ค่ายรถยนต์เปิดศึกถล่มงาน “มอเตอร์โชว์ 2025” หวังตุนยอดขายช่วงต้นปี หลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ สินเชื่อเข้ม ทำตลาดปีก่อนชะลอตัว ค่ายญี่ปุ่น จีน เกาหลี อัดแคมเปญเดือด ทั้งแจกส่วนลดสูงสุดถึง 3 แสนบาท หรือผ่อนน้อย ส่วนเจ้าเก่า “บีวายดี” ยังดุไม่เปลี่ยน หั่นราคารถ EV ทุกรุ่น โดยเฉพาะเก๋งเล็ก “ดอลฟิน” ขายเริ่มต้น 4.99 แสนบาท ขณะที่โตโยต้า-อีซูซุ ตีปีกเชื่อมั่นโครงการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” ดันยอดปิกอัพ ขณะที่ ส.อ.ท.เผยตัวเลขผลิตรถยนต์ ก.พ.ยังหดตัวต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานบรรยากาศในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2025 หรืองานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 (Motor Show 2025) จัดระหว่างวันที่ 26 มีนาคม-6 เมษายน 2568 อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี เต็มไปด้วยความคึกคักจากบรรดาค่ายรถที่ขนเอารถยนต์ จักรยานยนต์ และอุปกรณ์ประดับยนต์ มาจัดแสดง เต็มพื้นที่ 80,000 ตารางเมตร
ปีนี้มีบริษัทยานยนต์ถึง 54 บริษัท ตอบรับเข้าร่วม แบ่งเป็น รถยนต์ 41 บริษัท และจักรยานยนต์ 13 บริษัท ในพื้นที่ 80,000 ตารางเมตร เพื่อช่วงชิงพื้นที่การขาย และกอบโกยยอดตั้งแต่ไตรมาสแรก
หลังจากตลาดรถยนต์ในช่วงที่ผ่านมาต้องเผชิญกับภาวะยอดขายหดตัวต่อเนื่องมาตั้งเเต่ช่วงปี 2567 ซึ่งเป็นผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว ปัญหาหนี้ครัวเรือน ทำให้สถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะตลาดรถปิกอัพที่มียอดขายลดลงเป็นประวัติการณ์
ส่วนรถยนต์ในกลุ่มไฟฟ้า 100% หรือรถอีวี ซึ่งมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง โดยเฉพาะการนำแคมเปญสงครามราคามาใช้ ขณะที่ตลาดไม่ได้มีการเติบโต
ทำให้เวทีของการจัดงานมอเตอร์โชว์ ปีนี้เต็มไปด้วยการแข่งขันที่รุนแรง ทั้งในส่วนของค่ายรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น จีน เกาหลี รวมทั้งรถจากยุโรป ที่ผู้ประกอบการต่างต้องการตุนยอดขายไว้ตั้งแต่ต้นปี
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์โตโยต้า (Toyota) เปิดเผยว่า หลังจากภาครัฐเตรียมออกนโยบายสนับสนุนการซื้อรถปิกอัพให้กับกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี ซึ่งมีกระทรวงการคลัง โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ใช้มาตรการค้ำประกันสินเชื่อ ผ่านโครงการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” ของรัฐบาลครั้งนี้ ช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์ให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
คาดว่าจะทำให้ยอดขายรถยนต์โดยรวมของปีนี้โตเล็กน้อย กลับไปอยู่ที่ 600,000 คัน จากยอดขาย 2 เดือนที่ผ่านมาจะหดตัวลง 10% ขณะที่โตโยต้าตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ไว้ที่ 230,000 คัน หรือมีส่วนแบ่งทางการตลาด 38.5% ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
“เราเชื่อว่าตลาดรถยนต์จากนี้ไปจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น หลังผ่านจุดต่ำสุดแล้วตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปีที่ผ่านมาไปแล้ว”
นายทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ที่กล่าวถึงมาตรการกระบะพี่ มีคลังค้ำ ของ บสย.ว่า อีซูซุชื่นชมต่อแนวคิดของรัฐบาล เป็นเรื่องที่ดี และอีซูซุคิดว่ามาตรการดังกล่าวเป็นประโยชน์กับลูกค้ามาก และหวังว่าจะมีข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้
“คาดว่าจะเป็นรายละเอียดที่ดีพอสมควรสำหรับการกระตุ้นตลาดรถปิกอัพ ส่วนอัตราการค้ำประกันจาก บสย. อีซูซุไม่สามารถให้ความคิดเห็นได้ ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอื่น ๆ อีก และยังรอรายละเอียดก่อน”
ส่วนภาพรวมของตลาดรถปิกอัพในปีนี้ คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีก่อน มียอดจำหน่ายรวมทั้งตลาด 163,000 คัน ส่วนอีซูซุจะมียอดขาย ดีแมคซ์ และมิว-เอ็กซ์ ที่ 76,000 คัน ส่วนรถบรรทุกขนาดกลาง-ใหญ่ อยู่ที่ 11,000 คัน ส่วนยอดขายรถยนต์โดยรวมน่าจะอยู่ที่ 570,000 คัน ขึ้นอยู่กับมาตรการความผ่อนคลายของสถาบันการเงิน
ค่ายโตโยต้าขนขบวนรถยนต์ไฮบริด มาจัดแคมเปญสู้กับทัพรถจีน เริ่มที่รถโตโยต้า คัมรี ดอกเบี้ย 1.59% หรือฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD, โคโรลลา อัลติส ดอกเบี้ย 1.65% และฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD
ยาริส ครอส ดอกเบี้ย 1.69% หรือผ่อนเริ่มต้นเพียง 7,748 บาทต่อเดือน, โคโรลลา ครอส รับ 0.89% และฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD, ไฮลักซ์ รีโว่ และฟอร์จูนเนอร์ รับข้อเสนอ : ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ หรือฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD
อีซูซุจัดโปรพิเศษเพื่อคุณ ข้อเสนอเดียวกับมอเตอร์โชว์ ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.99%
มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส ดอกเบี้ย 0.99%, รับฟรี บัตรของขวัญเซ็นทารา มูลค่า 10,000 บาท, ไทรทัน แอทลีท เลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี, ประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 100,000 กม. พร้อมฟรี ค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี, ครอบครัวมิตซูบิชิ รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 30,000 บาท ผ่าน M-Drive
ฮอนด้า จัดดับเบิลสไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ สำหรับฮอนด้า ซิตี้ ค่างวดเริ่มต้น 8,108 บาท (คำนวณจากรถยนต์ซิตี้ แฮตช์แบ็ก ไดรฟ์วัล ใหม่ เงื่อนไขดาวน์ 20% ผ่อน 7 ปี) หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง หรือดอกเบี้ย 2.2%* สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์
ฮอนด้า และครอบครัว (Honda Loyalty) และดอกเบี้ย 2.35%* สำหรับลูกค้าทั่วไปพร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี
ไม่จำกัดระยะทาง*
และข้อเสนอพิเศษ รถเก่าแลกซื้อรถใหม่ (Honda Happy Trade-in) รับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท หรือเมื่อนำรถยนต์คันเดิม ยี่ห้อใดก็ได้ มาขายและออกรถ ฮอนด้า ซิตี้ แฮตช์แบ็ก ไดรฟ์วัล ใหม่ รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท
ค่ายซูซูกิ จัด SUZUKI WORRY FREE PROGRAM พร้อมโปรโมชั่นผ่อนยาวสูงสุด 99 เดือน หรือผ่อนเริ่มต้นเพียง 2,999 บาท
กลุ่มธุรกิจเรเว่ บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด จัดแคมเปญส่วนลดสูงสุด 100,000-150,000 บาท รถบีวายดี ดอลฟิน รุ่น Standard Range เหลือ 499,000 บาท, รุ่น Extended Range เหลือ 599,000 บาท และรับสิทธิซื้อโฮมชาร์จเจอร์ยี่ห้อ ZHIDA พร้อมบริการติดตั้งราคาพิเศษ 15,000 บาท
ATTO 3 รุ่น Premium เหลือ 699,900 บาท, รุ่น Extended เหลือ 799,900 บาท, BYD SEALION 6 DM-i รุ่น Dynamic เหลือ 899,900 บาท, รุ่น Premium เหลือ 999,900 บาท และ BYD SEALION 7 รุ่น Premium ลดเหลือ 1,149,900 บาท รุ่น AW Performance ลดเหลือ 1,246,900 บาท
ค่ายดีพอล (Deepal) ดาวน์ต่ำ 99,000 สำหรับรุ่น S07 ดอก 3.89% ผ่อน 48 เดือน 0% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 60 เดือน ประกันภัยชั้นหนึ่ง พ.ร.บ.นานสองปี รับเงินคืนสูงสุด 34,000 บาท และช่วยผ่อน 4 เดือน เดือนละ 25,000 บาท ได้ดีพอล พรีเมี่ยมแคร์ มูลค่า 250,000 บาท
E07 ดีพอล พรีเมี่ยมแคร์ มูลค่า 250,000 บาท รับประกัน 10 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร สำหรับระบบช่วงล่างแบบถุงลม และระบบปรับความหนืดช่วงล่างอัจฉริยะ
ส่วนรถยนต์รุ่นใหม่ Deepal S05 เปิดราคาเริ่มต้น 799,000 บาท
ค่าย OMODA & JAECOO (โอโมด้า แอนด์ เจคู่) ประกาศราคา JAECOO 7 SHS ประกาศราคาคาดการณ์ 899,000-999,000 บาท รับฟรีค่าบำรุงรักษาเป็นระยะเวลา 2 ปี, “Eco Bonus” Campaign เงินสนับสนุน 10,000 บาท เมื่อนำเล่มจดทะเบียนรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป หรือ HEV มาแสดง, ประกันครอบคลุมระยะเวลา 8 ปี หรือระยะทาง 200,000 กิโลเมตร และประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
ส่วน OMODA C5 EV รับส่วนลด 200,000 บาท ฟรีโฮมชาร์จเจอร์ ประกันภัยชั้นหนึ่ง
ค่ายกระบะไฟฟ้า GEELY RIDDARA ให้ดอกเบี้ย 0.59% หรือเลือกผ่อนเริ่มต้น 8,888 บาท เมื่อดาวน์ 30% นาน 48 เดือน รับประกันคุณภาพรถใหม่ 6 ปี หรือ 150,000 กม., ประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 200,000 กม., ฟรี RIDDARA โฮมชาร์เจอร์พร้อมติดตั้ง, ฟรี ประกันภัยรถยนต์ ชั้น1, ค่าอะไหล่และค่าแรงบํารุงรักษา 6 ครั้งแรก, บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 6 ปี, แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตภายในรถ (Internet Usage) 2 GB นาน 1 ปี, สายชาร์จเคลื่อนที่และค่าจดทะเบียน มูลค่า 5,000 บาท
ส่วนเนต้า NETA V-II และ NETA X ดาวน์ 0% ระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุด 84 เดือน ดาวน์ต่ำสุดที่ 0% ระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุด 84 เดือน สำหรับลูกค้า 8 อาชีพพิเศษที่ทำสัญญาสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่กับ NLTH ค่ายรถยนต์ฮุนไดจัด “Hyundai Spark Offer” ให้ลดสูงสุดถึง 330,000 บาท หรือเลือกดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 84 เดือน สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถระหว่างวันที่ 1 มีนาคม-6 เมษายน 2568
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผย ตัวเลขยอดการผลิตรถยนต์เดือน ก.พ. มีทั้งสิ้น 115,487 คัน ลดลงจากเดือน ก.พ.ปีที่แล้ว 13.62% ขายในประเทศลดลง 21.26% โดยเฉพาะรถกระบะลดลง 42.10% และผลิตส่งออกลดลง 9.48% โดยเฉพาะรถยนต์นั่งลดลงถึง 47.01%
การผลิตเพื่อส่งออก 78,535 คัน เท่ากับ 68% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา 21.10% ลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2567 จำนวน 9.48% ส่วนเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2568 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 153,579 คัน เท่ากับ 69% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ระยะเวลาเดียวกัน 15.56%
การผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ผลิตได้ 36,952 คัน เท่ากับ 32% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือน ก.พ.ปีที่แล้ว 21.26% และเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2568 ผลิตได้ 69,011 คัน เท่ากับ 31% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2567 26.5%
ยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือน ก.พ. มีทั้งสิ้น 49,313 คัน ลดลงจากเดือน ม.ค. 1.2% แต่ลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่ 6.68% จากการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินกับผู้ซื้อรถกระบะที่ยังคงลดลง 14.9% คงต้องรอยอดจองรถยนต์ในงานมอเตอร์โชว์ ที่สถาบันการเงินอาจปล่อยสินเชื่อรถกระบะมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม มาตรการจากภาครัฐที่จะช่วยเหลือรถกระบะในโครงการ “รถกระบะพี่ มีคลังค้ำ” โดยให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันสินเชื่อซื้อรถกระบะ ซึ่งเป็นรถประกอบธุรกิจของประชาชนและเกษตรกร ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย วงเงิน 5,000 ล้านบาทนั้น จะเริ่มรับคำขอตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 -31 ธันวาคม 2568 คาดว่าจะเห็นผลภายใน 2 เดือน แต่จะคึกคักและช่วยได้จริงหรือไม่ยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะต้องดูว่าจะมีคนมาลงทะเบียนมากน้อยเพียงใด