ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 รอบใหม่ แม้วันที่ 31 มีนาคม 2568 กระทรวงการคลัง เลื่อนการลงทะเบียนสำหรับผู้ได้รับสิทธิจำนวน 10 ล้านราย ด้วยเหตุผลที่ว่า เนื่องจากเกิดความล่าช้าในการจัดซื้อจัดจ้างผู้จัดทำระบบลงทะเบียน แต่ยืนยันว่าจะเสร็จทันภายในปีงบประมาณนี้แต่ดูเหมือนว่าผู้ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ยังมีความหวัง เมื่อ
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้จะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินหน้าเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ หลังจากได้มีการประชุมร่วมกับคณะอนุกรรมการบริหารข้อมูลโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ
ส่วนจะมีการปรับปรุงเกณฑ์คุณสมบัติผู้รับบัตรสวัสดิการหรือไม่นั้น จะมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะเกณฑ์เรื่องรายได้และทรัพย์สินอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตามความล่าช้าดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อผู้ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในปัจจุบัน โดยรัฐบาลยืนยันว่ามีงบประมาณรองรับและมีความพร้อมในการจ่ายเงินจนถึงเดือน ต.ค.2568
เช็กสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 รอบใหม่
- ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทยอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- มีรายได้คนละไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ภายในครอบครัว มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี
- ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก พันธบัตร ตราสารหนี้ต่างๆ ต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปีเช่นเดียวกัน
- ต้องไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดิน เกินจากเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด
- ต้องไม่มีบัตรเครดิต
- ต้องไม่มีวงเงินกู้บ้านตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป
- ต้องไม่มีวงเงินกู้ซื้อรถไม่เกิน 1 ล้านบาทขึ้นไป
- ต้องไม่เป็นภิกษุ สามเณร ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญ ข้าราชการการเมือง รวมถึง ส.ส.และ ส.ว.

ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 รอบใหม่
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 เดือนเมษายน ใช้จ่ายอะไรได้บ้าง
สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรายเก่า จำนวน 13.45 ล้านราย ยังได้รับสิทธิวงเงินค่าใช้จ่ายในเดือนเมษายน ดังนี้
วันที่ 1 เมษายน 2568 (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
- วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน
- วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (ม.ค. - มี.ค. 68)
- วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน (ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ)
วันที่ 20 เมษายน 2568
- เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน ที่ยืนยันตัวตน ภายใน 26 ธ.ค. 67 (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท).
ที่มา: