เมื่อวันที่ 20 มีนาคม นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ชลบุรี) บูรณาการกำลังกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปฏิบัติการตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายตามยุทธการ “พิทักษ์ผืนป่าตะวันออก” เป็นการต่อเนื่อง
โดยในวันนี้ กรมป่าไม้ โดยหน่วยพยัคฆ์ไพร นำโดยนายชาญชัย กิจศักดาภาพ หัวหน้าชุด ร่วมกับ ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) หน่วยงานในสังกัดสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ชลบุรี) นำโดยนายมงกรด อุ่นเรือน ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าฯ และ กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำโดย พ.ต.อ.วิญญู แจ่มใส ผกก.กก.2 ร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมาย ในท้องที่จังหวัดจันทบุรี จำนวน 2 จุด ได้ทำการตรวจยึดพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุก แผ้วถาง ยึดถือครอบครอง ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าตกพรม ท้องที่ หมู่ที่ 4 บ้านโชคดี ตำบลบ่อเวฬุ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี จำนวน 2 แปลง ดังนี้
แปลงที่ 1 ตรวจยึดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ที่ถูกบุกรุก แผ้วถาง ยึดถือครอบครอง ทำประโยชน์ โดยมีลักษณะของการใช้เครื่องจักรกลหนักเข้าปรับไถพื้นที่ และปลูกปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 42-2-96 ไร่ ตรวจยึดไม้ท่อนหวงห้าม จำนวน 2 ท่อน ปริมาตร 2.16 ลบ.ม. ไม้หวงห้ามแปรรูป จำนวน 10 แผ่น ปริมาตร 0.55 ลบ.ม. พร้อมของกลาง จำนวน 4 รายการ
ขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ผู้กระทำผิดได้หลบหนีออกจากพื้นที่ไปก่อนไม่นาน ซึ่งได้ทิ้งอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำผิดไว้ ลักษณะการกระทำยังสดใหม่อยู่ จึงได้เก็บหลักฐาน รวมทั้งลายนิ้วมือบนอุปกรณ์ต่างๆ ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อทำการพิสูจน์หลักฐานตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ จากนั้นได้ขยายผลเข้าไปในพื้นที่ข้างเคียง พบบุคคลต้องสงสัย 1 ราย จึงได้ทำการสอบปากคำประกอบการสืบสวน เพื่อให้ให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียก และได้นำแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.ตกพรม ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14 ประกอบมาตรา 31 และ ชดใช้ค่าเสียหายตามมาตรา 26/4 และ พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 11 ประกอบมาตรา 73 มาตรา 54 ประกอบมาตรา 72 ตรี และมาตรา 69 เพื่อดำนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป
แปลงที่ 2 ตรวจยึดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ที่ถูกบุกรุก เพื่อปลูกทุเรียน เนื้อที่ 13-1-96 ไร่ ตรวจพบสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 2 รายการ และสระน้ำ จำนวน 1 สระ จากนั้นได้ขยายผลสืบสวนหาข้อมูลเชิงลึก พบว่าเชื่อมโยงกับบุคคลรายหนึ่ง ที่มีอาชีพทำไม้ยางพาราในพื้นที่ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานประกอบการสืบสวน นำแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.ตกพรม ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14 ประกอบมาตรา 31 และ ชดใช้ค่าเสียหายตามมาตรา 26/4 และ พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 11 ประกอบมาตรา 73 มาตรา 54 ประกอบมาตรา 72 ตรี เพื่อดำนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป
ทั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการเข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายเป็นการต่อเนื่องจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ