AirAsia MOVE เผยการจองเที่ยวบินและที่พักช่วงสงกรานต์ปี 2568 ประเทศไทยไทยยังคงเป็นสถานที่ยอดฮิตที่คนไทยเดินทาง พร้อมเผยพฤติกรรมนักท่องเที่ยวแบบ Solo Traveler แบบกลุ่ม และแบบครอบครัว
AirAsia MOVE เปิดผลสำรวจการจองเที่ยวบินและที่พักช่วงสงกรานต์ปี 2568 พบว่า “ประเทศไทย” ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ของคนไทย โดยกรุงเทพฯ มียอดจองที่พักสูงสุดถึง 35% นักท่องเที่ยวมีค่าเฉลี่ยที่พักต่อการจองอยู่ที่ 3,800 บาท, เชียงใหม่ 10% ค่าเฉลี่ยที่พัก 4,500 บาท, ภูเก็ต 6 % ค่าเฉลี่ยที่พักราวๆ 6,600 บาท ตามมาด้วยชลบุรี 5% ค่าเฉลี่ยที่พักราคา 2,900 บาท นอกจากนั้นคนไทยบางส่วนยังนิยมเลือกเที่ยวเมืองรอง ได้แก่ อุดรธานี เชียงราย ขอนแก่น และนครปฐม โดยมีค่าเฉลี่ยที่พักอยู่ที่ราวๆ 1,800 บาทต่อ 1 การจอง เพื่อหลีกเลี่ยงความแออัดและความวุ่นวาย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมในการท่องเที่ยวภายในประเทศช่วงวันหยุดยาว
สำหรับจุดหมายปลายทางต่างประเทศยอดนิยม คนไทยนิยมเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นสูงสุด เนื่องจากเดือนเมษายนเป็นช่วงเวลาดอกซากุระบาน ดึงดูดนักท่องเที่ยวไทยให้ไปเยือนเมืองยอดฮิตอย่างโตเกียว ฟุกุโอกะ และโอซาก้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยค่าโรงแรมอยู่ที่ 6,100 บาทต่อ 1 การจอง โดยประเภทนักท่องเที่ยวไทยที่ไปญี่ปุ่นสูงสุดคือนักท่องเที่ยวแบบคู่รัก
ขณะเดียวกันมาเลเซียและเวียดนามเป็นประเทศยอดนิยมอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ ที่คนไทยนิยมจองไปเที่ยวช่วงหยุดสงกรานต์ด้วย เนื่องจากมีความคุ้มค่าด้านราคา บวกกับสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย โดย 3 เมืองยอดนิยมในมาเลเซีย ได้แก่ กัวลาลัมเปอร์ โคตา คีนาบาลู และคูชิง และ 3 เมืองยอดนิยมในเวียตนาม ได้แก่ โฮจิมินห์ ดานัง และเกาะฟูก๊วก ทำให้เวียดนามยังคงเป็นที่นิยม และมียอดจองห้องพักเติบโตกว่า 30% ในปี 2568 นี้
นักท่องเที่ยวแบบคู่รัก Couple Traveler เป็นกลุ่มใหญ่สุด มีจำนวนมากถึง 77% โดย 3 จุดหมายปลายทางยอดนิยม 3 อันดับแรกได้แก่ กัวลาลัมเปอร์ โตเกียว และปีนัง โดยที่ปีนี้ ปีนัง มีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปเพิ่มขึ้นถึง 80 % จากยอดจองทั้งหมดแบบคู่รัก
นักท่องเที่ยวคนเดียว (Solo Traveler) มีจำนวน 10% โดย 3 จุดหมายปลายทางยอดนิยมในช่วงหยุดยาวสงกรานต์ ได้แก่ กัวลาลัมเปอร์ โตเกียว และโคตา คีนาบาลู ชอบที่พักราคาประหยัดราคาเฉลี่ยต่อ 1 การจองอยู่ที่ 2,400 บาท ต่อ 1 การจอง มุ่งเน้นการผจญภัย และพักผ่อน อาทิ ปีนเขา ดำน้ำ หรือทัวร์ธรรมชาติ และเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะเป็นหลัก
นักท่องเที่ยวแบบกลุ่มที่เดินทาง 3 คนขึ้นไป (Group Traveler) มีจำนวน 8% โดย 3 จุดหมายปลายทางยอดนิยม ได้แก่ ดานัง กัวลาลัมเปอร์ ไทเป ซึ่งสงกรานต์นี้มีนักท่องเที่ยวแบบกลุ่ม 3 คนขึ้นไป เดินทางไปไทเปเพิ่มมากขึ้นถึง 33 % โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มักเน้นความสนุกสนานและการทำกิจกรรมร่วมกัน โดย 90 % เลือกที่พักวิลล่าหรูหรือรีสอร์ทขนาดใหญ่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ สำหรับนักท่องเที่ยวแบบครอบครัว (Family Traveler) ที่มีการจองห้องพักสำหรับเด็กเล็ก มีจำนวน 5% มักมองหากิจกรรมที่เหมาะสำหรับทุกคน โดย 57 % นิยมพักโรงแรมหรือรีสอร์ทที่มีห้องพักขนาดใหญ่รวมถึงเลือกที่พักที่มีกิจกรรมสำหรับเด็ก
AirAsia MOVE ชี้ว่านักท่องเที่ยวมีพฤติกรรมจองตั๋วเครื่องบินและที่พักล่วงหน้า 1-3 เดือน ถึง 60 % โดยให้ความสำคัญกับความคุ้มค่ามากขึ้น อย่างไรก็ตามบางกลุ่ม อาทิ Millennials ยังคงนิยมจองนาทีสุดท้าย อยู่ที่ 13% และในผู้ใช้ AirAsia MOVE ผู้ที่เลือกจองแพ็กเกจที่รวมตั๋วเครื่องบินและโรงแรม มีสูงถึง 45% ซึ่งสูงกว่า 30% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านราคาและความคุ้มค่ามากขึ้น และผู้ใช้งาน AirAsia MOVE ใช้สมาร์ตโฟนในการจองที่พักและตั๋วเครื่องบินมากขึ้น เนื่องจากความสะดวกและสามารถเข้าถึงโปรโมชั่นพิเศษที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับผู้ใช้ได้ง่าย จากยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นที่เพิ่มขึ้นกว่า 20 %
ในส่วนของด้านพฤติกรรมการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวของคนไทย พบว่าส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวไทยมีค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวลดลง 10 % โดยเฉพาะค่าที่พัก โดยนักท่องเที่ยวหันไปให้ความสำคัญกับการจองที่ให้ราคาคุ้มค่ามากขึ้น อาทิ จองช่วงโปรโมชั่น Flash Sales หรือ Buy Now, Pay Later ซึ่งมีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจจองที่พักและตั๋วเครื่องบิน
พฤติกรรมการเข้าพักในช่วงหยุดยาวสงกรานต์ นักท่องเที่ยวจะให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายและรู้สึกคุ้มค่าเป็นพิเศษ โดยนักเดินทางมักเข้าพักก่อนหรือหลังวันหยุดยาว 1–3 วัน เพื่อหลีกเลี่ยงที่พักเต็ม และหลีกเลี่ยงความแออัด อาทิ สนามบิน รถติดบนท้องถนน