ฟรองค์ ริเบรี ตำนานแข้งชาวเมืองน้ำหอม เปิดเผยประสบการณ์สะเทือนขวัญว่า ครั้งหนึ่งตัวเขาเคยเกือบโดนตัดขาอยู่รอมร่อ หลังโชคร้ายติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อคนในช่วงบั้นปลายอาชีพค้าแข้ง
ริเบรี โด่งดังเป็นพลุแตกสมัยลงเล่นอยู่กัย บาเยิร์น มิวนิค ระหว่างปี 2007 ถึง 2019 โดยคว้าแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี ได้ถึง 9 สมัย และแชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 1 สมัยในปี 2013 ก่อนจะตัดสินใจแขวนสตั๊ดในปี 2022 หลังลงเล่นให้ ซาแลร์นิตานา อยู่ 1 ปี
อย่างไรก็ตาม อดีตดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศส เผยว่า ในช่วงบั้นปลายอาชีพค้าแข้งนี่เองที่ตัวเขาเกือบจะเสียขาข้างหนึ่งไปหลังโดนเชื้อสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส หรือ แบคทีเรียกินเนื้อคนเล่นงาน
ริเบรี กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับ “อาส” สื่อดังของสเปน ว่า “ตอนนั้นเข่าของผมบวมขึ้นเรื่อยๆ ผมไม่ได้ซ้อมระหว่างแมตช์เลย แต่ต้องพักฟื้นฟูร่างกายเพื่อรักษาความสด ผมต้องหยุดพัก 2 วัน จากนั้นก็เพิ่มเป็น 3 หรือ 4 วัน ผมเสียจังหวะในการเซฟตัวเอง”
“ผลตรวจปรากฏออกมาว่า ผมไม่มีกระดูกอ่อนเหลืออยู่เลย ผมไปผ่าตัดที่ออสเตรีย การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี โดยมีการใส่แผ่นโลหะเอาไว้ด้านใน จากนั้นอีกเกือบ 5 เดือนให้หลัง ผมจึงติดเชื้่ออย่างรุนแรง ผมกินยาอยู่ 2 เดือน และมีการนำแผ่นโลหะออก”
“เชื้อที่ผมติดมันกัดกินผม มันรุนแรงมาก และทำให้ขาของผมมีรูเต็มไปหมด ผมติดเชื้อสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส ผมนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลที่ออสเตรีย 12 วัน ผมกลัวมากๆ พวกเขาเกือบตัดขาผมทิ้งไปแล้ว” ไกเซอร์ฟรองค์ กล่าว.
ภาพ AFP