“เกาะช้าง” ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง เป็นเกาะขนาดใหญ่อันดับสองของประเทศ รองจากเกาะภูเก็ต และเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่จังหวัดตราด เปรียบ มีธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ ผสานระหว่างขุนเขา ป่าไม้ และท้องทะเลได้อย่างลงตัว ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับการเดินทางมาพักผ่อน
ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง มีหมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 40 เกาะตั้งอยู่รอบๆอาณาบริเวณพื้นที่ โดยเกาะช้างเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดและมีภูมิประเทศที่โดดเด่น มีภูเขาสูงตระหง่านปกคลุมทั่วทั้งเกาะ สร้างทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่และสวยงาม จุดสูงสุดของเกาะคือยอดเขาสลักเพชร ซึ่งมีความสูงถึง 743 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง นอกจากนี้ยังมีเขาสำคัญอื่นๆ เช่น เขาล้าน เขาจอมปราสาท เขาคลองมะยม และเขาสลักเพชร ที่โอบล้อมผืนป่าเขตร้อนอันอุดมสมบูรณ์
เสน่ห์ของเกาะช้างไม่ได้มีเพียงแค่ภูเขาและผืนป่า แต่ยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกใสเย็น อ่าวสงบเงียบ และชายหาดที่ทอดยาวขนานไปกับน้ำทะเลสีคราม หาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ หาดทรายขาวที่มีทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใส หาดคลองพร้าวที่เงียบสงบและเหมาะสำหรับการพักผ่อน หาดไก่แบ้ที่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม หาดบางเบ้าที่มีหมู่บ้านชาวประมงและเป็นจุดขึ้นเรือไปเกาะต่างๆ โลนลี่บีชที่เป็นสวรรค์ของนักเดินทางสายชิล อ่าวใบลาน อ่าวคลองสน หาดไข่มุก สลักเพชร บ้านเจ๊กแบ้ และด่านเก่า ซึ่งแต่ละแห่งล้วนมีเสน่ห์ที่แตกต่างกัน รอให้คุณมาสัมผัส
นอกจากตัวเกาะหลักแล้ว เกาะช้างยังมีเกาะบริวารอีกกว่า 52 เกาะที่เรียงรายอยู่กลางทะเลอันกว้างใหญ่ สร้างทัศนียภาพที่งดงามราวกับภาพวาด ไม่ว่าจะเป็นเกาะคลุ้ม เกาะเหลายา เกาะง่าม เกาะไม้ชี้ใหญ่ ซึ่งเป็นจุดดำน้ำและพักผ่อนที่เงียบสงบ เกาะหวาย เกาะกระ และเกาะรัง ซึ่งเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก เกาะมันนอก เกาะมันใน ที่เงียบสงบเหมาะแก่การหลีกหนีความวุ่นวาย หรือเกาะกระดาด เกาะหมาก และเกาะขาม ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติบริสุทธิ์ หาดทรายสวยงาม และน้ำทะเลใส
ความงดงามของเกาะช้างไม่ได้เป็นที่รู้จักเพียงแค่ในประเทศไทย แต่ยังได้รับการยอมรับในระดับสากล ล่าสุด “เกาะช้าง” ได้รับการจัดอันดับให้เป็นสถานที่พักผ่อนเขตร้อนชื้นที่ดีที่สุดอันดับ 2 ของโลก โดย Travel + Leisure นิตยสารด้านการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ชั้นนำ เมื่อช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเครื่องการันตีถึงเสน่ห์อันน่าหลงใหลที่ดึงดูดนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลกต้องมาเยือนสักครั้ง และเราก็ไม่พลาดโอกาสที่จะได้เดินมาที่เกาะช้าง ในทริปฟินแบบสไมล์ @ เกาะช้าง โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออกและเมืองไทยประกันชีวิต โดยเมืองไทยสไมล์คลับ รับลมชมวิวเกาะช้างอันสวยงาม ดำน้ำดูปะการัง และยลวิถีชาวบ้านริมฝั่ง
เมื่อมาถึง อ.แหลมงอบ จะมีท่าเรือเฟอร์รี่เพื่อโดยสารข้ามไปยังเกาะช้างใช้เวลาเพียง 20-30 นาที ที่เกาะแห่งนี้จะมีโซนให้เที่ยวคือ เกาะช้างเลี้ยวขวาและเกาะช้างเลี้ยวซ้าย หากได้มาครบทั้งสองฝั่งจะพบกับความรู้สึกที่แตกต่างต่างกัน เราจะพาไปเที่ยวยัง เกาะช้างเลี้ยวขวากันก่อน ซึ่งเป็นโซนที่รายล้อมไปด้วยชายหาดสวยๆ อย่าง หาดทรายขาว หาดไก่แบ้ หาดคลองพร้าว หาดบางเบ้า ร้านอาหาร คาเฟ่ และโรงแรม ทำให้โซนนี้มีความคึกคักทั้งกลางวัน-กลางคืน เรียกได้ว่าใครชื่นชอบแสงสีความสนุกสนาน โซนนี้ตอบโจทย์สุดๆ
ช่วงที่เรามาที่นี่มีสายฝนพร่ำระหว่างวัน ทำให้บรรยากาศที่ เลอ เจ้าจอม คาเฟ่ บิสโทร แอนด์ บาร์ ร้านคาเฟ่ริมทะเลตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น จุดหมายที่มาแวะจิบเครืองดื่มเย็นๆ มองไปทางด้านหลังยังเห็นภูเขาที่ปกคลุมด้วยหมอกบางๆ ดูงดงาม ตอนเย็นมุ่งหน้าสู่จุดชมวิวไก่แบ้ สูงสุดของเกาะ ชมพระอาทิตย์ยามเย็นลาลับขอบฟ้า มองออกไปยังท้องทะเลกว้างใหญ่จะเห็นเกาะเล็กๆ 4 เกาะ ได้แก่ เกาะมันใน เกาะมันนอก เกาะหยวกและ เกาะปลี ชมวิวความสวยงามได้แบบ 180 องศาเลยทีเดียว ที่ชายหาดไก่แบ้ ในช่วงสายๆ นักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมอาบน้ำให้ช้างในทะเลอย่างสนุกสนานได้ด้วยนะ
ในวันถัดมา กิจกรรมยอดฮิตที่ไม่ควรพลาดคือ การดำน้ำดูปะการัง ที่ เกาะคลุ้ม เกาะเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังเกาะช้าง ไม่ไกลจากอ่าวบางเบามากนัก ที่นี่เป็นสถานที่ยอดเยี่ยมสำหรับการดำน้ำตื้น ชมความงามใต้ท้องทะเล โดยเฉพาะ ปะการังที่สวยงาม และ ปลาหลากหลายชนิด อย่าง ปลาสลิดหินลายบั้ง ที่มักจะว่ายเข้ามาทักทายนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ไปกันต่อที่เกาะเหลายา ซึ่งมีหาดทรายขาว และน้ำทะเลใส ที่เหมาะแก่การว่ายน้ำเล่นรอบเกาะ และการพักผ่อนบนชายหาด
มาถึงจุดหมายสุดท้ายที่ เกาะหวาย เพลิดเพลินกับการดำน้ำตื้น ชมปะการังและปลาหลากหลายชนิด โดยเฉพาะ ปะการังเขากวาง และ ปะการังพุ่ม รวมถึง หอยเม่น ที่พบได้มากในบริเวณนี้ ทั้ง 3 เกาะไม่เพียงสะท้อนความงดงามของท้องทะเลอ่าวไทย แต่ยังเห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศของใต้ท้องทะเลด้วย
ก่อนกลับ เรามุ่งหน้าสู่เกาะช้างเลี้ยวซ้าย ซึ่งให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากฝั่งขวา เพราะที่นี่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันเงียบสงบ ล้อมรอบด้วยป่าชายเลนผืนใหญ่ที่สุดบนเกาะช้างกว่า 600 ไร่ และชุมชนชาวประมง ที่ยังคงวิถีชีวิตเรียบง่ายและเชื่อมโยงกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว ในหมู่บ้านสลักคอกของเกาะแห่งนี้มี ไฮไลท์การท่องเที่ยวไม่เหมือนใครในประเทศไทยคือ การล่องเรือมาด ซึ่งจะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงามและวิถีชีวิตท้องถิ่นที่แท้จริงอย่างใกล้ชิด
สำหรับ เรือมาด เป็นเรือที่มีมาแต่โบราณขุดจากไม้ซุงทั้งต้น ท้องเรือกลม หัวท้ายแบน ท้องกว้างกว่าเรือพายม้าเป็นพาหนะชาวเล ตามประวัติศาสตร์ได้สันนิษฐานกันว่า เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5 เสด็จประพาสมายังเกาะช้าง เข้ามายังบ้านสลักคอก ก็ได้ประทับเรือมาดเป็นราชพาหนะล่องเลียบลำน้ำชมทัศนียภาพอันสวยงามของอ่าวสลักคอกด้วย
ชาวบ้านใน หมู่บ้านสลักคอก ที่มีบ้านตั้งอยู่ริมฝั่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง หลังจากพักจากการออกเรือ จึงได้เกิดการพัฒนากิจกรรมท่องเที่ยวขึ้น โดยนำ เรือมาด ซึ่งเป็นเรือท้องถิ่น มาเป็นจุดขายในการพานักท่องเที่ยวล่องเรือชมความงามของป่าชายเลน เรือมาด ลำหนึ่งสามารถนั่งได้ 4 คน และจะล่องไปตามสายน้ำมุ่งออกสู่ เวิ้งอ่าวสลักคอก ที่จะทำให้เราได้ชมความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนที่เต็มไปด้วยต้นโกงกางหนาแน่น และบ้านเรือนริมฝั่งที่มีเรือเทียบท่าคอยเวลาออกไปทำประมง
นอกจากนี้ยังมี กิจกรรมพายเรือคายัคและซัพบอร์ด ที่นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือเองออกไปสำรวจธรรมชาติในเส้นทางระยะสั้นๆ ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์และต้นไม้เขียวขจี เติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แสนสงบและใกล้ชิดกับธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อล่องเรือมาดและพายเรือคายัค ที่ ชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก เกาะช้างใต้ โทร. 08-7748-9497