ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
---|
แผ่นดินไหว – เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดในประเทศเมียนมาแล้วกระทบมาถึงไทยหลายจังหวัดทั้งภาคเหนือและภาคกลาง
แม้แต่กรุงเทพมหานครที่เหมือนจะอยู่ห่างไกล แต่เอาเข้าจริงก็หนักหนาสาหัส
กระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝัน อาคารกำลังก่อสร้างสูง 30 ชั้นถล่ม ทำให้หลายหน่วยงานถูกตั้งคำถาม
ระบบการรับมือภัยพิบัติไทยยังไปไหวไหม
หนึ่งในระบบการรับมือที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์คือ การให้ข่าวสารแก่มวลชนที่ประสบเหตุ
หนึ่งในการให้ข่าวสารคือระบบการส่งเอสเอ็มเอส ที่พบว่าล่าช้ามาก
ตรวจสอบคร่าวๆ พบว่า กระบวนการแจ้งข่าว เริ่มจากกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดีอี กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย และ กสทช.
เบื้องต้นพบว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้งให้ดำเนินการแจ้งข่าวแก่ประชาชนจำนวน 4 ครั้ง
โดยประสานให้ กสทช.ประสานค่ายโทรคมนาคม
แล้วพบว่า ระบบการแจ้งภัยดังกล่าวมีอุปสรรคตรงที่มีการจำกัดจำนวนการส่งเอสเอ็มเอส
ส่งได้ครั้งละ 200,000 เลขหมาย
สุดท้ายก็มีข่าวว่า กสทช.เองก็มีปัญหาภายใน เนื่องจากมีคำสั่งที่กำชับให้ต้องฟังประธาน กสทช.
เข้าใจว่าเหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะ กสทช.ระยะหลังตกอยู่ในความขัดแย้งกันเอง
คณะกรรมการ กสทช.ไม่ถูกกัน นี้ทำให้ กสทช.ขับเคลื่อนงานต่างๆ ไม่ได้
สมัยก่อนหน้านี้ กสทช.เป็นตัวหลักในการปักหมุดโครงสร้างพื้นฐานทางโทรคมนาคมของประเทศ
ไทยก้าวจากยุค 4G ไปสู่ยุค 5G เป็นความหวังว่า ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานทางโทรคมนาคมจะนำไปสู่การพัฒนาและการลงทุน
โชคร้ายของประเทศที่ระยะดังกล่าวเกิดการเปลี่ยนแปลง กสทช.
จากชุดเดิมสู่ชุดใหม่ ข่าวสารการทะเลาะกันภายในดังกลบข่าวการพัฒนาประเทศ
ข่าวการแบ่งฝักฝ่าย ข่าวการฟ้องร้องกันเอง ข่าวองค์ประชุมมีปัญหา
คิดดูเอาเองก็แล้วกันว่า องค์กรที่มีกระแสข่าวแบบนี้ออกมาตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ที่ไหนจะมีกะใจทำงาน
ทั้งๆ ที่งาน กสทช.นั้นเป็นหัวใจของการพัฒนาประเทศ
ไทยจะเป็นฮับดิจิทัล กสทช.นี่แหละคือองค์กรสำคัญในการช่วยกันผลักดัน
ความเชื่อมั่นจากต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุน ภาพลักษณ์ของ กสทช.ก็เป็นหนึ่งในการสร้างความเชื่อมั่น
แต่กลับปรากฏว่า กสทช.มีแต่ข่าวขัดแย้ง ไม่ลงรอยกัน
เหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเมียนมาแล้วสะเทือนมาถึงเมืองไทย ปัญหาการส่งเอสเอ็มเอสที่ล่าช้าจนนายกฯแพทองธาร ชินวัตร ถามหาสาเหตุ
นี่ก็เป็นเรื่องที่สังคมจับจ้องมองไปที่ กสทช.
หลายคนกลุ้มใจที่ กสทช.ยุคนี้ ไม่ใช่ กสทช.เจ้าปัญญา ที่เชี่ยวชาญไฮเทค ผลักดันให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าทัดเทียมอารยประเทศ
แต่กลับกลายเป็น กสทช.เจ้าปัญหา
เริ่มต้นจากปัญหาภายในของตัวเอง แล้วขยายไปก่อปัญหาให้กับเครือข่ายผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ที่ผ่านมาเป็นปัญหาที่ยังไม่กระทบโดยตรงต่อความปลอดภัยของประชาชน
แต่ครั้งนี้เริ่มสงสัยว่า หาก กสทช.ยังมีความขัดแย้งต่อไป นอกจากผลกระทบด้านการพัฒนาประเทศแล้ว ยังอาจจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนหรือเปล่า
ดังนั้น ไหนๆ นายกฯจะถามหาคำตอบเกี่ยวกับเอสเอ็มเอส การแจ้งเตือน การแจ้งข่าว จากแผ่นดินไหวครั้งที่ผ่านมาว่ามีสาเหตุ และจะแก้ไขกันอย่างไรแล้ว
หากจะพ่วงรวมไปดูปัญหาของ กสทช.แล้วหาวิธีแก้ไขด้วยก็จักเป็นพระคุณ
เพราะไม่ควรปล่อยให้ปัญหาที่หมักหมมภายในกลายเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน
หากปล่อยให้ความขัดแย้งภายในส่งผลกระทบถึงประเทศชาติและประชาชน
อย่างนี้ มันไม่ไหวนะท่าน