ครอบครัวผู้สูญหาย 40 ครอบครัว ทยอยติดต่อ ตรวจดีเอ็นเอแล้ว เพื่อเทียบเคียงกับร่างที่พบ 

เมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ นายรุ่งโรจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี สามีของนางสาววิภาคำ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ตึกถล่ม ได้เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดเหตุกินไม่ได้ นอนไม่หลับ เฝ้าติดตามสถานการณ์ในการค้นหาผู้รอดชีวิตของเจ้าหน้าที่

กระทั่งเมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่เห็นแหวนที่ภรรยาสวมใส่ พร้อมทั้งชุดของบริษัทที่ตนและภรรยาทำอยู่ จึงได้สอบถามมายังตน ว่าร่างที่เจอเมื่อคืนนี้เป็นภรรยาหรือไม่ เมื่อเห็นจึงจำได้ทันทีว่าแหวนดังกล่าวคือแหวนที่ภรรยาใส่เอาไว้ในช่วงที่มีชีวิตอยู่ ซึ่งแหวนนี้เป็นวงที่ภรรยารัก ถึงแม้ว่าจะมีราคาเพียง 50 บาท แต่เจ้าตัวก็ใส่ติดตัวไม่เคยถอด เมื่อเห็นแหวนที่อยู่ในนิ้ว ก็มั่นใจว่าเป็นภรรยาอย่างแน่นอน

โดยในวันเกิดเหตุภรรยามีหน้าที่ขับลิฟต์รับส่งคนงาน ส่วนตนทำหน้าที่ให้สัญญาณกับเครนที่อยู่บนดาดฟ้า ซึ่งในวันเกิดเหตุช่วงพักเที่ยงตนกับภรรยามานั่งกินข้าวอยู่ด้วยกัน และมีการพูดคุยเรื่องทั่วไป ปกติแล้วภรรยาไม่ใช่คนที่แสดงความรักเก่ง ก็แปลกใจ ไม่คิดว่าการกินข้าวเที่ยงด้วยกัน ในวันนั้นจะเป็นมื้อสุดท้าย

ภรรยาทำงานอยู่บริเวณชั้น 28 ตนอยู่บริเวณหน้าตึก ในตอนที่เกิดเหตุนั้นตนเองได้ยินเสียงเหมือนปูนลั่นจำนวน 2 ครั้ง จึงพยายามโทรหาภรรยา แต่ไม่สามารถติดต่อได้

หลังจากนั้น เมื่อปูนลั่นครั้งที่ 3 ตึกก็ถล่มลงมา ตนวิ่งเอาตัวรอดออกมา โดยในระหว่างที่วิ่งเอาตัวรอดออกมา ก็ยังพยายามโทรศัพท์ไปหาภรรยาอยู่เรื่อยๆ แต่ไม่รับ หลังจากนั้นฝุ่นจาง ก็รีบวิ่งกลับไปที่กองซากตึก และไปเรียกหาภรรยาอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่มาดึงตนออกไป

เมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่เจอร่างของภรรยา ตั้งใจว่าจะนำร่างภรรยากลับไปประกอบพิธีกรรมตามศาสนาที่ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ และจะกลับมาทำงานรับจ้าง เพื่อเก็บเงินส่งให้ครอบครัวและลูกต่อไป เนื่องจากไม่มีทรัพย์สินอื่น

ทางด้าน พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีร่างของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ตึกถล่ม ถูกส่งมาพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลที่สถาบันนิติเวชวิทยา แล้วจำนวนทั้งหมด 12 ร่าง ซึ่งตอนนี้สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์ตัวบุคคลได้ครบทุกร่างแล้ว แต่ยังมีปัญหาในส่วนของร่างที่เป็นแรงงานชาวต่างชาติจำนวน 1 ร่าง ที่ทางแพทย์นิติเวชพิสูจน์ได้แล้วว่าเป็นบุคคลใด แต่ยังไม่มีบริษัท หรือญาติของผู้เสียชีวิตรายนี้เข้ามายืนยัน

อยากจะขอวิงวอนให้บริษัทต้นสังกัดของผู้เสียชีวิตเข้ามาติดต่อ เพื่อรับร่างของผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลตามหลักศาสนา ส่วนในเรื่องของการตรวจดีเอ็นเอ ในตอนนี้มีครอบครัวของผู้สูญหายจำนวนกว่า 40 ครอบครัว เข้ามาติดต่อและขอเก็บดีเอ็นเอเพื่อเป็นฐานข้อมูลเอาไว้แล้ว

แต่ยังมีอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้เข้ามาติดต่อ เนื่องจากในตอนนี้ตัวเลขของผู้สูญหาย ทราบว่ามีประมาณ 76 ราย จึงอยากประชาสัมพันธ์ให้ญาติ ของผู้สูญหายในเหตุการณ์ตึกถล่มเดินทางเข้ามาที่สถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อเก็บหลักฐานทางดีเอ็นเอ และเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความ โดยสามารถเดินทางมาที่สถาบันนิติเวชวิทยาได้เลย เพราะที่นี่เรามีการจัดเตรียมพนักงานสอบสวน พร้อมกับเขตในการแจ้งใบมรณบัตรเอาไว้แล้ว