‘จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์’ เจาะลึก โมเดล ‘พ.ร.บ.คอมเพล็กซ์’
SUB_TIK March 31, 2025 11:21 AM

หลังจากร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. หรือ พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ผ่านการเห็นชอบในหลักการจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา เนื้อหาเปลี่ยนแปลงไปจากร่างเดิมมากน้อยแค่ไหน และขั้นตอนต่อไปจะดำเนินการอย่างไร รวมถึงการแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่จะตามมา รวมถึงจุดเด่นของโครงการนี้มีผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจต่อประเทศ และคนไทยมากน้อยขนาดไหน

“นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.คลัง มีคำตอบมาให้

มีคอมเพล็กซ์ส่วนใหญ่เห็นด้วย

“พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นร่างที่ถูกปรับมาจากที่ ครม.เคยเห็นชอบในหลักการ และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจและปรับแก้ ซึ่งเป็นการแก้ไขที่เป็นประโยชน์สำคัญ โดยเฉพาะการกำกับดูแล และการกำหนดบทลงโทษต่าง ๆ จึงทำให้ พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็นร่างกฎหมายที่ทำประชาพิจารณ์ มากถึง 4 รอบ ผลประชาพิจารณ์เป็นไปในทิศทางที่ดี ส่วนใหญ่เห็นด้วยมากถึง 80%”

พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ฉบับนี้ยังคงยึดหลักการเดิม คือกระตุ้นการลงทุนและเศรษฐกิจของประเทศ สร้างจุดเปลี่ยนใหม่ในเรื่องของการท่องเที่ยว โดยเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-made Destinations) ดังนั้น เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ คือสถานที่ท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจ ที่ประกอบด้วยหลายธุรกิจรวมกัน และบวกด้วยกาสิโน ซึ่งกฤษฎีกาช่วยปรับให้ กฎหมายให้กำหนดว่ากาสิโนต้องมีสัดส่วนไม่เกิน 10% ของที่ดินหรือพื้นที่ใช้สอยของอาคารอันเป็นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งข้อกำหนดนี้ก็ตรงกับใจของรัฐบาล

ยืนยันว่าหลักคือในเรื่องของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ใช่เรื่องของกาสิโนการพนัน แต่เป็นเรื่องของการสร้างแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งโมเดลธุรกิจเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งใหม่ แต่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลกที่มีตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว อาทิ สิงคโปร์ มาเก๊า ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา

ต้องใช้สิ่งใหม่ดึงดูดท่องเที่ยว

วันนี้ประเทศไทยยังพึ่งบุญเก่า ทำให้ขาดความหลากหลาย และความสดใหม่ ดังนั้นเราต้องดึงสิ่งใหม่ ๆ เข้ามา โดยขอพูดถึงพื้นที่ในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ 90% ที่เหลือนอกจาก 10% ที่เป็นกาสิโนแล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นใน 90% นั้น เราจะได้พิพิธภัณฑ์ใหม่ ที่มีความล้ำสมัย สวนสนุก ระดับดิสนีย์แลนด์ หรือยูนิเวอร์แซล สนามกีฬาขนาดใหญ่ อินดอร์สเตเดี้ยม ความจุ 4-5 หมื่นคน หรืออาจจะเป็นอาคารทรงกลมขนาดยักษ์ MSG Sphere แบบที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เป็นการดึงการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ หรือนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่เข้าประเทศ

ยกตัวอย่าง ประเทศสิงคโปร์นั้นได้เริ่มโครงการ Integrated Resort ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกันเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เมื่อ20 ปีที่แล้ว ดึงดูดการท่องเที่ยวได้มากถึง 25% ต่อปี จากฐานเดิมที่ยังไม่มีการสร้างแหล่งท่องเที่ยวครบวงจร ส่วนของไทยนั้นคงไม่ได้คาดหวังมากขนาดนั้น เนื่องจากเราเป็นประเทศท่องเที่ยวอยู่แล้ว มีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติมากมาย ดังนั้นคาดว่าการมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในไทย จะช่วยกระตุ้นการเพิ่มนักท่องเที่ยวได้ 5-10% เพิ่มค่าใช้จ่ายนักท่องเที่ยวต่อหัวได้อีก 2 หมื่นบาทต่อคนต่อหัว

เปิดเหตุผลทำไมต้องมีกาสิโน

ส่วนถามว่าสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่มีกาสิโนได้หรือไม่นั้น ต้องขอเรียนว่า การกำหนดให้เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีพื้นที่กาสิโน 10% ของพื้นที่ ถือเป็นโมเดลธุรกิจรูปแบบหนึ่ง ไม่ใช่สิ่งที่รัฐบาลคิดขึ้นมาเอง อย่างในต่างประเทศ อาทิ ดูไบ ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นประเทศมุสลิมยังต้องทำโครงการในโมเดลนี้ เนื่องจากเป็นโมเดลทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจได้จริง ซึ่งไทยเราก็มองเห็นในจุดนี้เช่นกัน

การจะสร้างอินดอร์สเตเดี้ยมเป็นสิ่งที่ไม่คุ้มทุน เอกชนไม่อยากลงทุนสร้าง รัฐบาลก็ไม่มีเม็ดเงินพอที่จะลงทุนใหญ่เช่นนี้ เพราะฉะนั้น โมเดลธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ รูปแบบที่ออกมา ธุรกิจอื่น โรงแรม สวนสนุก ห้างสรรพสินค้า รวมกับกาสิโนนั้น ถือว่าช่วยดึงดูดการลงทุน เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้จริง องค์ประกอบในโมเดลธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จึงขาดซึ่งกันและกันไม่ได้

ธุรกิจสะพัด-จ้างงาน 2 หมื่นคน

ส่วนเม็ดเงินลงทุนที่จะเกิดขึ้นในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์นั้น คาดว่าไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาทต่อจุด ซึ่งเชื่อว่าเป็นไปได้ เพราะเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในสิงคโปร์ เมื่อ 20 ปีที่แล้วก็มีการลงทุนคิดเป็นเงินไทยกว่า 2.4 แสนล้านบาท ขณะเดียวกันเมื่อปีที่ผ่านมาก็มีการอนุมัติเพิ่มอีก 8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่ดูไบ ก็อยู่ที่ 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้นโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเป็นผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ

ขณะเดียวกัน ผลดีกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งธุรกิจที่เกี่ยวกับก่อสร้าง โครงสร้างพื้นฐาน รวมไปถึงหลังจากที่เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์สร้างเสร็จแล้ว ก็จะทำให้เกิดธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ ขนส่ง เช่ารถ โรงแรม ร้านอาหาร เป็นต้น ที่ไม่ใช่เพียงธุรกิจที่อยู่ในพื้นที่ ยังมีผลดีในเรื่องการจ้างงาน 1.5-2 หมื่นคน รวมทั้งภาครัฐก็สามารถจัดเก็บรายได้ได้เพิ่มมากขึ้น และเงินรายได้ หรือภาษีที่ได้จากเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ก็จะคืนกลับมาช่วยสังคมต่อไป

มั่นใจป้องกันทุนสีเทาได้

การลงทุนในลักษณะนี้เป็นการลงทุนขนาดใหญ่ที่รัฐบาลไม่รู้จะหาเม็ดเงินจากไหน ดังนั้นจึงดึงดูดให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุน เพื่อสร้างจุดขายใหม่ ๆ ให้กับประเทศ ซึ่งการลงทุนนี้เราเปิดกว้างทั้งนักลงทุนในและต่างประเทศที่มีศักยภาพ และขั้นตอนเป็นวิธีการและการลงทุนที่รัดกุมและโปร่งใส ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องการลงทุนสีเทา หรือการฟอกเงิน

นอกจากนี้ นักลงทุนที่เข้ามาจะช่วยเข้มงวดในเรื่องเหล่านี้เพราะนักลงทุนระดับโลกเข้ามาลงทุนระดับ 1 แสนล้านบาท มีความกังวลเรื่องการฟอกเงินเช่นเดียวกัน เพราะหากเขาเข้ามากระทำผิดในพื้นที่เรา ซึ่งส่วนใหญ่นักลงทุนไม่ได้ลงทุนเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น แต่ลงทุนที่สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และญี่ปุ่น เป็นต้น ก็จะโดนเพิกถอนใบอนุญาตในประเทศเหล่านั้นด้วย ฉะนั้น นักลงทุนจะต้องเข้ามาลงทุนด้วยความโปร่งใสที่สุด

เงื่อนไข 50 ล้านรอหารือในสภา

สำหรับกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกา แก้ไขเพิ่มเติมกำหนดให้คนไทยที่จะเข้าไปเล่นในกาสิโนถูกกฎหมายต้องมีเงินในบัญชี 50 ล้านบาท เป็นเพียงข้อเสนอหนึ่งจะต้องไปหารือกันต่อในสภา ซึ่งยอมรับว่าแนวคิดของกฤษฎีกา กับรัฐบาลอาจจะต่างกัน แต่สุดท้ายคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็จะรับร่าง พ.ร.บ.ของกฤษฎีกา ดังนั้น ข้อกำหนดนี้จะต้องส่งเข้าสภา ซึ่งสุดท้ายอำนาจอยู่ที่สภาว่าจะปรับแก้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.นี้มีจุดประสงค์ในเรื่องของการลดการพนันที่ผิดกฎหมาย ซึ่งสิ่งที่ชี้ชัดคือ กรณี Integrated Resort ของสิงคโปร์ สามารถลดการพนันผิดกฎหมายจาก 3% เหลือเพียง 0.2%

ดังนั้น เชื่อว่าเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะช่วยดึงคนที่ไปเล่นการพนันผิดกฎหมายเหล่านี้กลับมา หมุนในระบบเศรษฐกิของประเทศ เพราะฉะนั้น การกำหนดเรื่องของรายได้เงินฝากอาจจะเป็นการกันคนกว่า 60 ล้านคนออกไปจากระบบ เนื่องจากคนไทยที่มีเงินฝากในบัญชี 50 ล้านบาทขึ้นไป มีอยู่ 1 หมื่นกว่าบัญชีเท่านั้น

ออกแบบป้องกันทางสังคม

ส่วนเรื่องผลด้านเศรษฐกิจนั้น ทุกฝ่ายมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าจะเป็นเครื่องมือในการช่วยกระตุ้นการลงทุน การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของประเทศ ส่วนเรื่องที่คนส่วนใหญ่เป็นห่วงคือ ประเด็นทางสังคม เรื่องของการพนัน ซึ่งในเรื่องนี้มีการตั้งกติกา ข้อกำหนด เขตบริเวณของสถานประกอบการกาสิโนที่แยกห่างจากสถานประกอบธุรกิจสถานบันเทิงอื่นอย่างชัดเจน

ห้ามบุคคลที่อายุน้อยกว่า 20 ปีเข้ากาสิโน มีการตั้งคณะกรรมการกำกับด้านนี้โดยเฉพาะ รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ อาทิ กล้องวงจรปิดที่มีระบบปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ช่วยในการตรวจสอบ และกำกับคนที่จะเข้าออกใครมีพฤติกรรมเล่นบ่อย หรือมีการใช้เงินในกาสิโนแบบเทหมดหน้าตัก ก็อาจจะมีการติดตามและห้ามเข้าพื้นที่ เป็นต้น

หรือหากบุคคลที่ 3 เช่น ญาติพี่น้อง แจ้งมาจากบุคคลคนนี้เข้าไปเล่นแล้วเกิดปัญหา สามารถแจ้งชื่อมาที่คณะกรรมการ ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วพบว่าหลากปล่อยเข้าไปจะเกิดปัญหาขึ้นจริง เราสามารถขึ้นบัญชีห้ามเข้าได้ ซึ่งเมื่อบุคคลนั้นแสดงบัตรประชาชนที่ทางเข้าแล้วพบว่ามีรายชื่อติดอยู่จะถูกห้ามทันที

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.