กู้ วาสิฏฐี-หน่อย สุรัตนา ควงคู่แตะเลข 6 แต่ยังสวยฉ่ำ ลั่นขอตายแบบหน้าเป๊ะ
ห่างหายจากงานแสดงทางหน้าจอทีวีไปนาน ล่าสุดดาราสาวคู่ซี้ที่เคยมีผลงานการแสดงละครทางช่อง 7 มากมายอย่าง กู้ วาสิฏฐี ศรีโลฟุ้ง ในวัย 59 และ หน่อย สุรัตนา ข้องตระกูล ในวัย 60 ปี ก็ทำเอาใครหลายคนตะลึงกับความสวยแบบแพ็คคู่ เพราะดูหน้าเด็กจนจำแทบไม่ได้ โดยสองสาวยังอยู่ในอาการปลื้มกับหน้าใหม่ ที่ทำให้ชีวิตก็เปลี่ยนเพราะมีความสุขมากขึ้น ยิ่งคนชมยิ่งภูมิใจว่าคิดไม่ผิดที่เลือกทำศัลกรรมกับหมอคนไทยที่คลีนิก YKJ Medical Center ไม่ต้องบินไปไกลถึงเกาหลีเลย
“เราเองเป็นนางงามเก่าใช่ไหม ก็เห็นมิสแกรนด์มาเยอะเลย แล้วดู ดาว มยุรี ชอบมาก ชอบที่เค้าเปลี่ยนหน้าใหม่ จมูกสวยมาก เราเห็นเราก็ปิ๊งเลย พอเราได้มาทำ ก็ไม่คิดว่าเราจะสวยได้ขนาดนี้ พอใจมากถึงมากที่สุด คือมีความสุข ก่อนตายอ่ะ(หัวเราะ) ยังพูดกับที่บ้านไว้เลย เวลาฉันตาย ฉันจะได้นอนสวยๆ จมูกโด่งๆ หน้าเป๊ะๆ อายุป่านนี้แล้ว เราต้องคิดถึงตอนตาย”
“คือชีวิตมันไม่แน่นอน ไม่รู้พรุ่งนี้ตื่นมาจะได้หายใจอยู่หรือเปล่า เอาจริงๆ เพื่อนเพิ่งเสียไปทั้งที่นางแข็งแรงมากนะ ฉะนั้นมันไม่แน่หรอก เดินๆ อยู่อาจจะสลบไป แต่ตอนนี้สวยแล้ว จะตายก็ไม่กลัวแล้ว ฉันสวยแล้ว ก็บอกลูกไว้ว่าถ้าฉันตายก็ให้ใส่ชุดเจ้าหญิงกรุยกราย ฉันจะนอนตายแบบสวยๆ คือสวยยันศพน่ะ” กู้-วาสิฏฐี กล่าว
ขณะที่ หน่อย สุรัตนา กล่าวว่า “ผู้หญิงเราอย่าหยุดสวย จริงๆ ถ้าอยากสวยให้พึ่งหมอเลย ของหน่อยเปลี่ยนจมูก แก้จมูก แล้วก็ยกหน้ายกกระชับหน้า เพราะตอนแรกกังวลเรื่องหย่อนคล้อยตามวัย หยิบกระจกขึ้นมาดู โหย ฉันแก่มากเลยอะไรยังงี้ คอเหี่ยว ตาเหี่ยว”
ส่วน กู้-วาสิฏฐี กล่าวเสริมว่า “ของกู้คอเหี่ยวเยอะ คล้ายๆ ไก่งวงเลยที่ย่นๆๆ ก็ทำดึงหน้าดึงคอ แล้วเอากระดูกหลังหูมาเติมปลายจมูกนิดนึง จริงๆ เป็นคนจมูกโด่งอยู่แล้วแต่อยากโด่งอีก บอกคุณหมอเอาทรงตุรกีเลย แล้วก็เติมหน้าผาก ที่บุบหน่อยนึง คือคุณหมอละเอียดมาก เราคิดว่าหน้าผากสวยอยู่แล้ว แต่หมอบอกว่าเนี่ยถ้าคุณเจอผมก่อนหน้านี้คุณจะไม่สูญเสียเงิน เราก็ อุ๊ย หมอรู้ได้ไง คือกู้ลงทุนทำธุรกิจอย่างหนึ่ง แล้วหมดไปหลายตังค์อ่ะ คุณหมอรู้จากหน้าผากค่ะ เพราะหมอศึกษาศาสตร์ด้านโหงวเฮ้งด้วย เขาก็ปรับให้โหงวเฮ้งดีขึ้น จริงๆ ต้องขอบคุณวายเคเจ เพราะว่าเหมือนให้ชีวิตใหม่เราสองคนจริงๆ”
จากนั้น 2 สาวยังบอกอีกว่า ชีวิตวันนี้มีความสดใสขึ้น มีแต่พลังบวกเพราะคนทักเยอะว่าสวยขึ้น แต่ความหน้าเด็ก ก็ทำให้มีเรื่องฮาเพราะคนไม่เชื่อว่าอายุมากขนาดว่ารับเบี้ยคนชราแล้ว
พอถามว่าสวยอย่างนี้คงมีหนุ่มๆ มาจีบ ทั้งคู่พร้อมใจกันพูดว่า อายุปูนนี้แถมมีพร้อมทุกอย่างแล้ว ขออยู่โสดๆสวยๆ ดีกว่า อยู่กับเพื่อนก็ไม่เหงา กระทั่งถามถึงงานการแสดง ทั้งคู่พูดคล้ายกันว่าช่วงหลังงานแสดงเริ่มน้อยลง เข้าใจว่าวงการเปลี่ยนไป แต่ก็ยังอยากเล่นละครอยู่ ยังคิดถึงเพื่อนและบรรยากาศกองถ่าย หวังว่าทำหน้าใหม่แล้วอาจจะมีละครติดต่อเข้ามาอีก
พอถามว่าถึงไม่มีงานแสดง ก็ได้ข่าวว่าทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่ดีมีสุข ถ้าเทียบกับนักแสดงรุ่นเก่าหลายคน ที่ไม่มีงานแสดง อาจจะลำบากบ้าง ทั้งคู่ก็กล่าวในทำนองเดียวกันว่า ได้ธุรกิจกับครอบครัวเล็กน้อย และเลือกใช้ชีวิตแบบพอเพียงมากกว่า
“เอาตรงๆ ทุกวันนี้ก็ยังนั่งรถเมล์ บางคนอาจจะมองว่ายัยนี่ตกอับแน่ๆ แต่เราชอบแบบนี้ รถเมล์ที่หัวกระจุยก็นั่งบ้างถ้าไม่มี แต่ส่วนใหญ่จะนั่งรถเมล์แอร์ มันก็แค่ 25 บาท ก็มาลงอุดมสุข แล้วนั่งรถไฟฟ้า อย่างถ้ามาที่ วายเคเจ ก็ต่อรถใต้ดินอีกทีนึง โอเค เวลาเดินก็ถือว่าได้ออกกำลังกายยามชราอย่าไปคิดมาก ชีวิตเรามีขึ้นมีลง ใช่ว่าเราจะเป็นนางฟ้าตลอด หรือวันนี้เรากินเหลาแพงบ้าง แต่พรุ่งนี้เราอาจจะไปกินข้าวแกงกัน กินฟาสฟู๊ดสองคนมีความสุขเม้าส์มอยส์กัน เราก็ทำแบบนี้ตลอดชีวิตเราสองคน”
“คนคิดว่ากินดีอยู่ดี ต้องปาร์ตี้ ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ ถ้าเป็นแบบนั้นเงินไม่เหลือค่ะ เราต้องเผื่อไว้ใช้ยามแก่ เราต้องบริหารเงินให้เหลืออยู่ เพราะถ้าเราลำบาก เราก็ไม่รู้จะไปหยิบยืมใคร เพราะฉะนั้นก็ต้องรู้จักใช้ชีวิตให้เป็น เอาจริงๆ เพื่อนจะรู้ว่าเมื่อก่อนเป็นคุณนายมาก คุณนายจริงๆ ไม่เคยลำบากเลย ชีวิตสบายมาตลอด แต่วันนึงเราต้องปลงให้ได้ เพราะจุดๆ หนึ่งของชีวิตเรา ทุกคนไม่ได้สวยหรูตลอด เพราะฉะนั้นก็ปลงได้ ใช้ชีวิตได้สบาย หน่อยเค้าก็เหมือนกัน”
ส่วน หน่อย สุรัตนา กล่าวทิ้งท้ายว่า “เนี่ย คือเรามีวิธีคิดแบบนี้ เราก็เลยมีความสุข”