รมว.นฤมล นำกระทรวงเกษตรฯ ยืนไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหว กำชับนโยบาย ขรก.ต้องกล้าสู้เพื่อประโยชน์ของเกษตรกรไทย ขอทุกคนช่วยดูแลเกษตรกรของพระราชา
เมื่อวันที่ 1 เม.ย.2568 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ นายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีเปิดวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครบรอบ 133 ปี
ก่อนเริ่มพิธี ศ.ดร.นฤมล ได้แจ้งต่อผู้บริหารและข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ ถึงสถานการณ์เหตุแผ่นดินไหว เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มี.ค.2568 ทำให้มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตทั้งในประเทศไทยและเมียนมา โดยเฉพาะประชาชนภาคการเกษตรที่ว่างเว้นจากช่วงเพาะปลูกก็จะเดินทางเข้ามาใน กทม.เพื่อรับจ้างงานก่อสร้าง
ในนามกระทรวงเกษตรฯ ขอส่งความห่วงใยถึงประชาชนที่รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต พร้อมนำผู้บริหารและข้าราชการยืนไว้อาลัยในเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเวลา 1 นาที
จากนั้น ศ.ดร.นฤมล ได้มอบนโยบายขับเคลื่อนงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า กระทรวงเกษตรฯจะสืบสานงานพระราชดำริ และถวายงานให้กับพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพราะกรมต่างๆ ของกระทรวงเกษตรฯ เกิดขึ้นเพราะในหลวง ร.9 และ ร.10 สานงานต่อ ซึ่งก็คือการดูแลเกษตรกรของพระราชา
ดังนั้น เราจึงต้องดูแลผลประโยชน์ของพี่น้องเกษตรกรเป็นหลัก เพื่อดูแลชีวิตความเป็นอยู่และรายได้ของเกษตรกร รวมถึงลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในภาคการเกษตร ไม่ว่าจะเป็น การเจรจาการค้าระหว่างประเทศในภาคการเกษตร และการค้าภายในประเทศ
“ครอบครัวข้าราชการต้องกล้าที่จะต่อสู้และคำนึงถึงผลประโยชน์ของประขาชนและเกษตรเป็นหลัก อะไรที่เกี่ยวกับการเจรจาเรื่องการค้า ไม่ว่าการเจรจาเรื่องการค้าระหว่างประเทศที่เอาภาคการเกษตรไปแลก ข้าราชการต้องกล้าพูดว่า มันไม่เหมาะสม หากเกิดผลกระทบต่อเกษตรกรเราโดยรวมทุกอย่างเกษตรกรต้องได้รับประโยชน์ แม้แต่เรื่องนโยบายก็เช่นกัน หากอันใดที่เกิดประโยชน์ให้ทำสิ่งไหนที่กระทบต่อเกษตรกรและมันเกิดประโยชน์ต่อภาคเอกชนต้องระมัดระวังไม่ให้ทำเด็ดขาด “ศ.ดร.นฤมล กล่าว
ศ.ดร.นฤมล ยังกล่าวถึงเป้าหมายการดำเนินงานของกระทรวงเกษตรฯในปีนี้ จะเดินหน้าตามกรอบเดิมที่ได้วางเอาไว้ เช่น การแจกโฉนดเพื่อการเกษตร ที่เป็นนโยบายเดิมที่เราได้สานงานต่อจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรมว.เกษตรฯ ที่ปัจจุบันสามารถแจกไปได้ประมาณ 4.5 ล้านไร่ ซึ่งเราตั้งเป้าหมายไว้ที่ 22 ล้านไร่
รวมทั้งเราจะออกโฉนดต้นยางให้กับเกษตรกรที่มีเอกสารสิทธิถูกต้องตามกฎหมาย จำนวน 11.17 ล้านไร่ และโฉนดต้นไม้ เพื่อสร้างมูลค่าให้กับต้นยางพาราหรือต้นไม้ที่ปลูกอยู่บนที่ดินของตนเองไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการขอสินเชื่อจาก ธ.ก.ส.และนำไปลงทุนต่อยอดทางธุรกิจได้ โดยเราตั้งเป้าออกโฉนดต้นยางให้ครอบคลุมพื้นที่ปลูกยางพาราทั้งหมด เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง และในอนาคตชาวสวนยางยังสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิต เพิ่มเป็นรายได้เสริมด้วย
สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วยพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง พิธีการเจริญพระพุทธมนต์ พิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2567 พิธีการมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติสืบสานเกษตรกรรมยั่งยืน และรางวัลการประกวดการออกแบบตราสัญลักษณ์ 133 ปี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์