‘แผ่นดินไหว’ ฉุดรายได้ท่องเที่ยว 10-15% หวั่นลามเทศกาลสงกรานต์
bangkokbiz March 31, 2025 08:55 AM

“แผ่นดินไหว” ฉุดรายได้ท่องเที่ยวหาย 10-15%

นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว สมาคมฯ ได้รับแจ้งจากสมาชิกโรงแรมว่านักท่องเที่ยวขอเช็กเอาต์ล่วงหน้า 8-10% ทั่วทุกภูมิภาค โดยเฉพาะกรุงเทพฯ เชียงใหม่ เชียงราย และพระนครศรีอยุธยา ขณะที่บางส่วนอาจเปลี่ยนจุดหมายปลายทางไปพักที่พัทยาหรือภูเก็ตแทน

ทั้งนี้สมาคมฯ คาดว่าจะส่งผลกระทบระยะสั้นต่อความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 2 สัปดาห์นับจากนี้อย่างแน่นอน ทั้งกลุ่มที่จองการเดินทางแล้วแต่ไม่มา รวมถึงกลุ่มที่กำลังตัดสินใจเดินทางแล้วคิดว่ายังไม่มาดีกว่า ทำให้รายได้ของธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวหายไปไม่น้อยกว่า 10-15%

“สมาคมฯ คาดว่าเหตุแผ่นดินไหวจะส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงบรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์เหงากว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาด้วย ประเมินว่าต้องใช้เวลา 1 เดือนถึงจะกลับสู่ภาวะปกติ”

 

“สงกรานต์” บททดสอบใหญ่ความปลอดภัย

ยิ่งเหตุตึกถล่มย่านจตุจักรกลายเป็นไวรัลทั่วโลกออนไลน์ ยิ่งทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับประเด็นความปลอดภัยในไทย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเร่งสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ รัฐบาลต้องกำกับมาตรการดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวอย่างเข้มข้นมากเป็นอันดับ 1 ให้นักท่องเที่ยวกล้าเดินทางมาร่วมอีเวนต์สงกรานต์ทั่วประเทศ ถือเป็นบททดสอบที่มาถึงเร็วที่สุดในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ที่ต้องทำควบคู่กับการดำเนินมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัย

หากเกิดประเด็นปัญหาความปลอดภัยอีก ภาคท่องเที่ยวไทยอาจกู่ไม่กลับ ได้รับผลกระทบยาว หลังจากช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยล้วนๆ ตั้งแต่กรณีนักแสดงชาวจีน ซิงซิง หายตัวไปบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ข้อกังวลเกี่ยวกับการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน และล่าสุดเหตุแผ่นดินไหว

“ส่วนเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดปี 2568 ยากมากที่จะไปถึงเป้าหมาย 39-40 ล้านคนตามที่รัฐบาลตั้งไว้หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว มองว่าถ้าปีนี้ได้นักท่องเที่ยวต่างชาติเท่าปี 2567 ซึ่งปิดที่จำนวน 35.54 ล้านคน ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว เพราะมีเหตุการณ์ต่างๆ เยอะมาก เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติต่ำกว่าเป้าหมายในปีนี้ ก็จำเป็นต้องกระตุ้นตลาดเที่ยวในประเทศชดเชย เช่น การออกมาตรการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ที่รัฐบาลเตรียมพิจารณาเร็วๆ นี้”

ท่องเที่ยวยั่งยืน “ความปลอดภัย” ต้องมาอันดับ 1

นายเทียนประสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบโรงแรมสูงเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ทางสมาคมฯ ได้ประสานกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อนำวิศวกรอาสากว่า 4,000 คนมาตรวจโครงสร้างอาคารตามความฉุกเฉิน

เมื่อตรวจสอบจนมั่นใจ ทาง ททท.จะประกาศว่ามีโรงแรมไหนบ้างที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว ทั้งนี้โรงแรมขนาดใหญ่จะมีทีมวิศวกรและทีมช่างอาคารตรวจสอบเองอยู่แล้ว สามารถสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวได้เร็ว แต่โรงแรมขนาดเล็กที่ไม่มีความพร้อมด้านการเงินในกรณีต้องรับการตรวจสอบซ้ำ สมาคมฯ อยากให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในส่วนนี้

“สำหรับภาคท่องเที่ยวไทยในตอนนี้ มิติความยั่งยืนที่ต้องมาอันดับ 1 คือเรื่องความปลอดภัย เพราะที่ผ่านมาเราเสียนักท่องเที่ยวต่างชาติจากประเด็นความปลอดภัยมามาก อย่างตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่มองกันว่าไม่มาเที่ยวไทย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเลือกไปเที่ยวญี่ปุ่นมากกว่า ด้วยมั่นใจในระบบความปลอดภัยของญี่ปุ่น จึงไม่อยากให้รัฐบาลมองข้ามเรื่องนี้ หรือชะล่าใจ โดยสามารถนำกรณีศึกษาการดูแลความปลอดภัยของญี่ปุ่นว่าเขาทำอย่างไร นักท่องเที่ยวจีนและชาติอื่นๆ ถึงมั่นใจไปเที่ยว”

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.