พบซากช้างพลายงาเดียวในสวนหลังก่อนหน้านี้งวงถูกบ่วงรัด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้าน ในพื้นที่ หมู่ 1 ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก ได้กลิ่นเหม็นนานกว่า 2 วันในสวนร้าง รีบแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เข้าตรวจสอบ เป็นเป็นซากช้างป่าพลายงาเดียว ทีก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 มีนาคม มีคลิปภาพงาเดียวยืนริมถนนสายนครนายก-สาริกา โดยมีบ่วงรัดที่ปลายงวง จนสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) พร้อมทีมสัตวแพทย์ ได้ช่วยกันนัดออกมาได้สำเร็จเมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมาจนกระทั้งมาพบกลายเป็นซากวันนี้ ซึ่งห่างจากวันนั้นเพียง 7 วันเท่านั้น

โดยนายชุมพลภัทร์ เลาหะพานิช นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสาริกา พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) พร้อมทีมสัตวแพทย์ ตำรวจ ได้เข้ามาตรวจสอบบริเวณดังกล่างหลังได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวังช้างป่า ตำบลสาริกา ว่ามีชาวบ้านได้กลิ่นเหม็นในสวนร้างจึงเข้าทำการตรวจสอบพบเป็นช้างป่านอนตายอยู่ในสวน

เมื่อตรวจสอบรูปลักษณะ พบว่า เป็นพลายงาเดียวที่ก่อนหน้านี้เป็นข่าว ว่ามีบ่วงรัดที่ง่วงจนที่เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) พร้อมทีมสัตวแพทย์ และทีมตอบโต้ภัยพิบัติ ได้ช่วยกันต้นหาตั้งแต่เย็นวันที่ 23 มีนาคม จนมาพบตัวเวลาประมาณ 00.30 คืนวันที่ 24 มีนาคม จึงได้ทำการยิงยาสลบแล้วปลดบ่วงออกมาได้สำเร็จ ก่อนจะปล่อยให้พลายงาเดียวฟื้นจากยาสลบและออกาหากินตามธรรมชาติ จนกระทั้งเวลาผ่านมาประมาณ 7 คืนวันนี้ก็พบว่าเจ้าพลายงาเดียวได้ล้มตาย ซึ่งบริเวณจุดที่พบก็คือจุดที่เจ้าหน้าที่ช่วยปลดบ่อวงออกจากงวง

จากนั้นเวลาประมารณ 21.00 น. นางสาวนิดา ขนายงาม นายกอบจ.นครนายก ได้เดินทางมาถึง ก่อนจะให้การสนับสนุน รถแบ็กโฮ และ รถสอบล้อ สำหรับเคลื่อนย้ายพลายสาริกา ไปยังหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ข.ญ13 เพื่อให้ทีมสัตวแพทย์ของกรมอุทยานทำการผ่าซากเพื่อทำการชันสูตรหาสาเหตุการตาย แต่การเคลื่อนย้ายซากช้างขนาดใหญ่ที่อยู่ในสวนร้าง ต้องทำการเคลียร์พื้นที่ นายชุมพลภัทร์ เลาหะพานิช นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสาริกา จึงได้นำรถแทรคเตอร์มาทำการถางทางเพื่อที่จะให้รถสิบล้อและรถแบ็กโฮเข้ามาทำการเคลื่อนย้ายซากช้าง แต่ด้วยสภาพซากที่เริ่มเน่าขึ้นอืดและมีแก๊สในตัว จึงต้องทำการเจาะระบายแก๊สออกก่อน จากนั้นได้ยกซากช้างลอยขึ้นและใส่รถสิบล้อ โดยใช้ระยะเวลาตั้งแต่ 17.00 น. ถึง 00.00 น. จึงสามารถเริ่มเคลื่อนย้ายออกจากจุดเกิดเหตุได้

ส่วนสาเหตุการตายนั้นต้องรอผลการชันสูตรจากทีมสัตว์แพทย์ของกรมอุทยานก่อนจึงจะสามารถระบุได้ว่าพลายงาเดียวตายจาสาเหตุอะไร