และ นายภาวิต หรือภพ ได้นำตำรวจไปตรวจที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมนภาลัย 300 เมตร ไม่พบแม่ค้าเฉาก๊วยแล้ว แต่พบสามล้อเครื่องผู้บาดเจ็บจอดอยู่
ด.ต.บรรจง รวดเร็ว ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองอุดรธานี เล่าว่า ขณะออกตรวจได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่า มีคนถูกทำร้ายศีรษะแตกเลือดอาบ จึงรีบมาดู ก็พบนายวิจิตร เมาสุราหัวแตกเลือดอาบตัว บอกว่าขับรถสามล้อเครื่องมาเก็บของเก่าขาย มาพบพม่ารุมทำร้าย แต่นายเป้ และนายภพ ได้แสดงตัวว่าเป็นผู้ทำร้ายผู้บาดเจ็บ ซึ่งทั้งสองขายขนม นม และน้ำส้ม อยู่สี่แยกวิทยาลัยพละ
พร้อมกับเล่าว่า นายวิจิตรพบแม่ค้าขับซาเล้งขายเฉาก๊วย แต่รถพังจึงอาสาเข้าไปช่วย แต่นายวิจิตรพยายามลวนลามและชวนเข้าไปในป่า ผู้หญิงเกรงว่าจะโดนข่มขืน จึงมาขอความช่วยเหลือจากเด็กทั้งสองให้ช่วยซ่อมรถ ทำให้นายวิจิตรไม่พอใจ มาก่อกวนเอาไม้ไล่ตีเด็กวัยรุ่นก่อน จึงโดนเด็กวัยรุ่นทำร้ายคืน จึงนำนายเป้และนายภพไปสอบปากคำเบื้องต้นและทำประวัติไว้ และต้องรอให้นายวิจิตรออกจากโรงพยาบาลก่อน ว่าจะดำเนินคดีหรือไม่ และจะต้องตามหาแม่ค้าเฉาก๊วยที่เด็กทั้งสองคน ช่วยเหลือและอ้างว่าโดนนายวิจิตลวนลาม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป