นายกฯ อินเดียขอให้ไทย-เมียนมาปลอดภัยเหตุแผ่นดินไหว องค์การระหว่างประเทศรุดหน้าช่วยเหลือ
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่ตอนกลางของเมียนมา โดยจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองมัณฑะเลย์ เมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของเมียนมาออกไป 17.2 กิโลเมตรและมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 1.5 ล้านคน ขณะที่สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (USGS) เปิดเผยว่าแผ่นดินไหวมีขนาด 7.7 ริกเตอร์ และมีความลึก 10 กิโลเมตร (6.2 ไมล์) และได้เกิดอาฟเตอร์ซ็อกต์ตามมาหลังจากนั้น เมื่อวันที่ 28 มีนาคม
ล่าสุด รัฐบาลทหารเมียนมาได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินครอบคลุมพื้นที่ศูนย์กลางแผ่นดินไหวของประเทศ ที่รวมถึงเขตสะกาย มัณฑะเลย์ พะโค และมะกเว ตลอดจนรัฐฉาน ทางตะวันออกของประเทศแล้ว
นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย กล่าวผ่านบัญชีเอ็กซ์ส่วนตัวว่า “จากกรณีแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในเมียนมาและไทย ขอให้ทุกคนปลอดภัยและมีความเป็นอยู่ที่ดี อินเดียพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในทุกทางอย่างเต็มความสามารถ ซึ่งผมได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของอินเดียเตรียมพร้อมในการให้ความช่วยเหลือ พร้อมกับได้มอบหมายให้กระทรวงต่างประเทศอินเดียให้ประสานงานกับรัฐบาลไทยและเมียนมาแล้วด้วย”
ด้านนายทอม เฟลตัน เลขาธิการสหประชาชาติฝ่ายกิจการมนุษยธรรมและผู้ประสานงานการบรรเทาภัยพิบัติฉุกเฉิน ระบุว่า ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ยอดเยี่ยมในเมียนมาและในภูมิภาคที่เข้าให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งได้การสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญจากเครือข่ายระดับโลกของสหประชาชาติ โดยจะระดมการให้ความช่วยเหลือภายใต้กองทุนตอบสนองเหตุฉุกเฉินกลางแห่งสหประชาชาติ (CERF) ด้วย
ขณะที่สภากาชาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ระบุว่า กำลังเฝ้าติดตามแผ่นดินไหวขนาด 7.7 ที่เกิดขึ้นในเมียนมาอย่างใกล้ชิด ซึ่งสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงมายังประเทศไทย ทีมงานของเรากำลังทำงานอย่างแข็งขันร่วมกับสภากาชาดเมียนมาและสภากาชาดไทย เพื่อประเมินผลกระทบและตอบสนองกับเหตุการณ์ให้ได้เร็วที่สุด
นอกจากนั้น รัฐบาลสหราชอาณาจักรประกาศเตือนภัยดังกล่าวต่อนักท่องเที่ยวชาวสหราชอาณาจักรด้วย