เมื่อวันที่ 2 เมษายน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์ ชั้น LG ฮอลล์ 5-8 เขตคลองเตย สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) จัดงาน ’สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23‘ ภายใต้แนวคิด “ย ยักษ์ อ่านใหญ่” ซึ่งนับเป็นการจัดใหญ่ที่สุดในรอบ 53 ปี บนพื้นที่กว่า 20,000 ตรม. และใหญ่สุดในอาเซียน

โดย สำนักพิมพ์มติชน (บูธ J02) ร่วมสร้างสรรค์ของพรีเมียมสุดพิเศษในธีม “Read Friendly” ที่ออกแบบโดย “ตุลยา ตุลย์วัฒนจิต” หรือ TUNA Dunn พร้อมด้วยโปรโมชั่นส่วนลดจัดเต็มตลอด 13 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม – 8 เมษายน 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 21.00 น. โดยเป็นการขยายวันจัดงานเพิ่มอีก 1 วัน เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา

เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่า ประชาชนร่วมเลือกซื้อหนังสือภายในบูธสำนักพิมพ์มติชนกันตลอดทั้งวัน โดยวันนี้เป็นการจัดงานวันที่ 7 ของงานสัปดาห์หนังสือฯ นักอ่านยังคงให้ความสนใจหนังสือหลากหลายแนว โดยเฉพาะหนังสือแนวประวัติศาสตร์ ซึ่งมีโปรโมชั่นหนังสือใหม่ลด 15 เปอร์เซ็นต์ และหนังสือขายดีลด 20 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังสามารถนำใบเสร็จแลกของที่ระลึกสุดพรีเมียมกันอย่างคึกคัก

นายเขมภัทร ทฤษฎิคุณ นักกฎหมาย หนึ่งในผู้ร่วมเยือนบูธสำนักพิมพ์มติชน โดยเลือกซื้อหลากหลายเล่ม อาทิ ภารตะ-สยาม มูฯ ไทย ไสยฯ อินเดีย ผลงานของ คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง, Soft Power อำนาจโน้มนำ: หนทางสู่ความสำเร็จในการเมืองโลก เขียนโดย โจเซฟ เอส. นาย จูเนียร์ ลัประชาธิปไตยไทยที่ถดถอย: สมรภูมิการเมืองไทยสู่ความขัดแย้งใหม่ที่ยังไม่จบ เขียนโดย ประจักษ์ ก้องกีรติ เป็นต้น

นายเขมภัทรกล่าวว่า ปกติแล้วตนอ่านหนังสือแนวประวัติศาสตร์และการเมืองอยู่แล้ว แล้วยังติดตามผลงานของ คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง หรือ อ.ตุลย์ ที่เขียนลงในนิตยาสารมติชนสุดสัปดาห์ และศิลปวัฒนธรรม จึงตั้งใจมาซื้อหนังสือรวมผลงานของอ.ตุลย์

“ผมคิดว่าหนังสือการรวมเล่มครั้งนี้ เนื้อหาอาจจะไม่ได้แตกต่างจากเนื้อหาที่เคยติดตามมาก่อนหน้านี้อยู่แล้วนัก แต่ว่าสิ่งที่น่าสนใจของการรวมเล่ม คือ อ.ตุลย์เขาจะมีการจัดหมวดหมู่ของเขามาให้ มันจะทำให้เราเห็นความเชื่อมโยงกันของเรื่องต่างๆ ชัดยิ่งขึ้น ซึ่งมันเป็นความสนุกในการติดตามงานของอ.ตุลย์ หรือ การที่เขาเขียนหนังสือสัก 1-2 หน้าในแต่ละบทเพื่อนำทางให้เห็นว่า ประเด็นของกลุ่มนี้ คืออะไร เช่น ถ้าพูดถึงเรื่องศาสนา กับ ความใจกว้างของมนุษย์ เราจะมองค่าของมนุษย์ผ่านศาสนาได้อย่างไรบ้าง อันนี้ก็คิดว่าเป็นมุมที่น่าสนใจ” นายเขมภัทรชี้

นายเขมภัทรกล่าวอีกว่า ผลงานที่อ.ตุลย์ทิ้งไว้ ตนคิดว่ามันกำลังทำงานกับคนในสังคมปัจจุบันอยู่ โดยจะเห็นได้ว่าคนรุ่นใหม่ก็มักจะมีการมูเตลูมากขึ้น ซึ่งมันก็อาจจะสะท้อนว่าเราไม่ได้มองศาสนาแค่เป็นที่พึ่งทางจิตใจ แต่เรามองเห็นถึงวัฒนธรรมอื่นๆ ในการเอามาเยียวยาตนเองในสังคมที่มีความเจ็บป่วย หรือ การมูเตลูก็อาจจะมีนัยยะอื่นๆ มันก็ชี้ให้เห็นว่าคนในสังคมก็มีความต้องการสิ่งที่เข้าถึงจิตใจเราอีกหลายแบบ โดยงานของอ.ตุลย์พยายามเสนอมาตลอดว่า จริงๆศาสนามันมีมิติทั้งในเรื่องของศาสนพิธีพวกนี้อยู่

“ผมคิดว่าปัจจุบันหนังสือยังมีความจำเป็นอยู่ แม้ว่าจะมีเอไอมาเป็นส่วนช่วยเราย่นยาระยะเวลาในการหาข้อมูล แต่ว่าการอ่านหนังสือมันเป็นการเก็บ Knowhow ให้เป็นของเรา ด้วยวิธีการจัดการความรู้ของเราเอง ซึ่งอาจจะมีการใช้เอไอในบางส่วนที่เราไม่เข้าใจ เอามาแลกเปลี่ยน ขยายความเนื้อหาก็ได้ แต่ถ้าจะใช้เอไอเห็นเป็นแหล่งความรู้ ผมคิดว่ามันยังต้องพัฒนาอีกเยอะ” นายเขมภัทรกล่าวทิ้งท้าย

นอกจากนี้ผู้สื่อรายงานอีกว่า นายเขมภัทร นำใบเสร็จจากการซื้อหนังสือภายในบูธสำนักพิมพ์มติชน เพื่อแลกกระเป๋าผ้าและกระเป๋าสีดำ ลวดลายน้องหมาสุดน่ารัก ที่ออกแบบโดย TUNA Dunn

โดย งานสัปดาห์หนังสือฯครั้งนี้ สำนักพิมพ์มติชนมาในธีม “Read Friendly” ที่ออกแบบโดย “ตุลยา ตุลย์วัฒนจิต” เพื่อส่งเสริมให้นักอ่านได้ร่วมสร้าง “พื้นที่” การอ่านให้ขยายไร้ขอบเขตมากขึ้น พร้อมแบ่งปันความรู้ถึงเพื่อนนักอ่านทุกเพศทุกวัย จนถึงการอ่านกับสัตว์เลี้ยงคู่ใจอย่าง น้องหมา น้องแมว ที่แม้ว่าพวกมันอาจไม่เข้าใจเนื้อหา แต่กลับสร้างบรรยากาศดีๆ ความรู้สึกอบอุ่นและส่งกำลังใจอย่างเต็มอิ่ม

สำหรับโปรโมชั่นแห่งการสร้างพื้นที่ของการอ่านหนังสือกับสัตว์เลี้ยงคู่ใจ  มาพร้อมส่วนลดหนังสือที่เป็นของขวัญให้แก่นักอ่านทุกท่าน โดยหนังสือใหม่ลด 15% หนังสือขายดีลด 20%

รวมถึง โปรโมชั่น Grab & Go หนังสือชุดราคาพิเศษ ที่สามารถซื้อได้ที่หน้าบูธสำนักพิมพ์มติชน J02, สั่งออนไลน์ผ่านเว็บไซต์สำนักพิมพ์มติชน www.matichonbook.com หรือ สั่งผ่านบริการรับหิ้วผ่าน ID Line : 0947027777

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถมาเยี่ยมชมและเลือกซื้อหนังสือจากสำนักพิมพ์มติชน J02 ได้ตลอด 13 วันตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม – 8 เมษายนนี้ เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์ ชั้น LG ฮอลล์ 5-8