เปิดผลสำรวจคนไทยรู้หนังสือ สูงขึ้นเกือบ 99% พบ ‘แม่ฮ่องสอน’ อัตรารู้หนังสือต่ำสุด
GH News March 26, 2025 07:21 PM

เปิดผลสำรวจคนไทยรู้หนังสือ สูงขึ้นเกือบ 99% พบข้อมูล ‘แม่ฮ่องสอน’ อัตราต่ำสุด สกศ.มั่นใจปีหน้าอันดับการศึกษาไทยในระดับโลกสูงขึ้น

จากกรณีที่ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ร่วมกับ กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) ร่วมแถลงผลการสำรวจการรู้หนังสือของประชากรไทย ปี 2568 ผลการสำรวจ ฯ พบว่า อัตราการรู้หนังสือของไทยสูงขึ้นจากเดิมร้อยละ94 เป็นร้อยละ 98.83 นั้น

อ่านข่าว ไทยจ่อขยับ อันดับการศึกษา นานาชาติ หลัง อัตราการรู้หนังสือของประชากร พุ่งสูง 98.83%

ผลการสำรวจมีรายละเอียดดังนี้

กำหนดนิยามผู้ไม่รู้หนังสือ คือ ผู้ที่อ่านไม่ออก เขียนหนังสือไม่ได้ และคิดเลขไม่เป็น ซึ่งเป็นความหมายของผู้ไม่รู้หนังสือตามนิยามของยูเนสโก

การสำรวจทั้งสิ้น 225,963 ครัวเรือน คิดเห็นจำนวน 533,024 คน ครอบคลุม 7,429 ตำบลทั่วประเทศ  ผลการสำรวจได้มีการเก็บข้อมูลอัตราการไม่รู้หนังสือใน 2 ช่วงอายุ คือ 1.ในช่วงอายุ 15 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกรอบการกำหนดช่วงอายุตามตัวชี้วัดในดัชนีและฐานข้อมูลทางการศึกษาระดับนานาชาติ อาทิ UNESCO และPISA และ 2.ในช่วงอายุ 7 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกรอบการกำหนดช่วงอายุตาม Foundational Learning Module ของUNICEF

จากการสำรวจ พบว่า การรู้หนังสือของคนไทยสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ อยู่ที่ 98.83% หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 5% จากเดิมที่มีอัตราการรู้หนังสืออยู่ที่ 94% ในปี 2661 โดยพบ

  • อัตราการไม่รู้หนังสือของประชากรไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป อยู่ที่ร้อยละ 1.17
  • อัตราการไม่รู้หนังสือของประชากรไทยอายุ 7 ปีขึ้นไป อยู่ที่ร้อยละ 1.16

สำหรับอัตราการไม่รู้หนังสือจำแนกตามจังหวัด

  • อัตราน้อยกว่าร้อยละ 1 มีจำนวน 51 จังหวัด
  • อัตราร้อยละ 1 – 5 มีจำนวน 25 จังหวัด
  • อัตราร้อยละ 6 – 10 มีจำนวน 0 จังหวัด
  • อัตรามากกว่าร้อยละ 10 มีจำนวน 1 จังหวัด คือ แม่ฮ่องสอน ที่มีอัตราการรู้หนังสือยังไม่ถึง 90%

อัตราการไม่รู้หนังสือตามระดับการศึกษา มีดังนี้

  • ไม่ได้รับการศึกษา ร้อยละ 35.73
  • ก่อนประถมศึกษา ร้อยละ 4.72
  • ประถมศึกษา ร้อยละ 0.89
  • สูงกว่าประถมศึกษา 0.07

อัตราการไม่รู้หนังสือของผู้ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป จำแนกตามอาชีพ

  • ไม่ได้ประกอบอาชีพ ร้อยละ 3.95
  • รับจ้างทั่วไป/อาชีพไม่แน่นอน ร้อยละ 0.70
  • ทำการเกษตร ร้อยละ 1.06

อัตราการไม่รู้หนังสือของผู้ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป จำแนกตามรายได้ของครัวเรือน

  • ต่ำกว่า 5,606 บาท ร้อยละ 3.37
  • 5,607-18,000 บาท ร้อยละ 1.15
  • 18,001-30,000 บาท ร้อยละ 0.69
  • 30,001 บาทขึ้นไป ร้อยละ 0.50

อัตราการไม่รู้หนังสือของผู้ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป จำแนกตามเพศ

  • ชาย ร้อยละ 0.95
  • หญิง ร้อยละ 1.35

นายประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสภาการศึกษา เปิดเผยว่า จากข้อมูลนี้ หากเปรียบเทียบประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ที่ได้สำรวจไว้ในปี 2022 และเมื่อนำข้อมูลของไทย ณ ปัจจุบันไปเทียบ เราน่าจะเป็นอันดับ 1 จากเดิมที่อันดับตามมาเลเซีย สิงคโปร์ อย่างไรก็ตามข้อมูลดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับว่าแต่ละประเทศทำการสำรวจปีไหน อีกทั้งเมื่อเร็วๆนี้ สกศ.ได้หารือเรื่องดังกล่าวกับผู้แทนยูเนสโกแล้ว ซึ่งทางยูเนสโกจะพยายามนำข้อมูลที่ได้จาก สกศ.เข้าฐานข้อมูลให้ทันในปีนี้ หากสามารถนำข้อมูลเข้าทันในปีนี้ เชื่อว่า อันดับทางการศึกษาของไทย ในดัชนีความสามารถทางการแข่งขันทางการศึกษา ที่จัดทำโดยสถาบัน IMD จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน มองว่านี่คือจุดแข็งของการศึกษาไทย คือ การลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของไทยอยู่ในระดับที่น่าพอใจมาก สิ่งที่เราต้องทำต่อไปคือการไปเพิ่มคุณภาพ

ด้าน นายธนากร ดอนเหนือ อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.)  กล่าวว่า สกร.จะรับผิดชอบการศึกษาในช่วงวัยตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป สิ่งที่ สกร.จะดำเนินการต่อไป คือ นำกิจกรรมนำการอ่าน โดยให้ห้องสมุดประจำอำเภอจัดกิจกรรมให้ผู้สูงอายุได้เรียนรู้ เช่น การออกกำลัง การวาดภาพ การส่งเสริมอาชีพ หากต้องผู้สูงอายุต้องการเรียนรู้อะไรเพิ่ม ก็จะแนะนำหนังสือให้ไปอ่านเพิ่มเติม เป็นต้น ซึ่งทำให้ผู้สูงอายุเหล่านี้ได้รู้ในสิ่งที่ต้องการ และเสริมการอ่านป้องกันการลืมหนังสือไปในตัว นอกจากนี้ ที่ผ่านมา สกร.จะมีที่อ่านหนังสือประจำหมู่บ้าน ซึ่งถูกโอนถ่ายโอนให้ท้องถิ่นเข้าไปดูแล ตาม พ.ร.บ.การกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. พ.ศ. 2542 ปัจจุบันพบว่าบางส่วนอาจจะไม่ได้ดำเนินการต่อ ดังนั้น สกร.ดำเนินการของบเพื่อนำที่อ่านประจำหมู่บ้านกลับบ้านให้ผู้ใหญ่ได้มีที่รวมตัวแลกเปลี่ยนพูดคุยกัน

“ส่วนที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีอัตราการไม่รู้หนังสือมากสุดนั้น มาจากพื้นที่จังหวัดที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาและมีชนพื้นเมืองอยู่จำนวนมาก จึงมีความลำบากในการนำความรู้สู่ผู้เรียน โดยเฉพาะหน้าฝนที่เข้าพื้นที่ลำบาก ครูสกร.ต้องไปฝังตัวในพื้นที่ ต่อไปได้มอบนโยบายให้ครูขับเคลื่อน โดยเน้นให้ผู้เรียนอ่านออกเขียนได้ในเบื้องต้น พูดไทยได้รู้เรื่อง เพื่อช่วยให้สามารถทำงานในประเทศไทยได้”นายธนากรกล่าว

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.