ชาวบ้านโวย ไม่พอใจหนุ่มม.6 จัดงานศพแม่ตายทิพย์ ครู-เพื่อนนักเรียนแห่ร่วมงานแสดงความเสียใจ มอบเงินช่วยเหลือ ผู้ใหญ่ไม่รู้เรื่องบ้านพาชาวบ้านบุกเปิดโลงดูศพถึงช็อก

วันที่ 25 มี.ค.2568 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี แจ้งว่ามีหนุ่มวัย 18 ปีจัดพิธีงานศพให้แม่ของตัวเอง โดยบอกว่าเสียชีวิตที่กรุงเทพฯ มีการนำโลงศพมาตั้งที่บ้านมีแขกเป็นคุณครูและเพื่อนนักเรียนมาร่วมงานศพแสดงความเสียใจ แต่ที่แปลกใจคือชาวบ้านไม่มีใครรู้เรื่องเลยว่ามีคนตายในหมู่บ้าน แต่ปรากฎว่าเมื่อเปิดโลงศพดูแล้วกลายเป็นต้นกล้วยตัดเป็นท่อนไม่มีศพแม่แต่อย่างใดทำให้ชาวบ้านต่างไม่พอใจ

โดยเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวไปสอบถาม นายศรีสวัสดิ์ โพธิวัฒน์ ผู้ใหญ่บ้านเปิดเผยเรื่องที่เกิดขึ้นว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมาตนได้รับโทรศัพท์จากคุณครูท่านหนึ่งที่โรงเรียนโทรมาสอบถามว่า ในหมู่บ้านมีงานศพไหม มีลูกศิษย์เรียนอยู่ชั้นม.6 แจ้งว่าแม่เขาเสียชีวิตที่กรุงเทพฯ นำศพมาทำพิธีจัดงานศพที่บ้าน ทางครูเลยโทรมาสอบถามว่าผู้ใหญ่บ้านรู้เรื่องไหม ผมก็แปลกใจเพราะไม่มีใครแจ้งผมเลย ครูบอกอีกว่าทางคณะครูและนักเรียนได้รวบรวมเงินไปให้ที่งานศพก็เห็นโลงศพอยู่บนบ้าน

ผมในฐานะผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านเลยพากันไปพิสูจน์ว่ามีงานศพจริงไหม พอไปถึงก็พบน้อง กับตาและยายใส่ชุดดำอยู่หน้าโลงศพ ก็ถามว่ามีใครตายหรือ น้องบอกว่าไม่มีใครตายหรือเสียชีวิตอ้างว่าจับสลากแก้มส.ได้เรื่องประเพณีอีสานจึงทำเรื่องงานศพส่งครู และต้องการถ่ายคอนเทนต์ส่งครูด้วย แต่พอเราโทรไปสอบถามครู ครูบอกว่าไม่ได้สั่งให้ทำหรือแก้มส.แต่อย่างใด แล้วก็โยนความผิดให้เพื่อนว่า เพื่อนถ่ายรูปงานศพไปให้ครู ผมก็ถามอีกว่า สรุปแล้วมีโลงศพไหม

“น้องบอกว่ามีอยู่ข้างบนบ้าน ผมเอะใจทำไมจัดงานศพไม่เอาไว้ข้างล่างทำไมเอาไว้บนบ้าน เขาบอกอีกว่ากลัวคนเห็น ผมบุกขึ้นไปพิสูจน์บนบ้านเห็นโลงศพสีขาวจริงๆ มีผ้าขาวม้าพาดโลงศพ มีกระถางธูป เทียน ไฟประดับโลงศพ เหมือนโลงศพคนตายจริงๆ ถามยายว่าขอเปิดโลงศพได้ไหม ยายบอกว่าเปิดได้ไม่มีระเบิดหรอก พอเปิดออกดูแทบช็อกเพราะในโลงศพเป็นต้นกล้วยตัดเป็นท่อนๆห่อด้วยผ้าขาว ถามน้องย้ำๆว่าทำไมทำแบบนี้ เขาบอกว่าเห็นแม่ดวงไม่ดีก็เลยจัดงานศพแก้เคล็ดให้แม่ และต้องการหาเงินไปเรียนต่อหลังจากจบม.6 ผมเห็นใจน้องเขานะ หากต้องการเงินไปเรียนต่อ”

ผู้ใหญ่ บอกด้วยว่า ต่อมาช่วงตี 1 วันอาทิตย์น้องและยายเอาโลงศพไปเผาที่ทุ่งนา แต่มีการนำภาพไปโพสต์และต่อว่าชาวบ้านไม่สนใจครอบครัวเขา บอกว่า “เราตั้งศพไว้บนบ้าน จัดงานศพไว้บนบ้าน ไม่มีการเลี้ยงอาหาร มันผิดมากเลยหรอ ผมก็เป็นเด็กคนหนึ่งที่สุญเสียแม่ และไม่มีทุนทรัพย์มากพอที่จะจัดงานศพแม่ ผมก็ทำแบบนี้ที่ผมไม่เสียเงินมาก เพราะว่าเงินต้องเอาไปใช้มหาวิทยาลัยเหมือนกัน พวกคุณบอกต้องเผาคืนนี้ไม่งั้นชาวบ้านจะเดือดร้อน”

” พอเห็นข้อความที่น้องเขาโพสต์ ชาวบ้านรู้สึกไม่สบายใจเรียกตาและยายมาคุยกันและให้เอาโลงไปเผาคืนวันอาทิตย์เลย ไม่อยากให้เกิดเรื่องนี้อีก จริงๆแล้วอยากคุยกับน้องแต่ทราบว่าเขาตอนนี้หนีไปบวชแล้ว ผมและชาวบ้านมองว่า ตาและยาย และตัวน้องทำไม่ถูกต้องผิดประเพณีหมู่บ้าน ไม่มีคนตายมาทำแบบนี้ได้อย่างไร ขณะที่ชาวบ้านหลายคนบอกว่า เรื่องนี้น้องทำไม่เหมาะไม่มีคนตายจะทำงานศพเหมือนมีคนตายได้อย่างไร ชาวบ้านรับไม่ได้ เด็กแค่ 18 ปีมาทำแบบนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง เห็นว่าเด็กชอบเรื่องไสยศาสตร์และชอบทำตัวเป็นร่างทรงด้วย ”

ด้านผู้เป็นยา บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นจัดงานศพจริง แต่เป็นการอุปโลกขึ้นมา เพราะยายและหลานชายไปทำบุญแล้วหมอทักบอกว่า แม่ของน้องมีเคราะห์ต้องจัดงานศพให้ แต่ไม่มีใครตายจริงๆ เรื่องที่เกิดขึ้นอยากจะขอโทษชาวบ้านที่ทำให้ไม่สบายใจ แต่ที่เราทำไปเพื่อแก้เคล็ดให้กับแม่น้องเท่านั้น