“ช้าง โคลด์ บรูว์ คูล คลับ” (Chang Cold Brew Cool Club) คลับ ที่รวมตัวของคนคูลๆ ให้มาร่วมทำกิจกรรมไลฟ์สไตล์ที่แปลกใหม่และแตกต่างกว่าใคร ผลักดันการแข่งขัน “ช้าง คลับ แชมเปี้ยนชิพ” สู่ทัวร์นาเมนต์กอล์ฟไลฟ์สไตล์ที่คูลที่สุดในไทย จับมือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สมาคมสนามกอล์ฟไทย และบริษัท ซีซีเคกรุ๊ป จำกัด (TaylorMade Thailand) พร้อมด้วยพันธมิตร ร่วมยกระดับและสร้างสรรค์แคมเปญการแข่งขันกอล์ฟไลฟ์สไตล์ที่คูลที่สุด “ช้าง คลับ แชมเปี้ยนชิพ 2025” เปิดโอกาสให้คู่หูนักกอล์ฟสมัครเล่นทั่วประเทศได้ร่วมลุ้นชิงรางวัลใหญ่ที่เอ็กซ์คลูซีฟกว่าเดิม ทั้งการไปทริปบินไปเปิดประสบการณ์ตีกอล์ฟทามกลางวิวภูเขาไฟฟูจิ ที่ประเทศญี่ปุ่น กับ 2 หนุ่ม “เฟย ภัทร เอกแสงกุล” และ “เจมีไนน์ นรวิชญ์ ฐิติเจริญรักษ์” พรีเซนเตอร์หนุ่มคู่ใหม่ของคลับ พร้อมทั้งรางวัลพิเศษรถ BMW X1 รุ่นล่าสุด มูลค่ากว่า 2.4 ล้านบาท ให้ผู้ทำ Hole In One ในรอบชิงชนะเลิศ สามารถสมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่สนามกอล์ฟที่ร่วมกิจกรรมกว่า 20 สนามทั่วประเทศ หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมทาง FB Chang World
นอกจากนี้ ช้าง โคลด์ บรูว์ คูล คลับ ยังทำแบรนด์คอลแลบร่วมกับ TaylorMade แบรนด์อุปกรณ์กีฬากอล์ฟยอดนิยมระดับโลก เปิดตัวคอลเลกชันพิเศษ Chang Cold Brew Cool Club x TaylorMade ดีไซน์สุดหรูสีขาวเขียวสะดุดตา ให้นักกอล์ฟมือสมัครเล่นรุ่นใหม่ได้สะสมที่ประกอบด้วย ถุงกอล์ฟรุ่น Tour Stand Bag คัฟเวอร์ไม้กอล์ฟ ลูกกอล์ฟ ร่ม หมวก กระเป๋าเดินทาง ฯลฯ
โดยในงานแถลงข่าวเปิดตัวการแข่งขันฯ (วันที่ 26 มีนาคม 2568) นอกจากพรีเซนเตอร์หนุ่มคู่ใหม่ของคลับ “เฟย ภัทร” และ “เจมีไนน์” ยังได้เหล่า Golfer Celebrity นำทีมโดย “อาร์ต มารุต” “บอย ภิษณุ” “มะปราง อลิสา” “มายด์ ณภศศิ” “ดีเจเผือก” “ดีเจโบว์” มาร่วมกิจกรรม Near Pin ณ สนามราชกรีฑาสโมสร ชิงรางวัลสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ถุงกอล์ฟ รุ่น Tour Stand Bag ในคอลเลกชันพิเศษ Chang Cold Brew Cool Club x TaylorMade โดยผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศไป ได้แก่ “อาร์ต มารุต” นอกจากนี้ ยังร่วมเดินสายมอบประสบการณ์ที่แตกต่างของการตีกอล์ฟที่มีสีสันและสนุกยิ่งขึ้นตลอดเดือนเมษายน-สิงหาคม 2568
นางเจษฎากร โคชส์ ผู้อำนวยการสำนักการตลาด ช้าง โคลด์ บรูว์ คูล คลับ (Chang Cold Brew Cool Club) กล่าวว่า “ช้าง โคลด์ บรูว์ คูล คลับ ภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมสร้างสีสันให้กับวงการกอล์ฟ กระตุ้นให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมกอล์ฟไลฟ์สไตล์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเดินหน้าสร้างความแตกต่างและแปลกใหม่ ทั้งในส่วนรางวัลที่เงินก็หาซื้อไม่ได้อย่างการเป็น 7 คู่ผู้ชนะและผู้โชคดีได้บินไปตีกอล์ฟทามกลางวิวภูเขาไฟฟูจิ ณ ประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งกติกาและการตัดสินที่ตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น โดยรอบแรกจะแข่งแบบ Best Score รอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศจะแข่งแบบ Scramble แบบเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อเปิดประสบการณ์การแข่งขันแบบชิลๆ สนุกสนานให้กับนักกอล์ฟมือสมัครเล่น เราคาดว่า “Chang Cold Brew Cool Club presents Chang Club Championship 2025” จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักกอล์ฟสมัครเล่นทั่วประเทศเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 2,500 คน และจะเป็นทัวร์นาเมนต์ที่นักกอล์ฟมือสมัครเล่นทั่วประเทศตั้งตารอคอยในทุกๆ ปี และเข้าร่วมกิจกรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแน่นอน”
“ขอขอบคุณพันธมิตรบิ๊กเนมอย่างครบทีมในปีที่ผ่านมา นำโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สมาคมสนามกอล์ฟไทย และบริษัท ซีซีเค กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่าย TaylorMade พร้อมด้วยบริษัทสื่อชั้นนำของประเทศ ทั้ง “Plan B” “Amarin TV” และ “GMMTV” พันธมิตรใหม่อย่าง BMW Auto Millenium ที่ร่วมสนับสนุนรางวัล Hole In One ในรอบชิงชนะเลิศ รวมทั้ง “One Bangkok” “Intercontinental Hua Hin Resort” และ “M Card” พร้อมทั้งสนามกอล์ฟระดับท็อปของประเทศอีกกว่า 20 สนาม ที่เป็นสนามแข่งขันในรายการ Chang Cold Brew Cool Club presents Chang Club Championship 2025” นางเจษฎากร กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับการแข่งขัน Chang Cold Brew Cool Club presents Chang Club Championship 2025 เพื่อค้นหาผู้ชนะและผู้โชคดีทั้งหมด 7 คู่ ร่วมไปทริปตีกอล์ฟ 2 สนาม กับวิวสุดปังที่ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงเดือนตุลาคม ได้แก่ 1) ผู้ชนะอันดับ 1 ของไฟลต์ A, B, C ไฟลต์ละ 1 คู่ รวม 3 คู่ 2) ผู้โชคดีจากการจับฉลากไฟลต์ A, B, C ไฟลต์ละ 1 คู่รวม 3 คู่ และ 3) รางวัล Boobie ของไฟลต์ A, B, C ที่ชนะการแข่ง Challenge Game จำนวน 1 คู่ โดยการแข่งขันแบ่งออกเป็น 4 สาย แข่งกัน 3 รอบ ได้แก่ Chang Cold Brew Cool Club 1 ถึง Chang Cold Brew Cool Club 4 สายละ 5 สนาม
รอบคัดเลือก ทำการแข่งขันในกว่า 20 สนาม แบ่งการแข่งขันเป็น 3 ไฟลต์ A, B, C ทำการแข่งขันแบบ 4 Balls (Stroke Play) คิดคะแนนที่ดีที่สุดของทีมรวม 18 หลุม คิดคะแนนแบบ Net Stableford System ผู้ชนะอันดับ 1 ของแต่ละไฟลต์และผู้โชคดีจากการจับฉลากไฟล์ละ 3 คู่ต่อสนาม จะได้เข้าไปแข่งรอบรองชนะเลิศ 12 คู่ต่อสนาม
รอบรองชนะเลิศ 4 สนาม (ไม่มีค่าใช้จ่ายในการแข่งขัน) ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกในรอบแรกสนามละ 12 คู่ มาแข่งรอบ 2 ในสนามที่กำหนดไว้ของแต่ละสาย 4 สนาม แบ่งการแข่งขันเป็น 3 ไฟลต์ A, B, C ทำการแข่งขันแบบ Scramble ผู้เล่นแต่ละคนเล่นจากพื้นที่ที่ตั้งทีแต่ละหลุม โดยเลือกหนึ่งในลูกที่ตีทีออกไป และผู้เล่นทั้ง 2 คนไปเล่นช็อตที่ 2 จากจุดนั้น และเล่นรูปแบบนี้ในช็อตต่อไปตลอดจนลูกลงหลุม ผู้ชนะอันดับ 1 ของแต่ละไฟลต์และผู้โชคดีจากการจับฉลากไฟลต์ละ 4 คู่ต่อสนาม จะได้เข้าไปแข่งรอบชนะเลิศรวมเข้ารอบ 15 คู่ต่อสนาม รวม 60 คู่เข้ารอบชิงชนะเลิศ
รอบชิงชนะเลิศ (ไม่มีค่าใช้จ่ายในการแข่งขัน) แข่งทั้งหมด 18 หลุม เป็นการเล่นแบบ Texas Scramble คิด Handicap ด้วยระบบ 36 System แบ่งเป็น 3 ไฟลต์ A, B, C ไฟลต์ละเท่าๆ กันโดยประมาณ คิดผลแพ้/ชนะ แต่ละไฟลต์ด้วย Net Stableford System
