รองนายกฯ ประเสริฐ มอบ สสส. ทำงานคู่ขนานรัฐ สื่อสารอันตรายบุหรี่ไฟฟ้า
ข่าวสด March 25, 2025 11:40 AM

รองนายกฯ ประเสริฐ มอบ สสส. ทำงานคู่ขนานรัฐ สื่อสารอันตรายบุหรี่ไฟฟ้า เตือนเสี่ยงป่วยซึมเศร้ากล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด สูงกว่าคนปกติ 2 เท่า และแจ้งเบาะแสแหล่งขาย ขณะที่ สสส. ขอบคุณนายกฯ และรัฐบาล ให้ความสำคัญปราบต้นตอบุหรี่ไฟฟ้า เสนอท่าอากาศยานออกประกาศห้ามนำเข้าขึ้นเครื่อง

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ประธานการประชุมกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ครั้งที่ 3/2568

เผยมติที่ประชุมเห็นชอบโครงการสร้างเสริมสมรรถนะและขยายเครือข่ายเพื่อพัฒนางานควบคุมการบริโภคยาสูบทุกระดับ เป็นการป้องกันแก้ไขปัญหาบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าที่ระบาดหนักในกลุ่มเด็กและเยาวชนทุกพื้นที่ควบคู่ไปกับการทำงานของรัฐบาลอย่างเร่งด่วน ให้ สสส.ประสานขอความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ในการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าเป็นวงกว้าง และขอความร่วมมือจากภาคประชาชนในพื้นที่ร่วมสอดส่อง เฝ้าระวัง แจ้งเบาะแสผู้ขายอย่างจริงจัง

ขอให้ สสส. สื่อสารสร้างความเข้าใจถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการซื้อขายบุหรี่ไฟฟ้าในช่องทางออนไลน์สามารถทำได้ง่าย แม้มีตัวเลขการจับกุมจากภาครัฐในระหว่างนี้สูง แต่จะลดความเข้มข้นลงไม่ได้ เพราะผลกระทบต่อสุขภาพจากบุหรี่ไฟฟ้ารุนแรง และเกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจสูง

อีกทั้งการสูบบุหรี่ไฟฟ้าส่งผลกระทบต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดทั้งในระยะสั้นและระยะยาว มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่มากถึง 2.66 เท่า ปัจจุบันยังพบสารเคมีในบุหรี่ไฟฟ้าอีกหลายชนิด เช่น โลหะหนัก หรือสารเสพติดที่ผู้ขายปะปนเข้ามาในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า นำไปสู่การทำงานของเซลล์ที่ผิดปกติ เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจง่าย ส่งผลให้ปอดบาดเจ็บรุนแรง และเสี่ยงป่วยมะเร็งปอดมากขึ้น รวมทั้งโอกาสป่วยซึมเศร้ามากกว่าคนปกติถึง 2.39 เท่า และยังเกิดปัญหาสุขภาพจิตในตัวเองรุนแรง

นายประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบแผนงานพัฒนาความร่วมมือภาคประชาสังคมเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงแอลกอฮอล์แบบมีส่วนร่วม โดยมีเป้าหมายดำเนินการครอบคลุมทั้งประเทศ ซึ่งจะให้เครือข่ายโรงเรียนร่วมรณรงค์และครูดีไม่มีอบายมุขกว่า 5,000 แห่ง เกิดประชาคมงดเหล้าทั่วประเทศ

งานเทศกาลประเพณีปลอดเหล้า และกระแสสังคมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป สำหรับในประเด็นที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติผ่านร่าง พ...ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับใหม่ ผ่อนปรนให้สามารถโฆษณาประชาสัมพันธ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ก็จริง แต่รัฐบาลจะคงเข้มงวดและควบคุมการเข้าถึงแอลกอฮอล์ของเด็กและเยาวชน

รวมถึงประชาชนบางกลุ่มไว้ และผ่อนปรนพื้นที่ขายแอลกอฮอล์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น รวมทั้งสร้างรายได้ให้กับประเทศ ใน 5 พื้นที่ เช่น สนามบิน โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว รวมทั้งมอบหมายให้ สสส.ดำเนินการติดตาม วิเคราะห์ผลจากการดำเนินการจาการปรับนโยบายการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้คณะกรรมการฯ ทราบทุกไตรมาส

..พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า การขับเคลื่อนการป้องกันแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า ต้องบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐอย่างเข้มข้น ซึ่งจากนำเสนอรายงานของกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย สมาชิกรัฐสภาเสียงส่วนใหญ่มีความเห็นให้บุหรี่ไฟฟ้าควรมีการควบคุมอย่างเข้มงวด

และสสส. ขอขอบคุณ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า ปราบปรามและกวาดล้างต้นตอบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ซึ่ง สสส. สานพลังภาคีเครือข่ายในการปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า บูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ด้วยการนำส่งข้อมูลเฝ้าระวังร้านค้าจำหน่ายเพื่อใช้ในการปราบปราม ทำให้ในปี 2567 สามารถยึดของกลางมูลค่ากว่า 320 ล้านบาท

การขอความร่วมมือในมาตรการควบคุมพื้นที่ท่าอากาศยานให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ออกประกาศเกี่ยวกับการห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าทุกประเภท รวมถึงอุปกรณ์และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในพื้นที่ท่าอากาศยาน ห้ามนำขึ้นเครื่องทุกกรณี และห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักรไทย และแจ้งให้สายการบินทั้งในประเทศ ต่างประเทศ ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

ในส่วนของการบำบัดผู้เสพที่เปิดให้คำปรึกษาสายด่วนเลิกบุหรี่ 1600 ส่งผลให้เกิดระบบการรับส่งและติดตามการช่วยเลิกบุหรี่อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการรับสายตั้งแต่เดือนต.. 2566-.. 2568 มีหน่วยบริการที่เข้าร่วมให้คำปรึกษาด้านเลิกบุหรี่ทั้งสิ้น 1,428 แห่ง มีผู้เข้ารับบริการทั้งหมด 5,531,662 ราย สามารถเลิกบุหรี่ได้สำเร็จอย่างต่อเนื่อง 6 เดือน จำนวน 15,924 ราย​

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.