เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ นายวิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แสนสิริเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ หรือ Perpetual Bond ต่อผู้ลงทุนทั่วไป พร้อมอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทที่ระดับ Investment Grade ที่ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” และของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ที่ระดับ “BBB-” โดยทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568
การเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ครั้งนี้ สอดคล้องกับการวางแผนด้านการเงินเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน เสริมสร้างความยืดหยุ่นของโครงสร้างเงินทุน และ เพื่อทดแทนหุ้นกู้ด้อยสิทธิมีลักษณะคล้ายทุนฯ ชุดเดิม ที่บริษัทมีแผนจะใช้สิทธิไถ่ถอนก่อนกำหนดนอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มทางเลือกการลงทุนและสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ซึ่งคาดว่าอัตราดอกเบี้ยช่วง 5 ปีแรกอยู่ระหว่าง 7.00 – 7.50% ต่อปี
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง และคาดว่าจะเปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 20, 23 – 25 มิถุนายน 2568 สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปสามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
นายวิชาญ กล่าวว่า ล่าสุด แสนสิริประกาศแผนธุรกิจปี 2568 วางแผนเปิดตัว 29 โครงการใหม่ มูลค่า 52,000 ล้านบาท แนวราบ 14 โครงการ และคอนโดมิเนียม 15 โครงการ ตั้งยอดขาย 53,000 ล้านบาท ยอดโอน 46,000 ล้านบาท ด้วยกลยุทธ์ขยายการพัฒนาที่อยู่อาศัยในกลุ่มสินค้าระดับลักชัวรีและพรีเมี่ยมในทำเลใหม่ที่มีศักยภาพสูง เร่งเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ในกรุงเทพฯ เพิ่มแบ็กล็อกสนับสนุนการสร้างรายได้ระยะยาว รุกขยายการพัฒนาโครงการไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ภูเก็ต พัทยา และขอนแก่น ขยายโอกาสในการลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ เพื่อพัฒนาโครงการร่วมกัน
โดยปีนี้จะมีโครงการจอยต์เวนเจอร์ใหม่ 7 โครงการ มูลค่า 19,500 ล้านบาท ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับสังคมและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ในปี 2567 ที่ผ่านมา แสนสิริมียอดขาย 50,000 ล้านบาท และยอดโอน 43,700 ล้านบาท ปิดการขายได้ถึง 25 โครงการ มูลค่ารวม 24,000 ล้านบาท จากแผนธุรกิจและผลการดำเนินงานดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลให้การออกหุ้นกู้ของบริษัทในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าไว้
โดยนักลงทุนสามารถจองซื้อผ่าน 9 สถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า