พิธีรับมอบซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา
GH News March 26, 2025 06:11 PM

สำเร็จลุล่วงไปอย่างงดงามสำหรับโครงการมหามงคลอันยิ่งใหญ่อย่างการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ล่าสุด คุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ประธานสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ในนามคณะกรรมการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา ส่งไม้ต่อให้แก่กรุงเทพมหานคร โดย รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทำหน้าที่ดูแล จึงได้จัดพิธีรับมอบซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรสถิต ๗๒ พรรษา” และ “วชิรธำรง ๗๒ พรรษา” อย่างเป็นทางการ ซึ่งภายในงานได้รับเกียรติจาก แพทย์หญิงวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวต้อนรับ ท่ามกลางสักขีพยาน อาทิ นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักโยธา กรุงเทพฯ รวมถึงผู้แทนองค์กรภาคีจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ ได้แก่ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในนามประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ สายหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, นายประสงค์ เอาฬาร รองประธานหอการค้าไทยจีน ในนามคณะกรรมการอำนวยการโครงการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ สายหอการค้าไทย-จีน และองค์กรชาวไทยเชื้อสายจีนทั่วประเทศ, นางจรรย์สมร วัธนเวคิน ประธานที่ปรึกษาโครงการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ ภาคเอกชน ประธานอุปถัมภ์ มูลนิธิเกียรติร่วมมิตรเพื่อการศึกษา ร่วมแสดงความยินดี ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร

คุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ประธานสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ในนามคณะกรรมการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา กล่าวส่งมอบซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ ทั้งสองแห่งว่า การจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ นี้เกิดจากการรวมพลังความสามัคคี ความจงรักภักดีและความกตัญญูกตเวทิตาของปวงพสกนิกร เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2567 อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความความร่มเย็นเป็นสุขเสมอมา และเนื่องจากซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ ทั้งสองแห่งยังเป็นสถาปัตยกรรมที่รังสรรค์โดยการผสมผสานทางศิลปวัฒนธรรมชั้นสูงของอารยธรรมไทย-จีน จึงกลายเป็นสองแลนด์มาร์กสำคัญแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ  ที่จะก่อให้เกิดความเจริญมั่นคง ขยายการเติบโตของชุมชนท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มุ่งหน้าสู่ประเทศไทยต่อไปอีกด้วย ที่สุดยังหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ จะเป็นสิ่งจารึกถึงความกตัญญูไว้ในแผ่นดิน และเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของถาวรวัตถุที่คนไทยได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ตลอดไป

รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้รับมอบซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ ว่า รู้สึกเป็นเกียรติและเป็นความภาคภูมิใจ อีกทั้งยังเชื่อว่าชาวกรุงเทพฯ ทุกคนล้วนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่มีแลนด์มาร์กอันยิ่งใหญ่และงดงามเกิดขึ้นใหม่ถึงสองแห่ง บนถนนเจริญกรุงแห่งนี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย แต่ด้วยพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเป็นที่รักของประชาชนชาวไทย โครงการดังกล่าวจึงสำเร็จได้ตามวัตถุประสงค์ ของสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ซึ่งนำโดย คุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล พร้อมด้วยสมาชิกคณะกรรมการฯ และเครือข่ายภาคีจากองค์กรต่างๆ ต้องขอแสดงความชื่นชมและและแสดงความขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วย สำหรับซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ ทั้งสองแห่งถือว่าเป็นซุ้มประตูที่มีอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันโดดเด่น ตนมั่นใจว่าจะสามารถช่วยต่อยอดในเรื่องการพัฒนาชุมชน และส่งเสริมการท่องเที่ยวบนถนนเจริญกรุงให้กลับมาอยู่ในบรรยากาศคึกคักไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจหรือด้านไลฟ์สไตล์เช่นเดียวกับถนนเยาวราชได้อย่างแน่นอน

นายสนั่น  อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในนามประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ สายหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตั้งแต่ในอดีตชาวจีนอพยพเข้ามาในประเทศไทย ก่อร่างสร้างตัว ประกอบธุรกิจการค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วทุกภูมิภาคของไทย ทำให้คนไทยที่ทำภาคเกษตร รู้จักการทำมาค้าขาย นำมาสู่การจัดตั้งหอการค้าในแต่ละจังหวัด ก่อนจะรวมกันเป็นหอการค้าไทย  ถือเป็นองค์กรภาคเอกชนและภาคธุรกิจของคนไทยที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศ  โดยดำเนินงานเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ภายใต้พระบารมีปกเกล้าฯ ของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ ชาวหอการค้าไทยฯ หลอมรวมใจเป็นหนึ่ง น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดี  ด้วยการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ที่สำคัญของประเทศไทย นั่นคือ โครงการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา อันเป็นสิริมงคลยิ่ง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ยืนยันความจงรักภักดีที่ชาวหอการค้าไทยฯ มีต่อในหลวง รัชกาลที่ 10  และเป็นอนุสรณ์อันยิ่งใหญ่แสดงความกตัญญูต่อแผ่นดินอย่างแท้จริง ขณะเดียวกันยังเป็นแลนด์มาร์กยืนยันความสัมพันธ์อันดีที่มีมายาวนานถึง 50 ปี ระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนอีกด้วย

นายประสงค์ เอาฬาร รองประธานหอการค้าไทยจีน ในนามคณะกรรมการอำนวยการโครงการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ สายหอการค้าไทย-จีน และองค์กรชาวไทยเชื้อสายจีนทั่วประเทศ กล่าวว่า หอการค้าไทย-จีน มั่นคงใต้ร่มพระบารมี จากสมาชิกหลักสิบเป็นหลักล้าน  เนื่องในโอกาสมหามงคล 72  พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2567 ชาวไทยเชื้อสายจีนทั่วประเทศตั้งแต่รุ่นแรกๆ จนถึงนักธุรกิจรุ่นใหม่ ล้วนมีความปลื้มปีติ ยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความกตัญญูต่อแผ่นดิน ให้ปรากฏชั่วลูกชั่วหลานสืบต่อไป เหนือสิ่งอื่นใดยังเป็นสัญลักษณ์อันยิ่งใหญ่แสดงความจงรักภักดีต่อในหลวง เป็นศูนย์รวมใจพสกนิกรทุกเชื้อชาติในประเทศไทย โดยส่วนตัวเล็งเห็นว่าความโดดเด่นของซุ้มประตูทั้งสองแห่งนี้จะช่วยพัฒนาพื้นที่ให้สวยงามและส่งเสริมการท่องเที่ยวย่านเจริญกรุงให้คึกคัก มีร้านค้าเพิ่มขึ้น เกิดการท่องเที่ยวเชื่อมโยงวัดสำคัญในพื้นที่ นำไปสู่การเกิด “เยาวราช 2“ ขึ้นในกรุงเทพฯ ได้ในเร็ววัน

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.