กว่า 2 เดือน หลังรัฐบาลมีนโยบายปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำเป็น 400 บาทใน 3 จังหวัดอีอีซี ได้สร้างความเดือดร้อนอย่างหนักให้ผู้ประกอบการ
โดย “เสี่ยตั้ม” ทินกร ลาวัณย์เสถียร ซึ่งก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานหอการค้าจังหวัดระยองคนใหม่หมาด ๆ เล่าให้ฟังว่า ได้ไปคุยกับผู้ประกอบการหลายแห่งบอกว่า ตอนนี้มีผลกระทบมาก
เดิมระยอง และชลบุรี ค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 372 บาท และฉะเชิงเทราวันละ 350 บาท พอปรับขึ้นไป 400 บาท ขณะที่ค่าจ้างขั้นต่ำกรุงเทพฯ และปริมณฑล วันละ 372 บาท รัฐบาลคิดได้ยังไง ตรรกะตรงนี้มันไม่ถูกต้อง
ส่งผลกระทบให้ผู้ประกอบการธุรกิจประเภทเดียวกันที่ตั้งโรงงานใน 3 จังหวัดอีอีซี ไม่สามารถสู้ต้นทุนค่าแรงกับโรงงานที่ตั้งในเขตกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการได้
วันนี้ผู้ประกอบการไม่ต้องไปแข่งขันกับคู่แข่งในต่างประเทศ เพราะลำพังแข่งกับโรงงานคู่แข่งในประเทศไทยด้วยกันยังแข่งขันไม่ได้ เพราะนโยบายของรัฐบาล
ดังนั้น รัฐบาลต้องมาดูแลตรงนี้ เพราะถ้าผู้ประกอบการอยู่ไม่ได้ คนจะตกงานจำนวนมาก
สอดคล้องกับ “สุกัณฑ์ โสรัจจกิจ” ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่บอกกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในเดือนมีนาคม 2568 โรงงานใน จ.ฉะเชิงเทราที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท เตรียมปลดพนักงานชั่วคราวอีก 700 คน และอีกหลายแห่งเปิดโครงการสมัครใจลาออกเพิ่มเติม สุดท้ายหากประคองธุรกิจไม่ได้ก็ต้องปิดกิจการ
ปัจจุบันโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ใน จ.ฉะเชิงเทรา ไปว่าจ้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ที่ จ.ปราจีนบุรี กรุงเทพฯ จ.สมุทรปราการ ผลิตชิ้นส่วนบางอย่างแทนในลักษณะ Outsource เนื่องจากโรงงานใน 3 จังหวัดผลิตสินค้าเหมือนกับโรงงานที่ จ.ฉะเชิงเทรา แต่ค่าแรงถูกกว่า
ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำกว่าที่ จ.ฉะเชิงเทรา
โดยเฉพาะโรงงานชิ้นส่วนรถยนต์ ต้องเผชิญปัญหาทั้งจากต้นทุนค่าแรงที่สูงขึ้น และการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์ใช้น้ำมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้โรงงานต้องปรับตัวลดต้นทุน
ตอนนี้ต้นทุนทุกอย่างเพิ่มขึ้น ทั้งค่าไฟ ภาษีโรงเรือน ค่าธรรมเนียมผู้ประกอบการ
“การลดต้นทุนแบบง่ายที่สุดของโรงงานคือ การเอาสิ่งที่เคยอยู่ในระบบ ออกนอกระบบให้หมด เช่น เรื่องสิ่งแวดล้อมที่จะให้ความสำคัญน้อยลง เพราะมีต้นทุนการจัดการสูง
แม้กระทั่งการตรวจตราอาคารจะลดลง ทุกอย่างจะกลับมาต้นทาง คือผู้ประกอบการจะกลายเป็นตัวสร้างปัญหาหลายอย่างในสังคม” คุณสุกัณฑ์กล่าวทิ้งท้าย
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐบาลอาจคิดง่าย ๆ ว่า การจ่ายค่าแรงของโรงงานขนาดใหญ่ในอีอีซีส่วนใหญ่จ่ายสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว
แต่อย่าลืมว่า การประกาศขึ้นค่าแรงทั้งจังหวัด มีผลกระทบตั้งแต่โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในนิคมอุตสาหกรรม ลงไปถึงระดับธุรกิจรากหญ้า
ดังนั้นจึงถึงเวลาที่รัฐบาลจะทบทวนความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ไม่ใช่คิดเพียงว่าต้องทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ เพราะแรงงานจะตกงานกันอีกจำนวนมาก