บช.ศ.แจงแล้ว เหตุ ส.ต.อ.ใส่ขาเทียมสอบติดนายร้อย แต่สุดท้ายถูกปัดตก ทั้งที่คะแนนทดสอบทุกอย่างผ่านเกณฑ์ ชี้ช่องโยกไปอีกสายได้
จากกรณี ส.ต.อ.ธนวรรฒน์ ปัญญาเลิศศรัทธา ผบ.หมู่ สส.สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ได้สอบเพื่อเลื่อนชั้นเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตรของกรมตำรวจเมื่อปี 2567 โดยประกาศผลออกมาได้คะแนนทั้งหมด 91 คะแนน และผ่านการสอบวัดสมรรถนะทางด้านร่างกาย เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ แต่ผลออกมากลับไม่ผ่าน โดยกรรมการระบุว่า พิการ เนื่องจากใส่ขาเทียม
สำหรับ ส.ต.อ.ธนวรรฒน์ เรียนจบศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 2 เมื่อปี พ.ศ.2561 เมื่อปี 2564 เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำจนต้องตัดขาซ้ายใต้หัวเข่าและปฎิบัติงานได้ตามปกติปี จากนั้นปี 2566 สอบติดสัญญาบัตรครั้งแรก ต่อมาปี 2568 ก็สอบติดครั้งที่ 2 แต่ไม่ผ่านดังกล่าว
ล่าสุดวันที่ 21 มี.ค.68 กองบัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้โพสต์เอกสารชี้แจงเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า ขอเรียนประชาสัมพันธ์เพื่อให้เกิดความเข้าใจในข้อเท็จจริง ดังนี้ ข้าราชการตำรวจรายดังกล่าวได้สมัครเข้าทำการสอบคัดเลือกตามประกาศกองบัญชาการศึกษา ที่รับสมัครข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ผู้มีวุฒิปริญญาตรีนิติศาสตรบัณฑิต เข้ารับการฝึกอบรมเพื่อแต่งตั้งเลื่อนชั้นเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร พ.ศ.2567 กลุ่มสายงานสืบสวนสอบสวน (สบ.1)
โดยผลคะแนของ ส.ต.อ.รายนี้ ผ่านการสอบข้อเขียนได้คะแนน (คิดเป็นร้อยละ 60.6) และให้เข้าทดสอบความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ว่ายน้ำและวิ่ง)
ต่อมาเมื่อถึงกำหนดวันทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ขณะจะทำการทดสอบว่ายน้ำ คณะอนุกรรมการพบว่า ส.ต.อ.รายดังกล่าวมีความผิดปกติทางร่างกาย ขาซ้ายขาดตั้งแต่เข่าลงมา โดยใส่ขาเทียมเข้ามารายงานตัว เพื่อขอเข้าทดสอบ และได้ทำบันทึกขอถอดขาเทียมออกเพื่อว่ายน้ำ ผลปรากฏว่าว่ายน้ำอยู่ในเกณฑ์เวลา
จากนั้นได้ไปทำการทดสอบวิ่ง แต่ได้ทำบันทึกขอใช้อุปกรณ์ขาเทียมสำหรับวิ่งโดยเฉพาะ และขณะนั้นแพทย์ประจำสนามไม่อาจให้ความเห็นว่าอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นอุปกรณ์เสริมหรือไม่ ตามที่ระเบียบต้องห้ามไว้ในประกาศ จึงให้เข้าทดสอบไปก่อนจนเสร็จสิ้นกระบวนการ ต่อมาเมื่อ 12 มี.ค.2568 คณะกรรมการดำเนินการคัดเลือก ได้ประชุมพิจารณาเพื่อจัดทำบัญชีรายชื่อผู้คัดเลือกได้ตามหลักเกณฑ์ที่ได้ประกาศรับสมัครและสอบคัดเลือก โดยกรณีของ ส.ต.อ. ปรากฏข้อเท็จจริง ดังนี้
1. ตามประกาศรับสมัคร ข้อ 2.6 ไม่เป็นผู้มีร่างกายผิดปกติ หรือพิกลรูป หรือพิการ อันเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่” กรณีที่ ส.ต.อ.รายดังกล่าว มีรายชื่อเข้าสอบข้อเขียน และไม่ได้ถูกตัดสิทธิการขาดคุณสมบัติตาม ข้อ 2.6 แต่แรก เนื่องจากเป็นการรับสมัครทางอินเตอร์เน็ต ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นได้ชัดเจน
และในกรณีมีอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์เสริมในการเดิน การวิ่ง ซึ่งแตกต่างกันในแต่ละภารกิจ ถ้าอุปกรณ์ดังกล่าวชำรุด ไม่พร้อม เสียหาย หรือสูญหายไป จะส่งผลต่อการดำเนินกิจวัตรประจำวัน หรือภารกิจต่างๆ ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสถานที่เกิดเหตุ หรือมีเหตุซึ่งหน้า อาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่นและต่อตนเอง
2. ตามระเบียบการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ในผนวก จ. ท้ายประกาศรับสมัคร ข้อ 6.2.5 ระบุ “ห้ามใช้อุปกรณ์ช่วยหรืออุปกรณ์เสริม ในการทดสอบใด ๆ ทั้งสิ้น..”
ที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่า ขาเทียมที่ ส.ต.อ. ใช้ในการทดสอบเป็นแบบ Sport ใช้ในการวิ่งขันกีฬา มีน้ำหนักเบา และมีสปริง เวลาวิ่งจะเสริมให้เท้ากระดกไปข้างหน้า จึงเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้การวิ่งซึ่งไม่เป็นขาเทียมปกติที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
ดังนั้น คณะกรรมการดำเนินการคัดเลือกพิจารณาแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ส.ต.อ.รายดังกล่าว เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนถูกต้องตามประกาศรับสมัคร จึงตัดรายชื่อออกจากผู้สอบคัดเลือกได้และไม่มีสิทธิเป็นผู้คัดเลือกได้ และผู้คัดเลือกได้สำรอง
อย่างไรก็ตาม ในการคัดเลือกครั้งนี้ กองบัญชาการศึกษาได้เปิดการคัดเลือกในสายนิติการ ซึ่ง ส.ต.อ.รายดังกล่าวสามารถเข้ารับการคัดเลือกโดยไม่ต้องทดสอบความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ว่ายน้ำและวิ่ง) ที่มีข้อห้ามตามประกาศรับสมัครแต่อย่างใด
กองบัญชาการศึกษาจึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ และขอยืนยันว่าคณะกรรมการดำเนินการคัดเลือกได้ดำเนินการสอบคัดเลือกอย่างโปร่งใส เป็นธรรม และปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบ ประกาศ และข้อบังคับที่เกี่ยวข้องทุกประการ