จากเหตุนักศึกษาสองสถาบันยกพวก ทำร้ายกันภายในศูนย์การค้าย่านปทุมวัน เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวน 2 คน ถูกอาวุธมีดแทง และบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 3 คน ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวนักศึกษาของทั้งสองสถาบันได้ 4 คน ถูกแจ้งข้อหา ตาม มาตรา 372 ผู้ใดทะเลาะกันอย่างอื้ออึงในทางสาธารณะหรือสาธารณสถาน หรือกระทำโดยประการอื่นใดให้เสียความสงบเรียบร้อยในทางสาธารณะหรือสาธารณสถาน ปรับคนละ 500 บาทก่อนปล่อยตัวไปแล้วนั้น แต่ยังไม่ได้ควบคุมใครเข้ามาดำเนินคดีเพิ่มเติม
มีรายงานข่าวพบว่าเมื่อ (23 มีนาคม 2568) ช่วงเวลา 19:00 น ถึง 20:00 น. มีกลุ่มนักศึกษาของสถาบันหนึ่งได้รวมตัวกันกว่า 10 คน บริเวณสกายวอล์ค มุ่งหน้าไปยังสนามกีฬาแห่งชาติ ดูเหมือนจะพยายามไปก่อเหตุกับอีกหนึ่งสถาบัน ตำรวจเข้าระงับเหตุและตรวจค้นนักศึกษาพกอาวุธมีด 2 คน จึงส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
พลตำรวจโทสยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากผู้ได้รับบาดเจ็บและทางห้างสรรพสินค้าจะได้รับผลกระทบแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อด้านการท่องเที่ยวและความเชื่อมั่นต่อชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย จนมีชาวต่างชาตินำคลิปภาพไปโพสต์ลงสื่อสังคมออนไลน์ว่าเป็นพื้นที่อันตรายนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นหลายหน่วยงานต้องร่วมกันแก้ไขปัญหา เกี่ยวกับความขัดแย้งของทั้ง 2 สถาบัน โดยที่ผ่านมาทางกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ได้ร่วมกับคณะผู้บริหารทั้ง 2 สถาบัน ห้างสรรพสินค้า และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หารือถึงแนวทางป้องกันในพื้นที่มาโดยตลอด มีทั้งเชิงรุกในการเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายที่เป็นกลุ่มซ่องสุมอาวุธ และความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรม
ส่วนประเด็นที่ทั้งสองสถาบันจะมีการล้างแค้นกันเกิดขึ้นในอนาคตหรือไม่ พลตำรวจตรีสามารถ พรหมชาติ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 เปิดเผยว่า ตำรวจมีประวัติของกลุ่มนักศึกษาที่ก่อเหตุ ทั้งนักศึกษาปัจจุบันหรืออดีตนักศึกษาที่ถูกไล่ออก และแผนพฤติกรรมก่อเหตุไว้เกือบทั้งหมด ซึ่งรูปแบบการก่อเหตุไม่ต่างกันมาก ในส่วนนี้จะไปเข้มงวดและเฝ้าติดตามอดีตนักศึกษาที่ส่วนใหญ่จะเป็นคนยั่วยุ นักศึกษารุ่นน้องหรือนักศึกษาปัจจุบัน เพราะถ้าไม่มีการยั่วยุก็คงจะไม่มีการล้างแค้นเกิดขึ้น
ปัจจุบันได้สั่งให้ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน หามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีกในพื้นที่
ส่วนมาตรการป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ ตำรวจจะเข้าไปพูดคุยกับคณะผู้บริหารของทั้งสองสถาบัน รวมถึงภาคเอกชน เพื่อวางแนวทางไม่ให้นักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันในพื้นที่