‘สมศักดิ์’ ชง ครม.ใช้ระบบสแกนม่านตาขึ้นทะเบียนต่างด้าว เป็นฐานข้อมูลจัดทรัพยากร
วันนี้ (25 มีนาคม 2568) น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงการดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ว่า จากการตรวจสอบข้อมูลกับ นพ.รเมศ ว่องวิไลรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล (รพ.) แม่สอด
พบว่า มีประชากรไทยใน อ.แม่สอด จำนวน 117,254 คน ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จำนวน 80,162 คน มีประชากรต่างด้าว จำนวน 204,676 คน มีแพทย์ทั้งหมด 167 คน แบ่งเป็น รพ.แม่สอด 82 คน แพทย์เอกชนและคลินิก 85 คน คิดเป็นอัตราส่วนแพทย์ต่อประชากรไทยและต่างด้าวที่ 1 ต่อ 1,927 คน ซึ่งในส่วนของคนไทยสิทธิ ท.99 และแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย ปัจจุบันมีสิทธิเข้ารับการรักษาพยาบาล และเบิกชดเชยจากกองทุนที่รับผิดชอบได้ครบถ้วนแล้ว
“ส่วนภาพรวมของ จ.ตาก อัตราส่วนแพทย์ต่อประชากรไทย คือ 1 ต่อ 1,528 คน หากรวมประมาณการประชากรต่างด้าวด้วยจะเป็น 1 ต่อ 2,579 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 24 มีนาคม 2568) ขณะนี้กำลังเร่งรัดขึ้นทะเบียนประชากรต่างด้าวผ่านการเก็บอัตลักษณ์ยืนยันตัวบุคคลด้วยการสแกนม่านตา (Thai Red Cross Biometric Authentication System: TRCBAS) เพื่อให้เข้าสู่ระบบประกันสุขภาพและมีสิทธิการรักษาอย่างถูกต้อง” น.ส.ตรีชฎา กล่าว
ด้าน นพ.สุภโชค เวชภัณฑ์เภสัช ผู้ตรวจราชการ สธ. เขตสุขภาพที่ 2 กล่าวว่า ข้อมูลประชากรต่างด้าวที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน อาจมีจำนวนคลาดเคลื่อนได้ เนื่องจากมีการเคลื่อนย้ายตลอด สธ.จึงนำระบบขึ้นทะเบียนผ่านการเก็บอัตลักษณ์ยืนยันตัวบุคคลด้วยการสแกนม่านตา ซึ่งพัฒนาโดยสภากาชาดไทย ร่วมกับกรมควบคุมโรค ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ เนคเทค (NECTEC) ที่มีความแม่นยำสูงมาใช้เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลในการให้บริการได้ถูกคน ถูกต้อง และติดตามควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เบื้องต้นมีการยืนยันตัวตนประชากรต่างด้าวใน จ.ตาก ผ่านระบบ TRCBAS แล้ว 7,616 คน
“ล่าสุด รัฐมนตรีว่าการ สธ. ได้เสนอเรื่องการขึ้นทะเบียนผ่านระบบ TRCBAS เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ขึ้นทะเบียนในระบบเป็นบุคคลที่มีสิทธิเข้ารับการรักษาพยาบาลได้อย่างถูกต้อง โดย สธ.จะเร่งดำเนินการขึ้นทะเบียน เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการจัดสรรทรัพยากรและวางแผนการดูแลด้านสาธารณสุขอย่างเหมาะสม อาทิ จัดสรรโควตานักศึกษาแพทย์ พยาบาล สำหรับคนในพื้นที่ รวมถึงการศึกษาแพทย์ต่อยอดสาขาอื่นๆ ที่จำเป็นมารองรับต่อไป” นพ.สุภโชค กล่าว
