รู้หรือไม่ ลื่นล้ม-บาดเจ็บ เพราะผู้อื่นประมาท ฟ้องแพ่งได้ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคชี้ช่องทาง
GH News March 20, 2025 03:43 PM

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ชี้ช่อง ลื่นล้ม-บาดเจ็บจากความประมาทผู้อื่น เรียกค่ารักษาพยาบาล-ฟ้องแพ่งได้ เปิด 7 ขั้นตอนเรียกชดเชย

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่า ประชาชานมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายได้ ในกรณีเกิดอุบัติเหตุในสถานที่ต่างๆ นอกบ้าน เช่น เดินสะดุดสายไฟบริเวณบูธขายสินค้าภายในห้างฯ หรือสถานที่จัดงานอื่นๆ เจ็บน้อย-เจ็บมากแล้วแต่กรณี

บางคนลื่นล้มกระแทกกับพื้นอย่างแรงถึงขั้นกระดูกเกิดการแตกหัก หรือกำลังเดินเพลินๆ อยู่ในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่คุณไม่รู้ว่ากำลังมีการซ่อมแซม ทำให้เกิดสะดุดตรงเครื่องมือก่อสร้างที่ถูกซุกไว้ใต้พรมจนล้มลงได้รับบาดเจ็บ ถึงแม้มีป้ายข้างประตูเขียนว่า “พื้นที่ก่อสร้างระวัง” แต่ป้ายกลับถูกปิดทับด้วยบันไดที่พิงกำแพง ดังนั้นคุณจึงมองไม่เห็น

นี่เป็นเหตุที่ทำให้ประชาชนมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายได้ การลื่นล้มถึงแม้เกิดขึ้นภายในเสี้ยววินาที แต่ผลสะท้อนกลับ ได้นำไปสู่อาการบาดเจ็บในระยะยาว ทั้งการรักษาพยาบาลที่มีค่าใช้จ่ายสูง บางคนที่ไม่มีเงินเดือนประจำ ต้องสูญเสียรายได้เพราะต้องหยุดพักรักษาตัว ดังนั้น หากประสบอุบัติเหตุลื่นล้มเนื่องจากความประมาทเลินเล่อของผู้อื่น (ที่มิใช่ตัวคุณเองกระทำการประมาท) พวกเขาต้องชดเชยความสูญเสียที่คุณได้รับ ไม่เว้นแม้แต่ในจุดบริการรับส่งพัสดุ สมมุติเดินเข้าไปแล้วเกิดลื่นล้มได้รับบาดเจ็บ ต้นตอมาจากอุปกรณ์บางอย่างที่บริษัทขนส่งเป็นเจ้าของ ก็สามารถเป็นเหตุให้คุณเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลรวมถึงฟ้องร้องทางแพ่งได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ติดต่อเรียกร้องค่าเสียหายแล้ว แต่ได้รับการตอบกลับมาที่ไม่ยุติธรรม เช่น อ้างว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้แค่บางส่วน ผู้บริโภคสามารถร้องเรียนที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อขอความช่วยเหลือได้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพิทักษ์สิทธิจะทำหนังสือเพื่อแจ้งเรื่องและมาเจรจาไกล่เกลี่ยร่วมกัน ทั้งนี้ ขอแนะนำ เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น ผู้บริโภคต้องปกป้องตัวเอง เก็บหลักฐานให้ครบ เพื่อเรียกร้องค่าชดเชยเยียวยา สิ่งสำคัญคือต้องทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องเพื่อปกป้องสุขภาพและสิทธิ์ทางกฎหมาย

ขั้นตอนดำเนินการหลังจากเกิดอุบัติเหตุลื่นล้ม 

1.ไปพบแพทย์ทันที แม้ว่าอาการบาดเจ็บอาจจะดูเล็กน้อยก็ตาม เพราะอาการบาดเจ็บบางอย่าง เช่น การถูกกระทบกระแทก หรือ การบาดเจ็บภายใน อาจไม่ชัดเจนในทันที

2.รายงานอุบัติเหตุให้เจ้าของพื้นที่ทราบโดยเร็วที่สุด ต้องให้บันทึกเหตุการณ์เป็นลายลักษณ์อักษรและขอสำเนารายงานไว้เป็นหลักฐาน เอกสารนี้อาจมีความสำคัญในภายหลังหากคุณตัดสินใจยื่นเรียกร้องค่าชดเชย และอาจถึงขั้นฟ้องร้อง

3.ถ่ายภาพสถานที่เกิดเหตุ รวมถึงสภาวะอันตรายใดๆ ที่อาจส่งผลต่อการลื่นล้มของคุณ เช่น พื้นเปียก พื้นผิวไม่เรียบ หรือ แสงไม่ดี พร้อมทั้งรวบรวมข้อมูลการติดต่อจากพยานที่เห็นเหตุการณ์เกิดขึ้น

4.เก็บรักษาหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุของคุณ เช่น เสื้อผ้าและรองเท้าที่คุณสวมใส่ในขณะเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงบันทึกทางการแพทย์และใบเสร็จรับเงินที่เกี่ยวข้องกับอาการบาดเจ็บของคุณ

5.เก็บบันทึกรายละเอียดของค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการลื่นล้มและอุบัติเหตุต่างๆ รวมถึงค่ารักษาพยาบาล สูญเสียค่าจ้างและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องจ่ายเอง ข้อมูลนี้จะมีความสำคัญเมื่อคำนวณมูลค่าของข้อเรียกร้อง

6.หากได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุลื่นล้ม สิ่งสำคัญคือการขอคำแนะนำทางกฎหมายจาก ทนายความที่มีประสบการณ์ สามารถช่วยให้คุณเข้าใจสิทธิและทางเลือกในการดำเนินคดี และเรียกร้องค่าชดเชย

7.สิ่งสำคัญอย่างมาก หลีกเลี่ยงการพูดคุยกับบริษัทประกันภัยของคู่กรณี เพราะอาจถูกบันทึกถ้อยคำโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือ ชักจูงในทางใดทางหนึ่ง เช่น ปรับลดการเรียกร้องค่าชดเชย ซึ่งนั่นอาจส่งผลเสียต่อคดีของคุณได้ เพราะฉะนั้น หากเกิดเหตุการณ์นี้ ผู้เสียหายต้องปรึกษาฝ่ายกฏหมายของฝั่งตัวเองทันทีเพื่อป้องกันตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

นอกจากนี้ ผู้บริโภค ยังสามารถฟ้องร้องจากการลื่นล้มจนบาดเจ็บได้ด้วย โดยช่องทางการฟ้องแพ่ง จากข้อมูล “ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 ที่ระบุไว้ว่า …ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น” แต่การจะเรียกร้องค่าเสียหายได้หรือไม่ ต้องมาพิเคราะห์ดูเหตุผลตามข้อกฎหมาย คือหากจุดที่ผู้บริโภคเกิดอุบัติเหตุลื่นล้ม ก็ต้องดูว่าเจ้าของพื้นที่มีการจงใจ หรือประมาทเลินเล่อที่ไม่ใส่ใจดูแล หรือไม่มีการเตือนภัย ให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการหรือลูกค้าหรือไม่ ซึ่งหากพบมีการปล่อยปะละเลยทำให้พื้นที่ไม่ปลอดภัย จนเป็นเหตุให้ผู้บริโภคที่ใช้บริการเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มขึ้นมา เจ้าของพื้นที่นั้นๆ ก็ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามควร

แต่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 เป็นความรับผิดทางแพ่ง เบื้องต้นก็ต้องใช้การเจรจาเพื่อขอให้ชดใช้ค่าเสียหายตามควร ถ้าไม่ได้ผลต้องฟ้องศาลเพื่อพิสูจน์ว่า มีการประมาทเลินเล่อหรือไม่คุณสามารถฟ้องคดีลื่นล้มและบาดเจ็บ หากคนอื่นมีส่วนทำให้เกิดเหตุการณ์นั้น พวกเขาต้องชดเชยความสูญเสียที่คุณได้รับ แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายในกรณีลื่นล้มในห้างฯ ความท้าทายอยู่ที่การพิสูจน์ความรับผิด คุณต้องพิสูจน์และมีหลักฐาน ที่เป็นตัวการทำให้คุณเกิดอุบัติเหตุ เช่นกัน ทางห้างฯ ก็ต้องไปหาหลักฐานไปพิสูจน์ในชั้นศาลเช่นกัน

ถึงแม้กระบวนการฟ้องร้องทางศาลกินระยะเวลายาวนานในการเรียกร้องสิทธิ แต่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ก็อยากให้ทุกท่านอย่าเพิกเฉยกับความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะคำตัดสินของศาล จะกลายเป็นบรรทัดฐานให้กับผู้เสียหายรายอื่นๆ มีกำลังใจในการต่อสู้เพื่อรักษาสิทธิของตัวเองและคนที่คุณรัก สามารถปรึกษา-ร้องเรียน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค 4/2 ซอยวัฒนโยธิน แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400, โทรศัพท์ 0-2248-3734 ถึง 37, แฟกซ์ 0-2248-3733, อีเมล complaint@consumerthai.org

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.