วันที่ 20 มี.ค.2568 ที่รัฐสภา นายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด พรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การเกษตร และสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ทุเรียนในประเทศไทยในขณะนี้ ว่า ในส่วนของกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ ที่นำโดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พยายามที่จะดูแลทั้งในส่วนของเกษตรกรและล้งส่งออก โดยกรมวิชาการเกษตรที่จะเข้าไปตรวจสอบสารแคดเมียม และ Basic Yellow (BY2) ทั้งภาครัฐและเอกชนค่อนข้างที่จะร่วมไม้ร่วมมือกัน และสิ่งที่เราเห็นในวันนี้คือเกษตรกร โดยเฉพาะชาวสวนทุเรียนตื่นตัวมาจากความกลัวว่าจะส่งออกไม่ได้ เนื่องจากมาตรการกักกันสินค้าจากจีนเมื่อวันที่ 10 มี.ค. มีความเข้มงวดมากขึ้น จึงมามีการตรวจสอบสารมากขึ้นถือเป็นปรากฎการณ์ที่ดี

นายศักดินัย กล่าวว่า เรื่องสำคัญคือการส่งออกสามารถทำได้โดยสะดวกหรือไม่นั้น ต้องบอกว่า ทางการจีนยังมีความเข้มงวดในการตรวจสอบอยู่ จะทำให้เกิดอุปสรรคในการส่งออกเกิดขึ้นแน่ รวมถึงผลกระทบของเงื่อนไขระยะเวลาที่จะส่งออกทุเรียนไปถึงปลายถึง ซึ่งในอนุกรรมาธิการที่พูดคุยเรื่องทุเรียนโดยเฉพาะ มีการเสนอในตั้งทีมเจรจาแก้ไขเฉพาะหน้าเพื่อไม่ให้การส่งออกสะดุด

“ในเรื่องแคดเมียมผมมั่นใจว่าในภาคตะวันออกไม่ค่อยมีปัญหา ส่วนเรื่องBY2 ทางกรมวิชาการเกษตรพยายามที่จะเคลียร์เรื่องนี้ไป ทางกระทรวงเกษตรถือว่าทำงานได้ดี ท่านรัฐมนตรีเองก็ลงพื้นที่ทั้งจ.ตราด และจ.จันทบุรี ถือว่ากลไกทางการเมือง และราชการเองให้ความสำคัญ“ นายศักดินัย กล่าว

นายศักดินัย กล่าวว่า เรื่องที่สำคัญคือทางการจีนจะผ่อนปรนให้เมื่อไหร่ ไทยดีกว่าเวียดนามตรงที่ไม่มีกรอบระยะเวลาว่าเมื่อไหร่จะผ่อนปรนให้อาจจะเป็นพรุ่งนี้เลยก็ได้ แต่ของเวียดนามถูกกำหนดกรอบเวลาไว้ อยู่ที่เราจะสร้างความเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน

เมื่อถามว่ามีอะไรอยากแนะนำกระทรวงพาณิชย์หรือไม่เนื่องจากเป็นผู้ดูแลการส่งออกทุเรียน นายศักดินัย กล่าวว่า ในเรื่องของการส่งออกทุเรียนเราภาคเอกชนที่มีสายสัมพันธ์อันดีกับจีนที่ทำมาก่อนยาวนาน ไม่ใช่รัฐไปเจรจาจะไปพูดคุยได้เลย รัฐเป็นเพียงกลไกที่ทำพิธีที่เป็นทางการเท่านั้น ทางกระพาณิชย์เองควรส่งเสริมแก้ไขปัญหา และเจรจาเรื่องผ่านแดนว่าสามารถตรวจร่วมกันหรือลดการเวลาในการตรวจได้หรือไม่เนื่องจากผลไม้มีปัญหาเรื่องของเงื่อนไขเวลา ในส่วนนี่เป็นความกังวลของเกษตรกรอยู่พอสมควร