"ภูมิธรรม" ยืนยันใช้มาตรการ “3 ตัด” ต่อเมียนมา ไม่ผ่อนปรน ชี้ยังพบขบวนการคอลเซ็นเตอร์เคลื่อนย้ายฐาน
GH News March 22, 2025 11:10 AM

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (คกก.ปชด.) ว่า ที่ประชุมยังคงยืนยันมาตรการ “3 ตัด” คือ ตัดไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และน้ำมันที่ส่งไปยังประเทศเมียนมา เนื่องจากเห็นว่ายังมีความจำเป็นในการควบคุมและปราบปรามขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะคอลเซ็นเตอร์

นายภูมิธรรมกล่าวว่า แม้จะมีผู้ได้รับผลกระทบบางส่วน แต่ส่วนใหญ่คือกลุ่มผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย อีกทั้งยังตรวจพบว่าขบวนการคอลเซ็นเตอร์ได้มีการเคลื่อนย้ายฐานปฏิบัติการจากเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ไปยังประเทศกัมพูชาและเวียดนาม

“รัฐบาลยังคงยึดหลักไม่ผ่อนปรน และจะเดินหน้าปราบปรามขบวนการคอลเซ็นเตอร์อย่างเข้มงวด ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันไว้ว่า ‘ไม่จบ ไม่เลิก’” นายภูมิธรรมกล่าว

เขายังเปิดเผยด้วยว่า ได้มีการประสานกับรัฐบาลกัมพูชา โดยทำหนังสือถึงรัฐมนตรีกลาโหมและรัฐมนตรีมหาดไทยของกัมพูชา เพื่อให้การทำงานร่วมกันมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนประเทศลาว โดยเฉพาะกรณี “คิงส์โรมัน” ก็มีข้อมูลว่าเริ่มมีการย้ายฐานบ้างแล้ว ซึ่งรัฐบาลไทยจะเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง

สำหรับข้อเสนอการประกาศพื้นที่พิเศษใน 5 อำเภอของจังหวัดตาก นายภูมิธรรมระบุว่า ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยต้องพิจารณาให้รอบด้านทั้งในแง่ความมั่นคงและผลกระทบต่อเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยเฉพาะการค้าชายแดน

ขณะเดียวกัน ได้มีการตั้งคณะทำงานด้านกฎหมายขึ้นมาเพื่อดูแลปัญหานี้โดยเฉพาะ โดยมี พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้อำนวยการประสานงานกลาง

นายภูมิธรรมยังกล่าวถึงข้อเสนอในการควบคุมท่าข้ามชายแดน โดยเฉพาะบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ว่า จำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้กลุ่มอาชญากรอาศัยช่องทางเหล่านี้ลักลอบขนของผิดกฎหมาย หรือสร้างเมืองฐานปฏิบัติการของตนเอง

ในส่วนของข้อเสนอการสร้างกำแพงชายแดนบริเวณอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว นายภูมิธรรมกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียด เพราะมีทั้งเสียงสนับสนุนและคัดค้าน และยังอยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงข้อกังขาเกี่ยวกับกรณีที่มีรายชื่อลูกชายของรัฐมนตรีในรัฐบาลไทยถือหุ้นในบริษัทที่มีฐานอยู่ในเมียนมา อาจส่งผลต่อการตัดสินใจของรัฐบาลไทยหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า “หากมีชื่อจริงก็ให้นำมาให้ตรวจสอบ พร้อมยืนยันด้วยเกียรติยศว่า ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนแน่นอน รัฐบาลตั้งใจแก้ไขปัญหาตามข้อเท็จจริง ไม่ใช่ตามจินตนาการของใครบางคน”

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.