เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 31 มีนาคม ที่รัฐสภา ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นำคณะ แถลงข่าวภายหลังการตรวจสอบอาคารรัฐสภาจากเหตุแผ่นดินไหว ว่า ได้ทำการตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา เป็นการตรวจสอบโดยคณะของผู้ควบคุมงาน มีวิศวกรผู้ควบคุมงานและที่ปรึกษาโครงการ ซึ่งได้ตรวจสอบชั้น บี 1 และ บี 2 ตรวจดูฐานรากว่ามีรอยร้าวหรือไม่ โดยมีอาสาสมัคร ตำรวจสภา บริกร มาช่วยกันตรวจไล่ตามเสา ซึ่งผู้ควบคุมงานได้ให้แนวคิดในการตรวจสอบเบื้องต้น โดยมีรอยร้าวที่ไม่ได้กระทบกับโครงสร้างอาคาร ที่จะทำความเสียหายอย่างรุนแรงได้ หลังจากนั้นในวันที่ 30 มี.ค. ก็มีการตรวจสอบอีกครั้ง นำโดย ศ.การุญ จันทรางศุ อุปนายกสภาวิศวกรคนที่หนึ่ง พบว่าไม่มีข้อกังวลใจ
“โดยดำริของท่านประธานและท่านรองประธานสภา จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบอย่างเป็นทางการ โดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อดูรายละเอียดตามหลักวิศวกร ซึ่งภาพรวมมีความมั่นคงตามผู้เชี่ยวชาญที่มาตรวจสอบ” ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์กล่าว
ขณะที่ ว่าที่ ร.ต.ยุทธนา สำเภาเงิน รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารรัฐสภา ซึ่งจะประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญ เช่น ศ.การุญ จันทรางศุ อุปนายกสภาวิศวกรคนที่หนึ่ง, รศ.อเนก ศิริพานิชกร กรรมการสภาวิศวกร รวมถึงผู้แทนผู้ตรวจสอบอาคาร, ตัวแทนกรมโยธาธิการและผังเมือง เข้ามาร่วมทำการตรวจสอบด้วย โดยจะเชิญเข้ามาเป็นคณะกรรมการ
“จากการตรวจสอบเราพบในส่วนของรอยร้าว แต่เป็นเพียงรอยร้าวที่ไม่กระทบต่อโครงสร้างของอาคาร มีเพียงรอยกะเทาะปูนเล็กน้อย ซึ่งคณะกรรมการคงจะมีการแต่งตั้งวันที่ 2 เม.ย.นี้ โดยรอนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานสภาคนที่หนึ่ง ลงนามและจะรีบดำเนินการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ให้อาคารรัฐสภามีความมั่นคงแข็งแรงปลอดภัย และสามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติ” ว่าที่ ร.ต.ยุทธนากล่าว
เมื่อถามว่า รอยร้าวที่เจอจุดไหนบ้าง ว่าที่ ร.ต.ยุทธนากล่าวว่า มีที่ชั้นบี 2 และชั้น 9 รอยต่อที่เชื่อมต่อไปลานจอดเฮลิคอปเตอร์ นอกจากนี้ยังมีกระจกร้าวอยู่บานหนึ่งที่ห้องปฏิบัติการของคณะกรรมาธิการ ทั้งนี้ เราไม่ได้นิ่งนอนใจในการตรวจสอบ เมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นการตรวจสอบเบื้องต้น แต่เมื่อมีการตั้งคณะกรรมการแล้ว การตรวจสอบก็จะได้มาตรฐานและปลอดภัยจริงๆ ส่วนกรอบเวลาในการตรวจสอบนั้น ไม่ได้กำหนดเวลา แต่เชื่อว่าต้องเร่งด่วน เพราะเรื่องนี้รอไม่ได้ เราต้องสร้างความเชื่อมั่นสร้างความปลอดภัยให้ผู้ที่มาปฏิบัติงานที่อาคารรัฐสภาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสมาชิก ข้าราชการ หรือสื่อมวลชน
ต่อข้อถามว่าแบ่งกันตรวจกับฝั่งวุฒิสภาอย่างไร ว่าที่ ร.ต.ยุทธนากล่าวว่า เราแยกกันตรวจในวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา แต่คณะกรรมการจะร่วมกัน ทั้งฝั่งวุฒิสภาและสภาผู้แทนฯ ส่วนสัญญาณแจ้งเตือน มีการแจ้งเตือนอยู่แล้ว โดยสำนักรักษาความปลอดภัยจะแจ้งเตือนในรูปแบบลักษณะอัคคีภัย
เมื่อถามว่าบันไดหนีไฟบางช่วงมืดสนิท ทำให้ยากต่อการอพยพ จะมีแผนปรับปรุงอย่างไร ว่าที่ ร.ต.ยุทธนากล่าวว่า ต้องเร่งปรับปรุง โดยเฉพาะเรื่องแสงสว่าง และมีการกำชับให้ตรวจไฟทุกดวง หากดวงไหนไม่ติดก็ต้องแก้ไขทุกชั้น ทุกอาคาร ในส่วนของบันไดหนีไฟ และต้องยอมรับว่าในบางจุดอาจจะมีไฟดับบ้าง แต่ย้ำว่าต้องเร่งปรับปรุงโดยด่วน ส่วนแผนอพยพ เราเตรียมความพร้อมอยู่แล้ว เป็นรูปแบบเดียวกันกับการหนีไฟ ทั้งทางเดิน จุดรวมพลเป็นในลักษณะเดียวกัน
เมื่อถามถึงเสียงสะท้อนว่า ส.ว.ที่มาปฏิบัติงานช่วงแผ่นดินไหว แล้วเดินมาทางฝั่ง ส.ส. แต่หลงทางหาทางออกได้ยาก ว่าที่ ร.ต.ยุทธนากล่าวว่า ในอนาคตเราต้องมีการซ้อมแผนบูรณาการร่วมกันอยู่แล้ว และจะต้องมีการระวัง ป้องกัน สำคัญที่สุดคือเรื่องของการอพยพ
ส่วนจะต้องมีการแจ้ง ส.ส.ล่วงหน้าหรือไม่ ว่าที่ ร.ต.ยุทธนากล่าวว่า สำนักงานเลขาฯได้แจ้งไปที่ ส.ส.ให้รับทราบแล้วเรื่องการตรวจสอบอาคาร ความมั่นคงปลอดภัยของอาคาร ในการใช้ปฏิบัติงานหรือการประชุม โดยต้องรอผลของการตรวจสอบที่มีผู้เชี่ยวชาญ
ต่อข้อถามถึงแผนอพยพสำหรับผู้สูงอายุ จะต้องมีแผนสำรองหรือไม่ ว่าที่ ร.ต.ยุทธนากล่าวว่า ทางสำนักรักษาความปลอดภัยได้สาธิตงานไว้แล้ว รวมถึงซักซ้อมแผนเรื่องการอพยพอยู่แล้ว ขอย้ำว่าลักษณะการอพยพเป็นแบบเดียวกัน มีการเตรียมความพร้อมเรื่องการอพยพผู้สูงอายุไว้แล้ว โดยมีลิฟต์สำหรับใช้หนีไฟ เนื่องจากบางคนที่นั่งรถวีลแชร์ ไม่สามารถลงบันไดหนีไฟมาได้