ฃ
             

นักธุรกิจสาวออนไลน์ ทุ่มเงิน โคลนนิ่งสุนัขแสนรักเวอร์ชั่นที่ 2  "พะแพง" สายพันธุ์เฟรนช์บูลด็อก ส่วนน้องพะแพงเวอร์ชั่น 1 เก็บร่างแช่เย็นไว้
                   

 วันที่ 29 มีนาคม  2568 จากกรณีที่นักธุรกิจสาวออนไลน์ ทุ่มเงิน โคลนนิ่งสุนัขแสนรักเวอร์ชั่นที่ 2  "พะแพง" ทุ่มเงินกว่า 6 ล้านบาทโคลนนิ่งสุนัขแสนรักที่จากไป ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางเข้าพบกับ น.ส.กัญจน์รัตน์ หรือ พี่ไก่ อายุ 50 ปี นักธุรกิจออนไลน์ และออฟไลน์ ผู้ผลิตสินค้า เจ้าของแบรน์ดังหลายชนิดเป็นชาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ทุ่มเงินกว่า 6 ล้านบาทโคลนนิ่งสุนัขแสนรักร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมายาวนาน  กว่า  9 ปี ที่จากไป ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยลูกสุนัขสายพันธุ์เฟรนช์บูลด็อก เพศเมีย อายุ 5 เดือน ชื่อ "พะแพง" มีลักษณะสมบูรณ์ นิสัยขี้เล่น ร่าเริง จดจำสิ่งต่างๆได้แม่นยำ เหมือนต้นแบบซึ่งเป็นพะแพงเวอร์ชั่นที่  2   สุนัขโคลนนิ่งที่ผ่านการตัดต่อพันธุกรรมตัวแรกของประเทศไทย ด้วยความรักและผูกพันเหมือนดังญาติสนิทที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาอย่างยาวนาน 
               

ทางด้าน น.ส.กัญจน์รัตน์ หรือ พี่ไก่ เปิดเผยว่า  เป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งเรียนจบปริญญาตรีหลังจากจบมาก็ทำ ธุรกิจหลายอย่างธุรกิจขนส่งทั้งออฟไลน์ออนไลน์รับผลิตสินค้าเกี่ยวกับอาหารเกี่ยวกับกาแฟและเป็นเจ้าของแบรนด์ที่ดังมากๆคือ น้ำปลาร้ารัญจวน หมวดของทานก็จะใช้แบรนด์รัญจวนและอาหารสุนัข v care u  กาแฟก็จะเป็น  mydeli  หลักๆก็จะประมาณนี้จริงๆแล้วนี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงสุนัขมาตั้งแต่อายุน้อยๆประมาณ 10 กว่าขวบก็เลี้ยงมาโดยตลอดยิ่งนานวันยิ่งผูกพันไม่สามารถตอบได้ว่าทำไมถึงเลี้ยงเป็นคนที่เห็นแล้วสงสารทั้งแมวทั้งหมาหรือสัตว์ต่างๆแม้กระทั่งต้นไม้แต่จะคลุกคลีมากที่จะผูกพันมากก็คือน้องหมาน้องแมวตอนนี้อยู่ในความดูแลทั้งหมดอยู่บ้านหลังเดียวกันบางวันก็นอนด้วยกันตื่นมาก็ต้องเจอกัน  น้องหมา 17 ตัวอยู่ในบ้านเดียวกันสำหรับพะแพงเป็นตัวที่ 3 ของ 17 ตัวพะแพงตอนที่เขาเสียประมาณ 9 ขวบในเวอร์ชั่นเดิมส่วนเวอร์ชั่นปัจจุบันอายุ 5 เดือนไปรับเขาอายุประมาณ 4 เดือนและเลี้ยงมาได้ 1 เดือนหลังจากที่พะแพงเสียไปแล้วที่จะคิดโคลนนิ่งซึ่งเป็นแนวคิดก่อนหน้าที่เขาจะเสียคิดเมื่อตอนพะแพงอายุได้ 2-3 ขวบด้วยความรักสุนัขตัวนี้อยู่กันทุกวันอยู่ในทุกเวลาตอนที่ทำงานหนักมากๆจะมีเขาที่อยู่เป็นเพื่อนบางครั้งเที่ยงคืน  ตี 1ก็จะนอนพร้อมเราอยู่ด้วยกันตลอดเวลาคิดว่าวันหนึ่งวันใดที่ต้องหายจากกันไป   พอดีไปพบcontact facebookคุณหมอเขาสามารถทำเรื่องนี้ได้ก็เลยเก็บ contact นี้ไว้เลยแล้วก็ภาวนาเมื่อวันนั้นมาถึงให้เราพร้อมที่จะทำก็หลายปีก่อนหน้าที่เขาจะเสียจริงๆแล้วที่ออกมาเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดต้องการให้คนที่รักสุนัข แมว และ คนที่ไม่ได้รักเปิดใจให้อยู่ในสังคมเดียวกันได้วิวัฒนาการต่างๆมันไปได้ไกลมากมันก็เป็นทางเลือกแล้วก็อยากให้คนรักสัตว์ทุกคนให้รักจริงๆอย่าเลี้ยงเป็นแฟชั่นเพราะว่าความรักทุกอย่างมันตามมาด้วยภาระและความรับผิดชอบจะเป็นภาระในรูปแบบของคนกับคนหรือคนกับสัตว์หรือต้นไม้จะขอให้รักจริงๆให้ดูแลกันเต็มความสามารถแล้วก็อย่าให้คนที่ไม่ได้รักเปิดใจยอมรับกลุ่มของคนรักสัตว์ส่วนคนที่รักสัตว์ก็ต้องยกระดับตัวเองให้สังคมมองเราว่าเป็นส่วนที่สร้างสรรค์สังคมและไม่ให้เกิดภาระกับส่วนรวมคือสิ่งที่อยากจะบอกกับทุกคน