การส่งชาวอุยกูร์ที่ถูกคุมขังในไทยกว่า 10 ปี กลับไปสู่ประเทศต้นทางคือจีน เป็นการตัดสินใจของรัฐบาลที่โดนวิพากษ์วิจารณ์จากคนที่ยึดหลักสิทธิมนุษยชนสากลอย่างหนัก แต่อีกด้าน เสียงจากคนไทยทั่วไป ออกมาแนวเชียร์การตัดสินใจนี้อย่างกว้างขวาง

เชื่อว่าจะเป็นหนึ่งในประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งพรรคประชาชนจะหยิบขึ้นมาถล่มนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน

คงได้ฟังการอภิปราย และการชี้แจงตอบโต้ในสภา ว่าฝ่ายไหนมีน้ำหนักเหตุผลกว่ากัน!?

สำหรับรัฐบาลแล้ว การเดินทางไปดูชีวิตความเป็นอยู่ของ 40 ชาวอุยกูร์ที่ส่งกลับไปซินเจียง ราว 1 เดือนที่ผ่านมา

นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม

การไปพิสูจน์และมีภาพที่เห็นเขาอยู่กับครอบครัวอย่างปกติ ไม่มีการเอาไปขังเอาไปฆ่า ถือเป็นพยานหลักฐานที่ทำให้รัฐบาลยังไม่เพลี่ยงพล้ำ!!

ส่วนกรณีฝ่ายที่ไม่เชื่อ มีข้อสังเกตการจัดฉาก เป็นธรรมดาที่คนไม่เชื่อยังไงก็ไม่เชื่อ แต่ถ้าวันนี้ เขายังอยู่ดีมีสุข มันก็เป็นภาพหลักฐานที่เป็นรูปธรรมมีน้ำหนัก

อีกทั้งมองอีกด้าน รัฐบาลจีน พรรคคอมมิวนิสต์จีน เขาก็มีเทคนิคการทำงานมวลชน ดึงชาวอุยกูร์ส่วนใหญ่มาเป็นพวก โดดเดี่ยวขบวนการต่อสู้รุนแรง

เห็นได้จาก 10 ปีมานี้ มีการพัฒนาซินเจียงจนเจริญทางเศรษฐกิจ เป็นเมืองท่องเที่ยวโด่งดัง ที่คนไทยเราเองก็ไปเที่ยวกันมาก!

ทำให้ชาวอุยกูร์มีรายได้เพิ่มขึ้น มีฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้น คือ กุศโลบายในการลดการต่อต้านการต่อสู้อย่างได้ผล

ยิ่ง 40 คนที่ไทยเพิ่งส่งกลับไป เชื่อได้เลยว่า ถ้าจีนชาญฉลาดมีแต่จะดูแลอย่างดี เพื่อขยายเป็นภาพใหญ่ ตอบโต้ข้อโจมตีจากฝ่ายตะวันตก!?!

การเอาอุยกูร์ 40 คน ที่อ่อนล้าจากการถูกคุมขังในไทยกว่า 10 ปี ไปทำร้ายไปลงโทษ ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับจีน

เอามาดูแลประคบประหงมให้ดี เป็นเกมการเมืองที่เหนือชั้นกว่าแน่นอน

ขณะเดียวกัน การตัดสินใจของรัฐบาลไทยในเรื่องนี้ แม้ถูกต่อต้านจากนักสิทธิมนุษยชนสากล แต่ต้องยอมรับว่าประชาชนวงกว้างชื่นชม

ด้วยเหตุผลที่ว่า หากไทยยังคุมขังอยู่ นอกจากเป็นภาระ และคนส่วนใหญ่เชื่อว่า ไม่มีประเทศที่สาม อยากรับไปอย่างแท้จริง

เพราะมองกันว่า แนวนโยบายการต่างประเทศ การชูหลักสิทธิมนุษยชน เป็นเพียงภาพบังหน้า เบื้องหลังคือเกมการเมืองข้ามชาติ เพื่อใช้โจมตีอีกฝ่าย?!

การตกลงกับจีน เพื่อนำกลับไปแล้วได้ใช้ชีวิตปกติกับครอบครัว เป็นทางเลือกที่รัฐบาลตัดสินใจแล้วคนส่วนใหญ่ในวงกว้างเห็นด้วย

การวิจารณ์เรื่องนี้ด้วยหลักคิดนักสิทธิมนุษยชนสากล เป็นเรื่องถูกต้องในหลักการ แต่ในความเป็นจริงมีรายละเอียดที่ต้องให้ความสนใจในอีกด้าน

หลักสิทธิมนุษยชนสากลนั้นมีความสำคัญ แต่ทางเลือกที่เป็นประโยชน์ของไทยเรา และไม่ทำให้ชาวอุยกูร์กลับไปโดนขังโดนฆ่า ก็สำคัญเช่นกัน!

หลักสิทธิมนุษยชนสากล กับชั้นเชิงในนโยบายต่างประเทศของแต่ละชาติ ต้องมองให้ออก มองให้ละเอียด

การมองปัญหาส่งกลับอุยกูร์ ต้องไม่โน้มเอียงด้านใดด้านหนึ่งอย่างตายตัว!?!

วงค์ ตาวัน