มีความชัดเจนมากขึ้น สำหรับค่ายรถยนต์ไฟฟ้า 100% อย่าง เนต้า (NETA) หลังจากนายใหญ่ “เปา หลง ซุน” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ออกมาให้สัมภาษณ์พิเศษถึงความชัดเจน และแนวทางการขับเคลื่อนแบรนด์เนต้าในประเทศไทย
หลังจากบริษัทแม่ได้รับสางปัญหาหนี้สิน และระดมเงินลงทุน เพื่อมาใช้ในการเคลียร์หนี้สิน ภายใต้นโยบาย “เปลี่ยนหนี้ เป็นหุ้น” เพื่อระดมเงินทุน และขับเคลื่อนธุรกิจ รวมทั้งเนต้าประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ไปติดตามกัน
ก่อนอื่น เนต้า ต้องขอขอบคุณลูกค้าชาวไทย ทั้ง 25,000 รายที่มอบความไว้วางใจให้กับเนต้า เพราะลูกค้ากลุ่มนี้คือกำลังสำคัญ ที่ทำให้เนต้าเติบโต และเป็นคนซัพพอร์ตสร้างความเชื่อมั่นกับแบรนด์ของเรา
ปัญหาทุกอย่างจะค่อย ๆ คลี่คลาย หลังจากบริษัทแม่หาเเหล่งเงินทุน และมีการเจรจากับเจ้าหนี้ ซัพพลายเออร์ต่าง ๆ โดยสามารถเคลียร์หนี้ไปแล้วกว่า 60% และอยู่ในระหว่างดำเนินการต่อเนื่อง
เราอยากให้ทุกคนกลับมาเชื่อมั่นแบรนด์ของเรา และเชื่อมั่นว่า เนต้า จะไม่ทำให้ลูกค้าคนไทยผิดหวัง
จากการประชุมตัวแทนจำหน่ายล่าสุด เราพบว่า เนต้า มีความผูกพันกับประเทศไทยค่อนข้างมาก ทั้งในส่วนของลูกค้า ดีลเลอร์ ซัพพลายเออร์ ทุกคน ๆ ต่างสนับสนุนเนต้ามาอย่างต่อเนื่อง การทำเอ็มโอยูกับพันธมิตรทางธุรกิจที่ผ่านมา หลัก ๆ จะเป็นการเข้าเสริมความเเข็งแกร่งและช่วยเเก้ปัญหาในปัจจุบันของบริษัท และแน่นอนว่าเรามีแผนที่ชัดเจนสำหรับอนาคตที่จะเดินต่อไปในประเทศไทย
เมื่อเรากลับมาเเข็งแรงได้ เนต้ามั่นใจว่าภายในปีนี้ จะสามารถกลับขึ้นมามีส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์อีวีของประเทศไทย ในอันดับท็อป 2 ได้อย่างแน่นอน และปีนี้คาดว่าจะมียอดขายไม่น้อยกว่า 10,000 คัน จากรถยนต์ 2 รุ่น คือ เนต้า วีทู และเนต้าเอ็กซ์ ขณะที่ยอดขายรถอีวีโดยรวม คาดว่าจะอยู่ 85,000 คันในปีนี้
ขณะที่แผนงานระยะกลางภายในปี 2572 เนต้าจะมียอดขายไม่น้อยกว่า 50,000 คัน และมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ในอันดับ 2 ของตลาดรถยนต์อีวีอย่างเหนียวแน่น จากยอดขายรถยนต์ จากการเตรียมเปิดตัวรถยนต์เพื่อทำตลาด 6 รุ่น ได้แก่ เนต้าเอ็กซ์ รุ่นอัพเกรดให้สเป็กสูงขึ้น, เนต้า วีทู ที่จะมีการเพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้น เพิ่มสเป็กให้ดีขึ้น, เนต้า เอส, เนต้า แอล และรถยนต์ในกลุ่มอี หรือดีคาร์ รวมทั้งรถในกลุ่มบีคาร์ด้วย
ขณะที่แผนการผลิตนั้นประเทศไทยจะเป็นฐานการผลิตรถยนต์เนต้า ทั้งในส่วนของรถยนต์พวงมาลัยขวา และพวงมาลัยซ้าย รวมทั้งจะต้องมีการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศไทยให้ได้มากกว่า 70%
หลังจากโรงงานเริ่มผลิต เนต้า วีทู เมื่อช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา
และในเดือนพฤษภาคม หรือมิถุนายนนี้ จะเริ่มผลิตรถยนต์เนต้า เอ็กซ์ เป็นโมเดลต่อไป
สำหรับเนต้า เครือข่ายการจัดจำหน่าย หรือ “ดีลเลอร์” ของเรามีความสำคัญที่สุด โจทย์ของเราคือ ทำอย่างไรจะสร้างความร่วมมือและสร้างกำไรให้กับดีลเลอร์ เพื่อให้เกิดความร่วมมือกันในการพัฒนาเครือข่ายการจัดจำหน่าย บริการหลังการขาย
เพราะเราเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องมาจากการบริการที่ดี และทำอย่างไรให้ดีลเลอร์จะกอบโกยผลกำไรจากเนต้าให้มากที่สุด
ส่วนงานบริการหลังการขายนั้น เรายังหมายรวมไปถึง อะไหล่ การซ่อม และความพึงพอใจของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ เนต้าจะเน้นการให้บริการแบบ 360 องศา บริการลูกค้าทุกท่านเหมือนกับคนในบ้าน
รวมทั้งดูแลคอมมิวนิตี้ ลูกค้าเนต้า ภายใต้เเพลตฟอร์ม เนต้า จะไม่เดินเดียวดาย ให้ความสำคัญกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความร่วมมือที่ดีจากทุกฝ่าย เพื่อเติบโตร่วมกัน
สำหรับแหล่งเงินทุนที่บริษัทแม่ได้มานั้น เป็นผลมาจากการใช้นโยบาย “เปลี่ยนหนี้ เป็นหุ้น” โดยหนี้ที่เคลียร์ไปแล้ว 60% จากหนี้ทั้งหมด และบริษัทแม่กำลังเคลียร์หนี้ขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่มีอีกเกือบ 40%
ส่วนประเทศไทยนั้น เนต้ามีหนี้ที่ไม่ได้สูงมาก คิดเป็นแค่ 1-2% ของยอดรวมที่บริษัทแม่มีเท่านั้น
โดยหลังจากได้เงินทุนจากบริษัทแม่เข้ามาช่วย ทุกอย่างก็จะสามารถกลับมาเดินหน้าไปได้ปกติ ซึ่งเนต้ามีแผนจะชำระหนี้ในประเทศไทยให้หมดภายในเดือนมิถุนายนนี้ ขณะที่หนี้สินโดยรวมของบริษัทแม่ น่าจะใช้เวลาอีก 15 เดือน ทุกอย่างจะจบ
สำหรับตอนนี้เป็นการขอเปิดวงเงิน มูลค่า 10,000 ล้านบาท เพื่อเปิดวงเงินให้กับดีลเลอร์ในฟอร์แพลนในการซื้อรถ และเตรียมรถสำหรับขายโฮลเซลและรีเทลเท่านั้น
ขณะที่ปัญหาด้านอะไหล่ของลูกค้าในประเทศไทย บริษัทคาดว่าในเดือนพฤษภาคมนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาได้เสร็จสิ้น
สุดท้าย นายเปา หลง ซุน ยังย้ำความมั่นใจและความเชื่อมั่นว่า ลูกค้าชาวไทย ลูกค้าเนต้าในประเทศไทย ไม่ได้หมดความชอบในตัวรถ แต่เป็นเพราะข่าวสารทำให้ลูกค้าไม่มั่นใจ ถ้าเนต้าแก้ไขได้ ทุกอย่างจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะลูกค้ายังคงชื่นชอบรถของเนต้าอยู่
สิ่งสำคัญวันนี้ของเนต้าประเทศไทย ไม่ใช่การผลักดันยอดขาย แต่สิ่งที่ต้องทำคือความเชื่อมั่นที่จะเรียกกลับมา เพราะจุดเเข็งเนต้า “เทก ฟอร์ ออล” เทคโนโลยีที่ทุกคนเข้าถึงได้ พร้อมความคุ้มค่า