พิจิตรเกาะติดความคืบหน้าจากเหตุการณ์เด็กอายุ 9 ขวบ ไร้เดียงสาเจอวัตถุตกอยู่ข้างทางหยิบขึ้นมาดูแล้วเกิดระเบิดเสียชีวิต แม่แจ้งความไม่คืบหน้าร้องสื่อจนเกิดกระแสสนั่นโซเชียล ผู้การตำรวจพิจิตรเต้นลงพื้นที่ขณะดูที่เกิดเหตุเจอวัตถุคล้ายระเบิดแสวงเครื่องตกค้างคาอยู่ในที่เกิดเหตุ สั่ง EOD เก็บกู้ส่งชุดสายสืบหาข่าว ล่าสุดเจอแก๊ง 4 วัยโจ๋ อายุ 16-17 ปี ดูยูทูปหัดทำระเบิดจากลูกบอลระเบิดไล่นกทดสอบความห้าวปาเล่นตั้งแต่ช่วงฉลองปีใหม่ลูกไหนดังก็เฮ ลูกไหนไม่ดังก็ทิ้งชั่งหัวมันจนกลายเป็นเหตุน่าเศร้าดังกล่าว รองผู้ว่าฯพิจิตร จับมือ พม.หาทางช่วยเยียวยาเงินจากกองทุนยุติธรรม

 วันที่ 3 เมษายน 2568  นายกิตติพล เวชกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พล.ต.ต.ฐเดช กล่องเกลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร และผกก.สภ.วังทรายพูน และนายอำเภอวังทรายพูนและ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)พิจิตร ร่วมกันสอบปากคำ 2 วัยรุ่น นามสมมุติ นายต้นกับนายต้อม ซึ่งให้การรับสารภาพว่า ตนเองและเพื่อนอีก 2-3 คน ที่ร่วมกันทำระเบิดแสวงเครื่องไทยประดิษฐ์ โดยดูจากยูทูป ที่ใช้อุปกรณ์จากลูกบอลประทัดไล่นกแกะเอาดินปืนออกแล้วเอามาผสมกับโลหะตามที่ยูทูปสอนที่ทำขึ้นเพื่อความสนุกสนานใช้ขว้างปาเล่นเมื่อช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นบริเวณกลางทุงนาและข้างถนนคอนกรีต ถนนบ้านหนองพง หมู่ 15 ตำบลหนองพระ อ.วังทรายพูน ซึ่งห่างจากบ้านของกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ประมาณ 100-200 เมตร

โดยช่วงที่เล่นปาระเบิดนั้น ลูกไหนส่งเสียงดังก็สะใจสนุกสนาน ลูกไหนไม่ดังก็ร่วงหล่นทิ้งค้างอยู่ข้างถนน ซึ่งก็ไม่นึกว่า เด็กชายอัครเดช หรือ “น้องนาย” อายุ 9 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของ น.ส.รัศมี อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นชาววังทรายพูน แต่ไปทำงานที่โรงงานแถวจังหวัดอยุธยา ซึ่งในช่วงที่ลูกปิดเทอมจึงพาลูกๆ ทั้ง 3 คน กลับมาเยี่ยมบ้านตากับยาย ซึ่งอยู่ที่บ้านเลขที่ 70 หมู่ 1 ต.วังทรายพูน อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร ในวันเกิดเหตุคือวันที่ 23 มี.ค. 67 “น้องนาย”และพื่อนอีก 3-4 คน วิ่งเล่นกับเพื่อนและจะเดินไปซื้อขนมร้านค้า ซึ่งห้างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร เมื่อถึงจุดเกิดเหตุด้วยความที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์เห็นวัตถุก้อนสีดำๆขนาดเท่ากำปั้นอยู่ข้างทางจึงหยิบขึ้นมาดู ซึ่งก็มีเพื่อนๆ 3-4 คน อยู่ในที่เกิดเหตุนี้ด้วย แต่แล้วระเบิดเกิดดังขึ้นซึ่งอาจเป็นเพราะระเบิดลูกดังกล่าวตากแดดและมีความร้อนเมื่อเกิดการสั่นไหวมีแรงเสียดสีจึงเกิดระเบิดขึ้นส่งผลให้ เด็กชายอัครเดช หรือ “น้องนาย” อายุ 9 ขวบ เสียชีวิตจนเป็นเหตุสลดดังกล่าว

ซึ่งหลังจากเกิดเหตุแล้ว น.ส.รัศมี “ผู้เป็นแม่น้องนาย”ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.วังทรายพูน แต่คดีไม่คืบหน้าจึงร้องเรียนสื่อมวลชนแขนงต่างๆจนโด่งดังในโซเชียลส่งผลให้ผู้ว่าฯพิจิตร ผู้การตำรวจพิจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 6 ให้ความสนใจและสั่งเร่งรัดคดี ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 24 ชม. ก็สามารถคลี่คลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวได้จนสามารถพบตัวว่าวัยรุ่นที่ทำระเบิดครั้งนี้ก็คือวัยโจ๋ที่คึกคะนองในหมู่บ้านนั่นเอง ส่วนรูปคดีนั้นตำรวจ สภ.วังทรายพูน และนักสงเคราะห์ นักจิตวิทยา ขอให้เวลาสอบสวนเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเด็กและผู้ปกครองตามกฎหมายต่อไป

ในส่วนของ นายกิตติพล เวชกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยถึงการช่วยเหลือเยียวยา น.ส.รัศมี จันทรา “ผู้เป็นแม่น้องนาย”ที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดครั้งนี้ว่าได้สั่งการให้ตำรวจทำสำนวนให้รอบคอบรัดกุมและละเอียดที่สุดเพื่อที่จะส่งเรื่องร้องขอความช่วยเหลือจากเงินสงเคราะห์ผู้ประสบเหตุประสบภัยจากกองทุนยุติธรรมจังหวัดพิจิตร เพื่อเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนจากการสูญเสียในครั้งนี้อีกด้วย